หลังจากอ่านข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ 2 แห่งในช่วง 2 วันติดทำให้ผมนึกถึงเพลงที่ผมเขียนไว้เองว่า

“โลกนี้มีมาก่อนผู้คน / แต่โลกจะทนอยู่ได้นานสักเท่าใด /ถ้าเงินหมื่นแสนล้านถูกผลาญไป /สร้างอาวุธมายื่นใส่ในมือคน”

ต่อมาเนื้อเพลงท่อนนี้ก็ถูกนำไปเขียนต่อโดย น้าแอ๊ด คาราบาวกลายเป็นท่อนเปิดของเพลง “ขวานไทยใจหนึ่งเดียว” เมื่อปี 2547

ข่าวแรกจากสำนักข่าวอเมริกันแห่งหนึ่ง บอกว่า สหรัฐอเมริกากำลังเตรียมการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ และรอขอเสียงสนับสนุนจากสภาคองเกรส ซึ่งระเบิดนิวเคลียร์รุ่นใหม่นี้จะมีอำนาจทำลายล้างสูงกว่าที่หย่อนใส่ฮิโรชิม่าเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 24 เท่า

แถมยังบอกว่า ถ้าระเบิดถูกทิ้งลงไปที่มอสโก จะทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีกว่า 310,000 ศพและผู้บาดเจ็บขึ้นไปถึงเกือบ 900,000 คน หรือถ้าทิ้งลงที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัสเซีย จะมีผู้อยู่อาศัยตายกว่า 360,000 ศพ

ทุกคนที่อยู่ในรัศมี 1 ไมล์ของการระเบิด จะตายเกลี้ยง และผู้ที่อยู่อาศัยในรัศมี 2 ไมล์ จะตายด้วยผลพวงของกัมมันตภาพรังสี

ส่วนอีกข่าวมาจากสำนักข่าวรัสเซีย รายงานคำพูดของ นิโคไลปาทรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย ว่า ประเทศของเขามีอาวุธพิเศษที่จะการันตีความมั่นคงของรัสเซียไปอีกนานหลายทศวรรษ อาวุธรุ่นใหม่รวมถึงไฮเปอร์โซนิก มีระยะทำการไกลถึง 1,000 ไมล์

เหมือนการออกข่าวบลัฟกันไปขู่กันมา แต่การที่รัสเซียประกาศถอนตัวออกจากพันธสัญญาการห้ามทดลองนิวเคลียร์เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ข่าวพวกนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ประธานาธิบดีปูติน ก็ย้ำว่า รัสเซียคงจะไม่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ถ้าอเมริกาไม่เริ่มก่อน

สถาบันวิจัยสันติภาพสตอกโฮล์ม ประกาศข้อมูลว่าคลังอาวุธ นิวเคลียร์ของรัสเซียตอนนี้มีตัวเลขอยู่ที่ 5,889 หัวรบขณะที่อเมริกาก็มีใกล้เคียงกันที่ 5,224 หัวรบ ดูแล้วน่าขนพองสยองเกล้า นี่ขนาดยังไม่พูดถึงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศต่างๆ เช่น จีน, อิหร่าน, เกาหลีเหนือ ฯลฯ

ขณะที่สงครามรัสเซียปะทะยูเครนและนาโตยังไม่จบ สงครามอิสราเอลกับฮามาสเพิ่งเริ่มมาไม่นาน และมีหลายฝ่ายรอพร้อมจะเข้าไปบวกด้วย ประเทศทั่วโลกก็คงได้แต่หวังว่า2 ยักษ์ใหญ่ผู้ครองอาวุธมหาศาลจะไม่หมดความอดทนง่ายๆ เพราะนิวเคลียร์ไม่เหมือนเอากระบองไล่ตีหัวกันในยุคดึกดำบรรพ์

ผมไม่ได้ตีตนไปก่อนไข้ เพียงแต่จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมาจริงๆ ทั้งโลกก็จะได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัสด้วย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่

สงครามไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากผลประโยชน์ของพ่อค้าอาวุธที่ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ

ในสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับพวกเราที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ก็ควรหวังให้รัฐบาลไทยใช้วิถีทางการทูตอย่างชาญฉลาด อย่าเอาประเทศเข้าไปร่วมในความขัดแย้ง เราเป็นประเทศเล็กจ้อย ขนาดเรือดำน้ำสักลำก็ยังไม่มี เพราะฉะนั้นรักษาระยะห่างได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี

และภาวนาอย่าให้มีผู้นำตัวตลกแบบยูเครนก็พอ

ทิวา สาระจูฑะ