วันนี้เป็นวันสำคัญ“5 ธันวาคม” นอกจากเป็นวันชาติ วันพ่อแห่งชาติ และเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว วันนี้ก็ยังเป็นวัน“ดินโลก”
โดยวันดินโลกนี้เกี่ยวเนื่องกับในหลวงรัชกาลที่ 9เนื่องจากในปี 2556 องค์การสหประชาชาติมีมติประกาศตั้งวันนี้ขึ้นมา ก็เพื่อให้วันดินโลก หรือ“World Soil Day” ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยเพราะเห็นว่าพระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาที่ดินในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
กล่าวได้ว่า 70 ปีการครองราชย์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น เป็น 70 ปีแห่งการปกครองแผ่นดินโดยธรรม พระองค์จึงทรงเป็นทั้ง “พ่อของแผ่นดิน”ของพสกนิกรชาวไทย และ “บุคคลของโลก”ที่ทรงตรากตรำทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชน
นับแต่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นต้นมา ด้วยความห่วงใยในทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ และด้วยพระราชปณิธานของพระองค์ซึ่งทรงมีพระราชดำรัสว่า “ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการอยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า...นั่นก็คือคนไทยทั้งปวง” พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทยากจน อยู่ในภูมิภาคต่างๆ มากกว่าประทับอยู่ในพระราชวัง ทั้งนี้ ก็เพื่อทรงค้นหาข้อมูลที่แท้จริงจากราษฎร พร้อมกับทรงสังเกตการณ์ และสำรวจสภาพทางภูมิศาสตร์ไปพร้อมๆ กันด้วย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2496 เป็นต้นมา จึงมีโครงการต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้นจากที่พระองค์ทรงงานอย่างหนัก ทั้งโครงการตามพระราชประสงค์, โครงการหลวง, โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์ และโครงการตามพระราชดำริ หรือ“โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
เฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยนั้น มีเกือบ 4 พันโครงการ แยกเป็นโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ 3,248 โครงการ, โครงการพัฒนาด้านการเกษตร 170 โครงการ, โครงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม 182 โครงการ, โครงการพัฒนาด้านส่งเสริมอาชีพ 339 โครงการ และโครงการพัฒนาด้านสาธารณสุข 58 โครงการ
หากจะนับระยะทางตลอดรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ช่วงเวลา 70 ปีนับแต่ทรงครองราชย์ในวันที่ 9 มิถุนายน 2489-13 ตุลาคม 2559 ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานและเยี่ยมเยียนประชาชน จนกล่าวได้ว่าไม่มีพื้นที่ไหนในประเทศไทยที่พระองค์ไม่เคยเสด็จฯไป รวมแล้วมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 1,750,000 กิโลเมตร เท่ากับว่าพระองค์เสด็จฯทรงเยี่ยมราษฎรประมาณ 25,000 กิโลเมตรต่อปี
และเมื่อเทียบกับระยะทางของดวงจันทร์ ซึ่งดวงจันทร์อยู่ห่างจากโลก 363,000 กิโลเมตร โดยคำนวณจาก 25,000 กิโลเมตร คูณกับ 70 ปีที่ทรงครองราชย์ จะพบว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไป-กลับระหว่างโลกกับดวงจันทร์ถึง 4 เที่ยว
อย่างไรก็ตาม การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั่วทุกภาคทุกจังหวัดของประเทศไทยนั้น พระองค์ทรงเริ่มที่ภาคกลางเป็นแห่งแรกที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2498 และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2498 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดสุพรรณบุรี
ในครั้งที่สองนี้มีบันทึกว่า ที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี มีประชาชนมาเฝ้าฯรับเสด็จล้นหลามทั้งสองพระองค์คือในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จลงจากรถพระที่นั่งปฏิสันถารกับราษฎร โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีรับสั่งถามหญิงชราคนหนึ่งว่า มีฝนตกลงมามากในระยะนี้ การทำนาและน้ำสำหรับรับประทานพอใช้ไหม? หญิงชราทูลว่า มีใช้พอเพียง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9ทรงรับสั่งถามต่อว่าอยู่ที่ไหน ทำมาหากินอะไร? หญิงชราทูลตอบว่า“ตั้งร้านค้าขายอยู่ในตลาดจ๊ะ” พระเจ้าอยู่หัวทรงซักถามอีกว่า“ร้านใหญ่ไหม” หญิงชราทูลว่า “ก็ไม่ใหญ่นักหรอกแต่คงจะใหญ่คราวนี้ เพราะได้เฝ้าฯในหลวง” พระองค์ทรงพระสรวล แล้วเสด็จพระราชดำเนินทักทายราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จในวันนั้นต่อไป
จะอย่างไรก็ตามแต่ พระองค์ไม่เพียงแต่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ทรงได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกในหลากหลายมิติ เท่านั้น พระองค์ยังทรงเป็นหลักพึ่งพิงของประชาชนชาวไทยเสมอมา ทั้งในยามบ้านเมืองสุขสงบและในยามที่เกิดวิกฤตการณ์
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวไว้ว่า “...ผมเคยอยู่มาแล้วหลายแผ่นดิน แต่ก็ไม่เห็นว่าพระเจ้าอยู่หัวแผ่นดินใด ที่คนทั้งเมืองเขาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของให้ความเคารพบูชาอย่างสนิทสนมอย่างทุกวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลก่อนๆ ทรงครองแผ่นดินแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลนี้ทรงครองหัวใจคน...”
อีกท่านหนึ่ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี อดีตผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 10 อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษ เคยกล่าวไว้ว่า “...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้ (รัชกาลที่ 9) ทรงเป็นในหลวงของเราที่สะอาด บริสุทธิ์ ทั้งกาย วาจา และใจ ทรงดำรงเคร่งครัดในทศพิธราชธรรม ทรงตั้่งพระราชหฤทัยแน่วแน่มั่นคงที่จะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม...”
อนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2570 ในวาระครบ 100 ปีวันพระบรมราชสมภพในหลวงรัชกาลที่ 9 ประเทศไทยโดยกระทรวงศึกษาธิการเตรียมเสนอให้“องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ” หรือ ยูเนสโก ประกาศยกย่องพระองค์เป็นบุคคลที่ทรงคุณค่าของโลก เนื่องจากพระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนชาวไทย
เจ็ดสิบปี ที่ครองราชย์ ราษฎร์เป็นสุข
บำบัดทุกข์ เสด็จฯเยือน ทุกเรือนถิ่น
มีโครงการ ให้จดจำ ทั้งน้ำดิน
ราษฎร์อยู่กิน อย่างพอเพียง และเพียงพอฯ
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี