แม้ว่าผลเลือกตั้งคอคัสรัฐแรกของอเมริกาออกมาแล้วแต่ดูเหมือนมะริกันชนไม่สนใจเท่าที่ควรเพราะทุกคนทำใจอยู่แล้วว่าคงเป็นการขึ้นสังเวียนระหว่างสองลุงตัวตึงที่ไม่น่าเลือกด้วยกันทั้งคู่แถมตอนนี้มีศึกที่หนักหนาสาหัสกว่าเรื่องเลือกตั้งนั่นคือคลื่นความหนาวปกคลุมเกือบทั่วอเมริกาซึ่งโดยปกติแล้วพายุฤดูหนาวหรือพายุฤดูหนาวอาร์กติกจะแวะเวียนอยู่แค่ทางตอนเหนือของอเมริกา แต่หนนี้แจกความหนาวเหน็บอย่างทั่วถึงทำให้พลเมืองดับถึง 100 ราย
อย่าถามว่าเมืองที่ผู้เขียนอยู่รอดไหม บอกเลยว่าไม่เคยรอดสักปีเพราะอยู่ในโซนหนาวจัดแบบขึ้นชื่อลือชาคนส่วนมากเข้าใจผิดว่พื้นที่หนาวสาหัสสุดเป็นอลาสก้าแต่เคยมีการจัดอันดับเมืองที่หนาวที่สุดในอเมริกา ปรากฎว่าอันดับ 1-5 มี 4 เมืองอยู่โซนมิดเวสต์เมืองที่หนาวที่สุดในอเมริกาคือเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินเนโซต้าอุณหภูมิต่ำสุดคือ -40.5 เซลเซียส
อันดับสองคือเมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสก้า หนาวสุดคือ -38.8 เซลเซียส เมืองสุดหนาวอันดับสามคือเมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซินซึ่งก็อยู่ในโซนมิดเวสต์อีกนั่นแหละ หนาวเยือกถึง -38.3 เซลเซียสเมืองยะเยือกอันดับสี่นี่ยังวนเวียนแถบมิดเวสต์เหมือนเดิมนั่นคือเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน หนาวจัดหนาวจริงดิ่งลงไปที่ -32.2เซลเซียส อันดับห้ายังติดโผในมิดเวสต์ เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสก้า
หนาวจัดถึง -35.5 เซลเซียส แล้วเมืองที่ผู้เขียนอยู่ก็โซนมิดเวสต์นี่แหละจะเหลือเหรอ ช่วงนี้อุณหภูมิต่ำลงถึง -33 เซลเซียส
เมื่อถึงฤดูหิมะ ชาวมิดเวสต์ทั้งหลายต่างยอมรับสภาพด้วยการหาเรื่องเล่นสนุกกับอากาศหนาวจัดตั้งแต่สาดน้ำร้อนจัดกลางหิมะให้กลายเป็นน้ำแข็งต้มบะหมี่สำเร็จรูปแล้วยกไปหน้าบ้านเพื่อดูบะหมี่ทั้งชามแข็งจนส้อมไม่หล่นที่ฮอตสุดคือการเอาเสื้อกับกางเกงยีนส์ไปแช่น้ำแล้วยกไปตั้งนอกบ้านไม่กี่นาทีแข็งโก๊กจนตั้งเป็นรูปทรง เรื่องนี้อย่าทำเป็นเล่นไปเพราะมีการแข่งขันกันด้วยนะ
ช่วงที่พายุอาร์กติกมาเยือนทางการจะออกประกาศว่าสามารถอยู่นอกบ้านได้นานกี่นาทีปีนี้เมืองที่อยู่นั้นมีลิมิตว่าห้ามอยู่นอกบ้านเกิน 15 นาทีบางปีหนาวสาหัสกว่าปีนี้ ลิมิตเวลาในการอยู่นอกบ้านคือ 10 นาทีไม่เช่นนั้นจะโดนหิมะกัดจนถึงขั้นเสียชีวิตในเมืองเคยมีคนตายเพราะอยู่นอกบ้านนานเกินไปตอนแรกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเสียชีวิตจนกระทั่งวันหนึ่งเดินงุ่มง่ามลากถังขยะ ขณะที่เดินบนพื้นกลายเป็นน้ำแข็งปรากฎว่าลื่นล้ม ลุกไม่ได้อยู่หลายนาทียังดีที่แผดเสียงร้องเรียกคนในบ้านมาช่วยทันไม่งั้นคงกลายเป็นศพตั้งแต่วันนั้นนั่นเอง แต่หลายคนโชคไม่ดีเท่าปีกลายชายคนหนึ่งหกล้ม แต่ไม่มีใครไปช่วย เพราะลุงแกอยู่บ้านคนเดียวหนาวขนาดนี้ทุกคนต่างเก็บตัวในบ้านหมด เลยไม่มีใครได้ยินเสียงร้องสุดท้ายพบศพแข็งทื่อหลังหิมะละลายแล้ว
หิมะนุ่มๆ แม้จะโหดด้วยความหนาวสาหัส แต่ยังไม่ร้ายเท่าน้ำแข็งปีนี้หวยออกที่รัฐโอเรกอน ซึ่งเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักสุดพายุน้ำแข็งกระหน่ำรัว ๆ ทำให้ต้นไม้ล้ม รวมไปถึงสายไฟฟ้าขาด
หนักสุดคือเสาไฟฟ้าซึ่งส่วนมากทำด้วยไม้ล้มแต่กระแสไฟยังไหลเวียนอยู่ ทำให้ยิ่งมีคนเสียชีวิตมากขึ้นทุกคนเดือดร้อนทั่วหน้า เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ในบ้านเรือน
วิกฤตอากาศอาร์กติกถล่มอเมริกาทำให้เครื่องบินเล็กส่วนตัวลำหนึ่งต้องลงขอฉุกเฉินกลางถนนไฮเวย์รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ แต่เมื่อพายุหิมะมาเยือนทุกอย่างก็เป็นไปได้เสมอ หิมะคร่าชีวิตไม่ว่าจะหนุ่ม สาว หรือคนแก่มีรายงานข่าวว่าชายหนุ่มวัย 25 ปีเสียชีวิตในบ้านตัวเองหลังเครื่องฮีทเตอร์หยุดทำงาน
เมื่อเจอพายุฤดูหนาว โรงเรียนทุกแห่งปิดหมดรวมทั้งหน่วยงานบางแห่ง ทำให้การเดินทางทั่วอเมริกาโกลาหลทำให้เที่ยวบินหลายพันเที่ยวทั้งโดนสั่งยกเลิกและเลื่อนไฟลท์กระทบทั่วประเทศ คนไทยส่วนมากมองว่าเวลาหิมะตกนั้นแสนงามแต่หิมะและความหนาวนี่แหละคือมัจจุราชสีขาวเพราะหิมะที่นี่ไม่ได้ตกเล่นๆตกหนาสะสมทุกวันจนต้องขุดทางเข้าออกและขุดรถตัวเองออกจากกองหิมะแต่ข่าวที่ทำให้พลเมืองอเมริกันที่แอนตี้รถไฟฟ้าขบขันกันทั่วหน้า
แม้ว่าเจ้าของรถเทสลาจะไม่ขำด้วยก็ตามนั่นคือข่าวสุสานรถเทสลาท่ามกลางความหนาวสาหัสในชิคาโกรายงานสถานการณ์ตามจริงว่ามักเจอรถเทสลาตามเมืองใหญ่ในอเมริกาเมืองเล็กและเมืองขนาดกลางจะไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นักทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างผู้เขียนเพิ่งกลับมาจากซานฟรานซิสโก บอกตรงๆว่าเทสลาวิ่งเกลื่อนถนนจนแอบรำคาญ
ถามคนแถวนั้นได้ความว่าผู้ว่าการรัฐสนับสนุนรถไฟฟ้านั่นแหละเทสลาเลยผงาดเต็มถนน อย่างชนิดเรียกได้ว่าไอ้คันที่แซงรถเราไปเป็นเทสลา ส่วนที่ขับตามมาก็เทสลาเหมือนกัน
เมืองที่ผู้เขียนอยู่เป็นเมืองขนาดกลางที่ค่าครองชีพไม่สูงนักเราไม่ค่อยเจอเทสลา แต่พอเข้าเขตชิคาโกเทสลาปาดหน้าปาดหลังแบบเดียวกับที่แคลิฟอร์เนียไม่มีผิดแต่พายุหิมะฤดูหนาวนี่แหละที่ดับฝันเทสลาอย่างสิ้นเชิง
เทสลาในแคลิฟอร์เนียอาจรอด เพราะอากาศไม่หนาวจัดแต่เทสลาในชิคาโกดับสนิทเพราะหนาวจัดจนไฟไม่เข้าสถานีชาร์จทั้งหลายของเทสลาส่งผลให้เจ้าของรถทิ้งรถให้จอดค้างอยู่ตามสถานีชาร์จ จนแทบเรียกได้ว่า 'สุสานรถเทสลา' ก็ว่าได้
เจ้าของรถเทสลาต่อแถวยาวเหยียดในพื้นที่ต่างๆ ของเมืองชิคาโกท่ามกลางอุณหภูมิระดับ -30 องศาเซลเซียสเล่นเอาบางคนตัดสินใจทิ้งรถไว้อย่างนั้นหลังพบว่าไม่สามารถหาสถานีชาร์จได้ รถยนต์เกือบทุกรุ่นของเทสลามักใช้เวลาชาร์จไฟราว 45 นาที แต่ หลังจากเฝ้ารอนานกว่า 5 ชั่วโมงก็กินแห้ว เพราะไฟไม่เข้า
สภาพอากาศเย็นส่งผลกระทบกับรถยนต์ไฟฟ้าลดระยะทางการวิ่งในหลายรุ่น เช่นเดียวกับปัญหาขัดข้องอื่นๆทั้งนี้จากการตรวจสอบรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม 18 รุ่น จาก Recurrent บริษัทวิเคราะห์รถยนต์อีวีพบว่า สภาพอากาศหนาวสุดขั้วทำให้ระยะการขับขี่ลดลงโดยเฉลี่ยถึง 70% โดยที่โมเดล S ของเทสลา เป็นหนึ่งในรุ่นที่ทำผลงานได้แย่ที่สุด ไม่อยากจะนึกเลยว่า บรรดาเจ้าของรถใช้น้ำมันเวลาขับผ่านสุสานเทสลาในชิคาโกจะทำหน้าอย่างไร
เมื่อหันไปมองฝูงรถไฟฟ้าที่ดับสนิทกลางหิมะและความหนาวจัดแบบนี้ ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนเลยไม่ยังไม่คิดซื้อรถไฟฟ้าเพราะความหนาวสาหัสในมิดเวสต์ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ไม่เชื่อดูความหนาวที่ปราบเซียนเทสลานี่ก็แล้วกัน
......................................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี