ในอเมริกามีเรือโบราณที่ปลดระวางแล้วจอดเทียบท่าริมชายฝั่งมหาสมุทรอยู่หลายลำด้วยกัน แต่ในบรรดาเรือโบราณทั้งหมดไม่มีลำไหนโด่งดังเกินหน้าเรือควีนแมรี่
เรือเดินสมุทร "ควีนแมรี่" แต่เดิมเป็นของอังกฤษสร้างขึ้นเพื่อรับส่งผู้โดยสารข้ามมหาสมุทรเรือลำนี้ต่อที่อู่ริมฝั่งแม่น้ำไคลต์ในประเทศสก็อตแลนด์ ค.ศ. 1939 ราคา25,000,000 เหรียญสหรัฐ น้ำหนัก 80,773 ตัน ความยาว 300 เมตร(1,004 ฟุต) สูง 54 เมตร (180 ฟุต)
บรรจุคนได้ประมาณ 2,075 คน บนดาดฟ้ามีที่ว่างทำสนามกีฬาได้ถึง 3 เอเคอร์ ภายในเรือมีร้านขายอาหาร สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำโรงพยาบาล และอุปกรณ์บริการความสุขอื่นๆรวมเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครันเรียกว่าเป็นเมืองขนาดย่อมเลยก็ว่าได้
เรือควีนแมรี่ออกทะเลครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1936เดินทางไปกลับระหว่างเซาธ์แธมป์ตันในอังกฤษกับนิวยอร์กในอเมริกานับเป็นเรือหรูหราสำหรับลูกค้าร่ำรวยและชนชั้นกลางที่มีธุระต้องเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพราะสมัยนั้นการเดินทางโดยเครื่องบินยังไม่ก้าวหน้าอย่างสมัยนี้
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2เรือลำนี้หยุดเดินทางรับส่งผู้โดยสารเพราะเกรงจะถูกข้าศึกยิงจม แต่เมื่อสงครามสงบ เปิดให้บริการผู้โดยสารต่ออีกหลายปีเพิ่งยุติการเดินทางรับส่งผู้โดยสารในปี ค.ศ. 1967จากนั้นบริษัทเจ้าของขายให้เศรษฐีอเมริกันเอาไปปรับปรุงใหม่ทำเป็นโรงแรม ภัตตาคาร และพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ โดยเทียบท่าที่ลองบีชรัฐแคลิฟอร์เนีย
แม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าพักไม่ขาดสายแต่กลับปรากฎข่าวลือเกี่ยวกับสิ่งลึกลับถึงเรื่องราวของ 'เลดี้ ไวท์' ที่มักปรากฎในรูปแบบวิญญาณหญิงสาวออกมาเต้นรำกลางดึกที่เลานจ์ของชั้นเฟิร์สต์คลาส
นอกจากนี้เรือควีนแมรี่ยังมีเรื่องขนหัวลุกอื่นๆนอกเหนือจากวิญญาณเลดี้ ไวท์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกเรือหนุ่มที่เสียชีวิตระหว่างการซ้อมหนีไฟบนเรือหรือเด็กหญิงจมน้ำตายในสระว่ายน้ำรวมไปถึงสาวผู้ถูกฆาตกรรมภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ตามประวัติเคยมีการบันทึกว่าลูกเรือหนุ่มชื่อ จอห์น เฮนรี่ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในห้องเครื่องหมายเลข 13 ขณะพยายามหนีไฟจนทุกวันนี้ยังมีคนได้ยินเสียงทุบประตูและแสงวาบออกมาให้เห็นหลายครั้งหลายหน
ดาดฟ้าเรือมีสระว่ายน้ำหรูหราให้บริการแต่เหมือนว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควรเพราะผู้โดยสารหลายคนจ๊ะเอ๋กับเด็กหญิงเดินวนเวียนอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ เมื่อถามสาวน้อย นอกจากเด็กหญิงจะไม่ตอบแล้วยังหายวับกับตา
หนูน้อยรายนี้เคยเป็นผู้โดยสารคนหนึ่งในอดีตด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก จึงไถลตัวลงมาตามราวบันไดเคราะห์ร้ายช่วงนั้นเรือเจอคลื่นใหญ่ เลยเสียหลักพลัดตกลงมาคอหักหลังจากนั้นมีคนเห็นเธอวนเวียนเดินตามหาแม่อยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะบริเวณสระว่ายน้ำ
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเรือควีนแมรี่แล่นเสยเรือเดินสมุทรลำอื่นเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ผู้โดยสาร 300 คนลงไปลอยคอกลางทะเล กลายเป็นเหยื่อฉลาม หรือไม่ก็จมน้ำตายโดยลูกเรือควีนแมรี่ช่วยไว้ไม่ทัน จึงมีเสียงร่ำลือว่าบางครั้งขณะที่เรือกำลังแล่น ได้ยินเสียงทุบข้างเรือเป็นระยะเหมือนใครบางคนที่ลอยคออยู่ในทะเลพยายามขอความช่วยเหลือ
เรือควีนแมรี่ถูกขนานนามว่าเป็นเรือผีสิงอันดับต้นๆ เลยทีเดียวสถานที่ที่คนชอบมาพิสูจน์ผีคือ สระว่ายน้ำนั่นเองมักมีคนเห็นวิญญาณผู้หญิงว่ายน้ำหรือจมลงก้นสระเป็นประจำในช่วงยามวิกาล
ไม่ว่าจะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างอย่างไรความจริงข้อหนึ่งที่ฎิเสธไม่ได้คือเรือลำนี้กลายเป็นสถานที่พำนักสุดท้ายของวิญญาณจำนวนมากแถมวิญญาณเหล่านั้นคงไม่รู้ว่าตนนั้นเสียชีวิตแล้วจึงยังวนเวียนอยู่ในเรือ ไม่ยอมไปไหน
ใครอยากไปพิสูจน์ความเฮี้ยนของเรือลำนี้คงต้องไปที่ลองบีชแคลิฟอร์เนียไม่แน่ว่าสตรีสีขาวอาจจะโผล่มาทักทายให้ขนลุกก็ได้..ใครจะไปรู้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี