วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ถ้ามีโอกาส ผมมักจะเดินตลาดใกล้บ้านตอนเช้าๆ ซื้อหาของกิน พูดคุยกับแม่ค้าแม่ขายที่คุ้นหน้าบ้าง สังเกตความเป็นไปของผู้คนบ้าง ปรากฏว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ความคึกคักของตลาดหลังจากผ่านพ้นช่วงโควิดระบาดเป็นต้นมา เริ่มมีอาการเฉื่อยๆ ระยะหลังยิ่งดูเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า
ถามพรรคพวกเพื่อนฝูงที่มีบ้านอยู่ต่างทิศต่างทาง ก็พบว่าบรรยากาศคล้ายๆ กันไม่นับย่านใจกลางเมืองที่การจับจ่ายใช้สอยมาจากนักท่องเที่ยว เพื่อนบางคนที่มีร้านค้าถึงขนาดเอ่ยปากว่า “ไม่รู้ว่าเงินที่แจกคนละหมื่นมันหายไปไหน?” หรือ “พายุหมุนทางเศรษฐกิจมันหมุนไปทางไหนบ้างวะ?”
นั่นคือความไม่สมเหตุสมผลโดยสิ้นเชิง และยิ่งมองย้อนหลังไปตั้งแต่รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ยิ่งเห็นความไม่สมเหตุสมผลตลอดมา
เริ่มตั้งแต่วันที่ เศรษฐา ทวีสิน รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ตรงกับวันเดียวกับที่ ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศพร้อมการต้อนรับราวกับเป็นซูเปอร์สตาร์ อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งคิดว่ามันเป็นความบังเอิญ แต่ส่วนผมไม่เชื่อ-แค่นั้นเอง
ความไม่สมเหตุสมผลเริ่มตั้งแต่วันนั้น ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเราพอจะเรียกได้ว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่อยากเรียกว่าเป็นนายทุนเจ้าของพรรค ยอมรับความผิดและได้รับพระราชทานลดโทษ แต่กลับไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว
จากนั้นก็มีความพยายามจะแจกเงินดิจิทัลให้ได้ ท่ามกลางเสียงทักท้วงจากธนาคารชาติและหลายองค์กร ตามด้วยความอื้อฉาวจากการประมูลข้าว 10 ปี และการส่งทนายที่มีคดีถุงขนมจนติดคุกไปแล้วในอดีตมาเป็นรัฐมนตรี จะเพื่อตอบแทนอะไรสักอย่างหรือไม่ ก็ไม่มีใครรู้ แต่ผลก็คือทำให้ เศรษฐา ต้องหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรี
เหล่านี้ก็ไม่มีอะไรสมเหตุสมผล
หลังจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนมาเป็น แพทองธาร ชินวัตร การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ส่วนจะเขียนโดยทีมที่ปรึกษา หรือทีมบิดาสั่ง ไม่ทราบได้
แต่ที่แน่ๆ ยังโจมตีรัฐบาลก่อนหน้านี้ว่า“ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองยาวนานอันเป็นผลจากการรัฐประหาร ระบบราชการไม่สามารถตอบสนองประชาชนได้อย่างเต็มที่” ซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผลที่จะใส่ลงไปในคำแถลง และไม่มีความจำเป็นอะไร นอกจากความคั่งแค้นส่วนตัว
นโยบายทั้งเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ฟังดูฉาบฉวยล่องลอย ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าถ้อยคำสวยหรูตามสูตรสำเร็จใช้ภาษาไทยปนอังกฤษให้ดูขลัง แต่สิ่งที่ตามมาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการใช้เงินละลายไปกับสิ่งที่มีอยู่แล้วในนามซอฟต์พาวเวอร์และการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการดิจิทัล วอลเล็ตมูลค่านับแสนล้าน
นโยบายเร่งด่วนตามที่แถลงว่า จะต้องทำทันทีเพื่อนำความหวังของคนไทยกลับมาให้เร็วที่สุด อย่าง ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ, สนับสนุนผู้ประกอบการไทย SME, ลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค, การนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี, เพิ่มมูลค่าสินค้าการเกษตรและราคาพืชผลเกษตร ยกระดับรายได้เกษตรกร, แก้ปัญหายาเสพติด, เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม และส่งเสริมศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม มีตรงไหนเกิดมรรคผลบ้าง ยกเว้นส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งไปได้ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันก็เริ่มมีการผุดไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาจากคนในรัฐบาล ล้วนแต่แปร่งแปลกไม่สมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกาะกูด, กฎหมายการให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี ตามกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ และให้ถือครองคอนโด 75% จนถึงการเก็บเงินรถเข้าโซนกรุงเทพฯชั้นใน เพื่อนำเงินไปอุดหนุนรถไฟฟ้า
สิ่งที่ควรจะทำคือเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่คุยนักคุยหนาว่ามียอดฝีมืออยู่ในรัฐบาล กลับดูเหมือนจะหมดปัญญาชาวบ้านร้านตลาดเริ่มร้องโอดโอยแทบจะทุกตรอกซอกซอย พ่อค้าแม่ค้าบางรายที่ผมได้คุยด้วย เริ่มถามหาโครงการ “คนละครึ่ง”กันแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในภาวะโรคระบาด
แต่ในบรรดาความไม่สมเหตุสมผลทั้งหลายที่น่าจับตามองพฤติการณ์ของรัฐบาลนี้ มีความสมเหตุสมผลอยู่อย่างเดียวคือ คนไทยจำนวนไม่น้อย ไม่ไว้วางใจรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และคนอยู่เบื้องหลัง(ถ้ามี) เพราะคล้ายเรื่องราวที่นำความเสียหายแสนสาหัสให้ประเทศไทยในอดีต กำลังจะตามมาหลอกหลอนอีกครั้ง
ทิวา สาระจูฑะ

‘อธ.อัยการต่างประเทศ’ต้อนรับผู้แทนอัยการจีน-ขอไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอสส.จีน-อาเซียน
ยุบสภา 12 ธันวา?! ‘อนุทิน’ลั่นพร้อมหากรอกันไม่ไหว รับ‘รบ.เสียงข้างน้อย’อภิปรายดีแค่ไหนก็แพ้
‘นายกฯ’ลั่นต้องมีคนรับผิดชอบ เหตุทหารกัมพูชาจุดประทัด ชัดแล้วใครกันแน่ละเมิดปฏิญญา
'หมอมุกกินเค้ก'โดนแล้ว! 'ติ๊กต๊อก'เพิกถอนรางวัล 'Rising Creator of the Year'
‘อนุทิน’รับยังไม่คุย‘ศุภจี’นั่งแคนดิเดต ตอก‘มาร์ค’อย่ายุ่งเรื่อง‘ภูมิใจไทย’

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี