แต่ละประเทศมีเรื่องลี้ลับสยองขวัญเล่าสู่กันฟัง ในอเมริกาก็เช่นกันมีการจัดอันดับสถานที่สุดเฮี้ยน 10 อันดับ แต่ละแห่งรับประกันความหลอนผ่านการพิสูจน์สิ่งลี้ลับจากหลายคณะ รับประกันว่าขนลุกทุกคนเริ่มจากสถานที่สุดหลอนอันดับสิบก่อนก็แล้วกัน นั่นคือประภาคารเซนต์ออกัสตีนในฟลอริด้า
ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะอนาสตาเซีย เรื่องราวความหลอนมีตั้งแต่วิญญาณโจรสลัดถูกฆ่าแล้วฝังไว้หลังประภาคาร วิญญาณของช่างทาสีที่ประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่รู้ว่าตนนั้นสิ้นใจแล้ว วันดีคืนดีปรากฎร่างให้เห็นว่าทำงานอยู่ชั้นใต้ดินและที่รายงานว่าพบมากที่สุดคือวิญญาณเด็กสาวชั้นบนสุดของหอคอย
อันดับที่เก้าคือคุกเมาด์วิลล์รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย คุกแห่งนี้เปิดทำการปี ค.ศ.1876 สร้างบนสุสานเก่าของอินเดียนแดงเพื่อรองรับนักโทษ 480 คน แต่ภายหลังเพิ่มสูงถึง 2,400 คนจึงค่อนข้างแออัด เมื่อนักโทษเสียชีวิตทั้งจากการประหาร ถูกทรมานฆาตกรรม และฆ่าตัวตายก็ฝังข้างคุกนั่นเอง
อันดับแปดคือบ้านไร่เมอร์เทิล รัฐหลุยส์เซียน่า เป็นอดีตบ้านไร่ยุคอาณานิคม สร้างบนพื้นที่ฝังศพอินเดียนแดง บ้านหลังนี้เกิดเหตุฆาตกรรมมีการสืบคดีจนพบว่ามีคนถูกฆ่าตายไม่ต่ำกว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นทาสชาวผิวดำในไร่ แถมเจ้าของบ้านถูกฆ่าบนระเบียงบ้าน มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ประหลาดอยู่เสมอ เช่น เสียงเดินขึ้นลงบันไดที่ปราศจากผู้คน ผู้หญิงใส่ชุดขาวเดินทะลุประตู เสียงลากโซ่ตรวนของทาส ยามดึกมีคนพบเห็นวิญญาณเด็กสาวชาวอินเดียนแดงอยู่บ่อยๆ
ส่วนอันดับที่เจ็ดอยู่ในรัฐอิลลินอยด์ ที่โรงภาพยนตร์เก่าลินคอล์น โรงหนังเก่าที่มักมีผู้ชมลึกลับเข้ามาร่วมชมด้วยอยู่เสมอ บางตำแหน่งของโรงหนังอุณหภูมิเย็นจัดผิดปกติ คู่รักหนุ่มสาวยังคงวนเวียนทั้งที่ตายแล้ว เสียงฝีเท้าลึกลับกลางเวทีโรงหนังแห่งนี้สร้างทับอาคารเดิมที่ถูกไฟไหม้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้นมากมาย ดวงวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ทุกที่ ผู้คนมักได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากขั้นบันไดและระเบียงตลอดเวลา
อันดับที่หกคือถ้ำแม่มดเบลล์ในรัฐเทนเนสซี่ ความเป็นมาของแม่มดเบลล์เป็นเรื่องที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ แม่มดตนหนึ่งอาฆาตแค้นสมาชิกในตระกูลเบลล์จนผูกใจเจ็บมาสิงสู่สร้างความเดือดร้อนไปชั่วลูกหลาน แม้ว่าผู้ที่นางแม่มดเกลียดชังจะเสียชีวิตไปนานแล้วก็ตาม
อันดับห้าคือโรงแรมสแตนลีย์ในรัฐโคโลราโด โรงแรมผีสิงแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนต์สยองขวัญเรื่อง 'TheShining' ผีที่มีผู้พบเห็นบ่อยสุดคือผีเด็กที่ห้อง 1211ชอบออกมาวิ่งเล่นยามค่ำคืน ผีเจ้าของโรงแรมคือนายแสตนลีย์ มักปรากฏตัวที่ล็อบบี้และห้องบิลเลียดพร้อมกับนางฟลอร่า ผู้เป็นภรรยา ที่ออกมานั่งเล่นเปียโนในห้องดนตรีเสมอ สร้างความหวาดหวั่นต่อแขกเป็นระยะ
สุดเฮี้ยนอันดับที่สี่เป็นคุกอัลคาทราซในซานฟรานซิสโก คุกนี้เคยเป็นทั้งประภาคาร ป้อมปราการของกองทัพ และคุกทหารจนถึงปี ค.ศ.1963 นักโทษจำนวนไม่น้อยสังเวยชีวิตจากการพยายามหลบหนี มีนักโทษพยายามหลบหนีออกจากเกาะอัลคาทราซ 36 คนแต่ไม่เคยมีใครหนีได้สำเร็จ นักโทษ 23 คนถูกตามจับกลับมาและโดนทรมานปางตาย อีก 6 รายถูกยิงทิ้งขณะหลบหนี ส่วนที่เหลือแม้จะหนีออกจากเกาะได้แต่จมน้ำตายในอ่าวซานฟรานซิสโก ยังไม่นับรวมที่เสียชีวิตในคุกอีกมากมาย
อันดับสามของความสยองคือเวฟเวอรี่ฮิลล์ส ถานพยาบาลแห่งนี้สร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 20 สำหรับรักษาผู้ป่วยวัณโรค แต่ภายหลังผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วจนคับแคบจึงสร้างอาคารหลังใหม่เพิ่มอีก 5 ชั้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือแผนกผู้ป่วยผิวขาว แผนกผู้ป่วยผิวสี และแผนกผู้ป่วยเด็ก
แม้สถานพยาบาลแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าทันสมัยที่สุดยุคนั้น แต่การรักษาผู้ป่วยวัณโรคยังเป็นเรื่องใหม่อยู่ บ่อยครั้งรักษาด้วยวิธีการโหดร้าย เช่น การเลาะซี่โครงผู้ป่วยออกเพราะเชื่อว่าช่วยไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกาย บางครั้งตัดปอดออกไปด้วยโดยใส่ลูกโป่งเข้าไปแทนที่ ยอดผู้เสียชีวิตในสถานพยาบาลแห่งนี้สูงถึง 6,000 กว่าคน โชคดีที่มีการค้นพบยาปฏิชีวนะในปี ค.ศ.1943 ทางสถานพยาบาลจึงเปลี่ยนวิธีรักษาและการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรคลดลงในที่สุด
หลังจากปิดตัวในปี ค.ศ. 1982 มีคนพบเห็นวิญญาณมากมาย เช่น วิญญาณหัวหน้าพยาบาลห้องหมายเลข 502 ที่ปลิดชีวิตตนเองเพราะอกหัก ผีเด็กที่มีคนพบเห็นเป็นเงาเล่นลูกบอลอยู่ที่ชั้น 4 นอกจากนี้ยังได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน รอคอยผู้ที่จะมาปลดปล่อยวิญญาณให้เป็นอิสระ
อันดับที่สองคือเมืองเก็ตตี้สเบิร์กในรัฐเพนซิลเวเนีย สงครามกลางเมืองอเมริกาเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ.1861 กินเวลาทั้งหมด 3 วันเต็มๆ ทุกตารางนิ้วในเมืองนั้นเต็มไปด้วยซากศพชุ่มเลือดทุกหย่อมหญ้า
การรบที่เก็ตตี้สเบิร์กเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในอเมริกา ยอดผู้เสียชีวิตเกือบ 10,000 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 30,000 คนโดยเฉพาะจุดที่เรียกว่า Devil’s Den หรือถ้ำปีศาจอันเป็นป่าหิน ซึ่งเป็นจุดต่อสู้นองเลือดมากที่สุด ปัจจุบันนี้ผู้คนยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าของทหารเดินลาดตระเวนทั่วเมืองเสียงยิงปืน เสียงคนกระซิบ เสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
อันดับหนึ่งซึ่งบอกตรงๆ เลยว่าน่ากลัวมากทุกคณะพิสูจน์วิญญาณเจอ “ของดี” กันทุกคณะ นั่นคือเรือนจำเก่าในฟิลาเดลเฟีย ในปี ค.ศ.1940
จัดว่าเป็นอาคารที่แพงสุดในอเมริกาเวลานั้น ใช้สำหรับขังอาชญากรต้องโทษคดีร้ายแรง ปัจจุบันปิดตายแต่ผู้คนมักได้ยินเสียงหัวเราะ ร้องไห้ เสียงกระซิบลอดออกมาจากกำแพง รู้สึกเหมือนมีใครเดินตามอยู่ตลอดเวลา ช่างทำกุญแจคนหนึ่งได้รับหน้าที่ให้มาปลดล็อคประตูห้องขังบล็อคที่ 4 ซึ่งถูกปิดไปนานกว่า 140 ปี เล่าว่าวินาทีที่กำลังปลดกุญแจออก เหมือนมีพลังรุนแรงบางอย่างพุ่งปะทะจนไม่สามารถขยับตัว
หากมีโอกาสมาเที่ยวอเมริกา ควรลองของให้ครบทั้งสิบแห่งแล้วอาจจะเปลี่ยนความคิดใหม่ในเรื่อง “ความมีอยู่”ของวิญญาณก็เป็นได้..
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี