โรคภูมิแพ้ เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อต้านกับสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับแล้วเกิดปฏิกิริยา จึงทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยมักมีอาการเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง เกิดจากปัจจัยกระตุ้นหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่ พันธุกรรมโรคภูมิแพ้ในครอบครัวและสิ่งแวดล้อมที่ได้สัมผัส
โรคภูมิแพ้ในเด็กที่พบได้บ่อย ได่แก่
1.โรคแพ้โปรตีนนมวัว หรือแพ้อาหารชนิดอื่น หรือหลายชนิดร่วมกัน ซึ่งแสดงอาการได้หลายระบบ ได้แก่ ผิวหนัง, ทางเดินหายใจ,ทางเดินอาหาร
2.โรคภูมิแพ้ผิวหนัง สามารถเกิดได้ในวัยทารก วัยเด็ก และวัยรุ่น,ผู้ใหญ่เกิดจากหลายๆปัจจัยร่วมกัน เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม สารก่อภูมิแพ้ สารระคายเคือง ผิวแห้ง การเกา การติดเชื้อและความเครียด
3.โรคหอบหืด โรคนี้เกิดจากการอักเสบของหลอดลมแบบเรื้อรัง ทำให้หลอดลมไวกว่าปกติ อาการจะดีขึ้นเมื่อได้รับยาขยายหลอดลม มักมีอาการในวัยเด็กก่อนอายุ 5 ปี สาเหตุปัจจัยร่วมกันมาจากพันธุกรรม, สารก่อภูมิแพ้, อาจพบร่วมกับโรคภูมิแพ้ผิวหนังและจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
4.โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มักเริ่มเป็นในเด็กปลายอนุบาลถึงประถม จะมีอาการคัดจมูก คันจมูก จาม น้ำมูกไหลช่วงกลางคืนหรือตอนเช้าๆนอนกรนและอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ
5.โรคเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ มักจะคันตา ขยี้ตาบ่อยๆ ตาแดง น้ำตาไหล ส่วนมากจะมีอาการภูมิแพ้อื่นร่วมด้วย เช่น ภูมิแพ้จมูก หอบหืด
6.ลมพิษและอาการบวมในเนื้อเยื่อชั้นลึก มักมีผื่นแดงนูน เป็นปื้นคัน หน้าบวม ปากบวม ตาบวม ซึ่งมักเกิดจากการแพ้อาหาร แพ้ยา หรือการติดเชื้อบางชนิด
การสังเกตและการทดสอบอาการของโรคภูมิแพ้
♦ จากประวัติอาการมีอาการคัดจมูก เป็นหวัดบ่อย มีอาการไอไอเรื้อรัง ไอตอนกลางคืน ไอเวลาออกกำลังกาย มีอาการป่วยบ่อยเป็นหวัดบ่อย หายช้า หรือคัดจมูกเรื้อรัง
♦ กรณีแพ้อาหารจะมีผื่นลมพิษ หน้า หรือตา ปากบวม บางคนแพ้รุนแรงอาจแน่นหน้าอก กลืนลำบาก หอบ หากแพ้แบบค่อยเป็นค่อยไปอาจมาด้วยอาการถ่ายเป็นมูกเลือดคล้ายๆกับการติดเชื้อ หรือมีผื่นสากๆตามตัว หายใจครืดคราด หรือนอนกรน
♦ หากมีอาการแพ้แบบเฉียบพลัน สามารถทดสอบโดยการทำการทดสอบทางผิวหนัง (skin test) จะทราบได้ว่าผู้ป่วยมีอาการแพ้อย่างเฉียบพลันหรือไม่ หากอาการแพ้แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจต้องรักษาด้วยการงดอาหารที่สงสัยดูก่อน แล้วทดลองรับประทานอาหารชนิดนั้นใหม่อีกครั้งโดยอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ที่โรงพยาบาล
การรักษาโรคภูมิแพ้
♦ หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้
♦ การใช้ยาควบคุมอาการโดยแพทย์เฉพาะทาง
♦ การออกกำลังกายจะช่วยลดอาการโรคภูมิแพ้ในระยะยาวได้
♦ การฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ ซึ่งต้องใช้เวลาฉีดเป็นระยะๆในระยะยาว จะช่วยเปลี่ยนภูมิคุ้มกันในร่างกายให้หายจากโรคภูมิแพ้ได้ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
การป้องกันโรคภูมิเเพ้
♦ เลี่ยงการสูบบุหรี่ในระหว่างการตั้งครรภ์
♦ ไม่ควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนแปลกปลอมใดๆ มากผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น นมวัว, นมถั่วเหลือง, ไข่, แป้งสาลี,อาหารทะเล ควรรับประทานวิตามินตามที่สูตินรีแพทย์แนะนำ
♦ ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อลดการสัมผัสโปรตีนแปลกปลอม ในขณะที่น้ำย่อยยังย่อยโปรตีนได้ไม่เหมาะสมต่อการดูดซึมและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในลำไส้
สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ.ธิดารัตน์ พงศ์สิริพิพัฒน์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. Call Center 1745
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี