รถยนต์ในปัจจุบันนี้วิ่งได้โดยการใช้น้ำมันเป็นพลังงาน น้ำมันที่ใช้อยู่เป็นน้ำมันเบนซินเกรดต่างๆ เช่น 95, 91 ฯลฯ และดีเซล ปัญหาในขณะนี้คือ น้ำมันมีจำกัดและในที่สุดจะหมดไป ราคาน้ำมันจึงมีราคาแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้เป็นปัญหาแก่ประชาชนทั่วโลก ทำให้นักวิชาการ รัฐบาลหลายประเทศพยายามหาพลังงานอื่นๆ มาทดแทนน้ำมัน เช่น gasohol
แล้วคุณล่ะ? ใช้อะไรเป็นพลังงาน ทุกๆ ท่านคงทราบอยู่แล้วว่าอาหารทำให้พวกเรามีพลังงาน มีกำลังที่จะทำงาน เล่นกีฬา ออกกำลังกายได้ แต่อาหารอะไรที่ให้พลังงานที่ดีเช่นน้ำมันเบนซิน อาหารอะไรที่เหมือนน้ำมันดีเซล? โดยสรุปอาหารสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท คือ ไขมัน โปรตีน แป้ง วิตามิน เกลือแร่ และน้ำ สำหรับวิตามิน เกลือแร่ น้ำ มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์เป็นอย่างมาก แต่ไม่ให้พลังงานซึ่งโดยสรุปก็คือรับประทานเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
สำหรับไขมัน โปรตีน และแป้งให้พลังงาน 9, 4 และ 4 หน่วยกิโลแคลอรีต่อ 1 กรัมตามลำดับ ฉะนั้นจึงเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมการรับประทานไขมันมากจึงอ้วนง่าย เพราะว่าไขมันให้พลังงานมากกว่า 2 เท่าของแป้ง และโปรตีน แต่ประเด็นที่สำคัญคือ ถึงแม้โปรตีนจะให้พลังงานเท่าแป้ง แต่ในการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ร่างกายไม่ได้เอาโปรตีนมาใช้เป็นพลังงานเลย ฉะนั้นผู้ที่ออกกำลังกายหรือเป็นนักกีฬาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานโปรตีนมากกว่าที่ร่างกายต้องการเพราะจะไม่มีประโยชน์
ไขมันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทไขมันอิ่มตัว (saturated fat) และไขมันประเภทไม่อิ่มตัว (unsaturated fat) ไขมันอิ่มตัวพบได้ในมันสัตว์ หนังสัตว์ เนื้อสัตว์ กะทิ ฯลฯส่วนไขมันไม่อิ่มตัวพบได้ในพืช ผัก ปลา โดยเฉพาะปลาทะเล ไขมันอิ่มตัวโดยสรุปเป็นไขมันประเภทไม่ดี ถ้าร่างกายมีมากเกินไป เพราะจะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดทั่วร่างกายตีบ ซึ่งจะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ ส่วนไขมันไม่อิ่มตัวเป็นไขมันประเภทที่ดี ควรรับประทานมากๆ เพราะจะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดตีบตันในแง่ของพลังงานไขมันเป็นสารที่คล้ายๆ น้ำมันดีเซล คือ ในร่างกายมีมาก แต่ไขมันไม่ช่วยให้ร่างกายออกกำลังกายที่หนักๆ ได้ เช่น วิ่งเร็ว หรือยกน้ำหนัก แต่ไขมันเป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้ร่างกายออกกำลังกายแบบช้าๆ ได้ เช่น วิ่งเหยาะๆ
สำหรับโปรตีนมีอยู่ทั้งในพืช ผัก ถั่ว เต้าหู้ นม ไข่ และเนื้อสัตว์ทุกชนิด เนื้อสัตว์มีโปรตีนที่ครบทุกหมวดหมู่ ฉะนั้นถ้ารับประทานเนื้อสัตว์เพียงนิดเดียวก็พอแล้ว แต่ถ้าจะรับประทานโปรตีนจากพืช ผัก เท่านั้น จะต้องรับประทานพืช ผัก หลายๆ ชนิดเช่น ผักกาด ถั่ว เต้าหู้ เห็ด และผักควรมีหลายๆ สี เขียว เหลือง แดง ฯลฯ แต่ประเด็นที่สำคัญคือถ้ารับประทานเนื้อสัตว์มากจะมีไขมัน(ประเภทอิ่มตัว) ตามเข้าไปด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ในวันหนึ่งๆ เราต้องการโปรตีนเพียง 1 กรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัมเท่านั้น ฉะนั้นผู้ที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม จึงควรรับประทานโปรตีนทั้งวันเพียง 70 กรัม แต่เนื้อสัตว์ทั่วไป 30 กรัม จะให้โปรตีนจริงๆ เพียง 7 กรัม ฉะนั้นผู้ที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม จะต้องรับประทานเนื้อสัตว์ทั้งวัน-ถ้าเอาโปรตีนทั้งหมดไปอยู่ในเนื้อสัตว์เท่านั้น เพียง 300 กรัม! แต่ถ้ารับประทานเนื้อสัตว์ 300 กรัมต่อวันจะมากไปเพราะจะต้องรับประทานโปรตีนที่มีอยู่ในนม ไข่ พืช ผัก ถั่ว เต้าหู้ ฯลฯ อีกด้วย ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการรับประทานเนื้อสัตว์จริงๆ ต่อวันมีความจำเป็นน้อยมาก เพราะคนเรามักจะรับประทานนม ไข่ พืช ผัก ถั่ว เต้าหู้ ฯลฯ อีกด้วย ฉะนั้นในแต่ละวันการรับประทานเนื้อเพียง 1 ขีดหรือ 100 กรัม น่าจะเพียงพอแล้ว
สำหรับแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) มีอยู่ในรูปแบบของ complex carbohydrate (คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน) เช่น ข้าว ผัก พืช ผลไม้ ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ฯลฯ และ simple sugar หรือน้ำตาล น้ำหวาน คนเราควรจะรับประทานแป้งในรูปแบบของ complex carbohydrate เช่น ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง มากกว่าการรับประทานน้ำตาล น้ำหวาน ฯลฯ แป้งเป็นพลังงานที่เหมือนน้ำมันเบนซิน กล่าวคือสามารถทำให้ร่างกายออกกำลังกายที่หนักได้ เช่น วิ่งเร็วเต็มที่ ยกน้ำหนัก ฯลฯ แต่ปัญหาคือร่างกายมีแป้ง (ในรูปแบบของ glycogen, ไกลโคเจน) น้อยในร่างกาย ฉะนั้นผู้ที่ใช้แรงงานมากๆ เช่น เกษตรกร หรือนักกีฬาจะต้องรับประทานอาหารจำพวกแป้งให้มากๆ
ฉะนั้นโดยสรุปควรรับประทานอาหารหนักไปทางพืช ผัก ปลา (ยกเว้นไข่ปลา) ข้าว ผลไม้ (ที่ไม่หวานจัด คือที่เขียวและแข็ง)เป็นหลัก พยายามหลีกเลี่ยงมันสัตว์ หนังสัตว์ เนื้อสัตว์เครื่องใน ไข่แดง กะทิ น้ำหวาน ของหวาน น้ำตาล ฯลฯ
ด้วยความปรารถนาดี
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี