ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในโลก(มั้ง) ที่คนไทย (และผมว่า คนชาติอื่นๆ ด้วย) ชอบไปเที่ยวแล้วเที่ยวอีกโดยไม่เบื่อ ทั้งนี้เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก เป็นภูเขา ป่าไม้ ประมาณ 70% ของพื้นที่ทั้งหมด มีที่ราบสำหรับเพาะปลูก เป็นที่อยู่อาศัยและอื่นๆ เพียง 30% ประเทศญี่ปุ่นมีที่ท่องเที่ยวมากมาย มีดอกซากุระ ที่เวลาออกดอก สวยงามมากในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีมีที่สำหรับเล่นสกี มีป่าที่เขียวขจี คนที่ชอบเดิน สามารถเดินอย่างปลอดภัยได้เป็นวันๆ ตามที่ต่างๆ ริมแม่น้ำ ในป่ามีแม่น้ำที่ใสสะอาด มีทะเลสาปที่สวยงาม ฯลฯ และในช่วงนี้(พฤศจิกายน) มีต้นไม้ที่เปลี่ยนสีที่สวยงามมากอีกด้วย
และประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพมากมีการศึกษาสูง เป็นคนที่มีวินัย ขยัน สังเกตได้จากการเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นคนมีน้ำใจ เช่น ถ้าถามทางที่จะไปยังที่ต่างๆ ถึงแม้จะสื่อสารกันไม่ได้ ก็จะพาเราเดินไปจนเกือบถึงที่ที่เราจะไป ลืมของไว้ที่ไหนก็ไม่หาย มีการทิ้งขยะอย่างเป็นระเบียบและถูกช่องตามชนิดของขยะ ถนนหนทางสะอาดได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีมารยาทในสังคม ไม่พูดเสียงดัง ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในรถทัวร์ หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ต้องใช้แบบเงียบที่สุด ฯลฯ อาหารก็อร่อยมาก โดยเฉพาะอาหารชุด kaiseki ที่เป็นอาหารชุดที่บริการทีละคอร์ส อย่างเป็นลำดับ ตามธรรมเนียมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาล การปรุงแต่ง และกรรมวิธีที่ใช้ในการปรุง จนกระทั่งการนำเสนออาหาร ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับอาหารยุโรปชั้นสูง หรือ “โอตกุยซีน” (Haute Cuisine) ของชาติตะวันตก ชุดอาหารไคเซกิ นั้นหมายถึงอาหารชุดที่คัดเลือกรายการอาหารไว้แล้วและให้บริการทีละอย่าง (คนละ 1 จาน จนครบทุกคอร์ส) ลงบนถาดส่วนตัว
ในปัจจุบัน “ไคเซกิ” ถือเป็นศิลปะที่ผสมผาสนกันในรสชาติ รูปลักษณ์ ผิวสัมผัส และสีสันได้อย่างลงตัว จึงใช้สร้างสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ที่มีความสดใหม่ ซึ่งหาได้เฉพาะในฤดูกาลเพื่อใช้ปรุงแต่งขึ้นเป็นอาหารรสชาติอร่อยอย่างลงตัว การจัดวางและนำเสนอมักจะทำอย่างระมัดระวัง และคำนึงถึงสีสันและน้ำหนัก เพื่อให้เกิดความสมดุลในการนำเสนอให้เป็นศิลปะอย่างสอดรับกับไคเซกิที่ประกอบขึ้นในฤดูกาลนั้นๆ ซึ่งจะตกแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยจะใช้แม้กระทั่งใบไม้และดอกไม้สดเพื่อตกแต่ง จนถึงผักผลไม้ที่แกะสลักอย่างสวยงามเป็นรูปดอกไม้ ต้นไม้ และสัตว์ต่างๆ ประกอบในอาหารด้วย
ตามธรรมเนียมดั้งเดิมแล้ว ไคเซกิประกอบด้วย มิโซซุปและอาหารเพียงสามอย่าง ซึ่งได้กลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของการบริการอาหารญี่ปุ่นในปัจจุบัน ซึ่งโดยจะเรียกเป็น “อาหารชุด” จากนั้นได้มีการพัฒนาขึ้นมาโดยรวมถึงอาหารเรียกน้ำย่อย, ปลาดิบ(ซาชิมิ), ของต้ม, ของย่าง, และของนึ่ง ฯลฯ โดยสรุปผมชอบอาหารชุดไคเซกิมาก เพราะมีอาหารหลากหลาย ไม่เบื่อ และจัดการตกแต่งอาหารอย่างสวยงามมาก
จึงเป็นข่าวดีที่การบินไทย (Thai Air ways International), หรือ TG ได้เปิดเที่ยวบิน (อีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดและหยุดมาพักหนึ่ง) บินไป Sendai โดยตรง จากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสนามบิน Sendai โดยใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมง และไม่หยุดณ ที่หนึ่งที่ใด ถือได้ว่าเป็นสายการบินแรกและสายการบินเดียวที่บินตรงจากกรุงเทพฯ ไป Sendai ในขณะนี้ สนามบิน Sendaiอยู่ห่างจากเมือง Sendai ประมาณ 21.6 กม. ถ้าใช้ Sendai Airport Access Line จะใช้เวลาเพียง 25 นาที หรือ 17 นาที (โดยรถด่วน)และมีราคาเพียง 660 เยน
TG ได้เริ่มบินตรงไป Sendai เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562ผมและอดีตคณาจารย์ของกระทรวงศึกษาธิการที่กรุณาช่วยสอนอาสายุวกาชาดให้สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย รวม 8 คนจึงได้ถือโอกาสนี้บินไปเที่ยว Sendai โดยมีค่าตั๋วช่วงนั้นซึ่งเป็นช่วงโปรโมชั่น 17,000 บาท ผมหวังว่า TG จะไม่เพิ่มราคานี้ และลดราคาลงถ้าเป็นไปได้ ณ ขณะนี้ที่เปิดดูราคาจาก กทม. ไป Sendai TG มีราคา online 19,000 บาท ไป-กลับ ขณะที่สายการบินอื่นๆ ที่ต้องแวะที่อื่น 1 ครั้ง มีราคาประมาณ11,000-12,000 บาท เพราะถ้าค่าตั๋วมีราคาเท่ากันหรือถูกกว่าราคาของสายการบินอื่นๆ ทุกๆ คนจากประเทศไทย และผู้โดยสารที่บินผ่านประเทศไทย จะต้องเลือกการเดินทางโดย TG เป็นแน่ เพราะบินตรง ไม่หยุดเลย สะดวกสบายกว่าการต้องไปเปลี่ยนเครื่องบิน และถ้าที่ที่แวะนั้นเป็นประเทศญี่ปุ่นก่อนที่จะถึง Sendai จะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองที่ลงจุดแรกของประเทศญี่ปุ่น ต้องเอากระเป๋าผ่านศุลกากรแล้วไป load ขึ้นเครื่องใหม่ การที่ต้องไป transit (เปลี่ยนเครื่อง) ที่ไหนจะเสียเวลา และบางครั้งถ้ามีคิวยาวที่ต้องผ่านการเข้าเมือง ศุลกากร และลากกระเป๋าไป load ต่อ เช่น ที่เมืองจีน อาจทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทันอย่างเช่นในกรณีของผมในอดีตอีกด้วย
ผมขอให้ TG ประสบความสำเร็จในเที่ยวบินไป Sendai นี้และขอเชิญชวนให้พวกเราใช้บริการของ TG ไปเที่ยว Sendai ไปลองนอนโรงแรมเรียวกัง ทานอาหารชุดไคเซกิ รับรองว่าทุกๆ ท่านจะติดใจ เหมือนที่ผมติดใจ อย่างแน่นอนครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี