เป็นข่าวที่ดีมากสำหรับเรื่องความปลอดภัยบนถนน เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่องค์การอนามัยโลก(ประเทศไทย)ได้จัดการประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ สำหรับท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และท่านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยมีท่านนิกร จำนง เป็นผู้นำฝ่าย สส. และท่านสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นผู้นำฝ่าย สว. โดยมีท่าน สส. และท่าน สว. กรุณาเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก ในที่ประชุมนี้มีท่าน สว. Alex Gallaeher จาก Australia และผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้จากต่างประเทศมากมาย
ข้อมูลของอุบัติเหตุบนถนนไทย เป็นสถิติที่คนไทย ประเทศไทย ไม่ควรภูมิใจเลย คือ ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตบนถนนเป็นอันดับที่ 9 ของโลก โดยมีอัตราการเสียชีวิตจากการชนบนถนน 32.7 คนต่อประชากรแสนคน และยังเป็นที่หนึ่งของเอเชียและอาเซียน (Asean) อีกด้วย อัตราการเสียชีวิตของอาเซียน คือ 17.8 ต่อประชากรแสนคน ของโลก คือ 18.2 คนต่อประชากรแสนคนการบาดเจ็บจากการชนบนถนนเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1ของประชากรไทย อายุ 10-29 ปี โดยในแต่ละวันมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 60 ศพ บาดเจ็บ 2,500 คน บาดเจ็บสาหัส 500 คน กลายเป็นผู้พิการวันละ 20 คน 3 ใน 4 (75%) ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 4 ใน 5 (80%) ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย ซึ่งหมายถึงว่าจะขาดหัวหน้าครอบครัวที่จะทำมาหากินให้ครอบครัว และ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิต (25%) เป็นวัยรุ่นและเยาวชน คือ มีอายุ 15-24 ปี ซึ่งการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากการชนบนถนนสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี หรือร้อยละ 6 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ!!
6 องค์ประกอบ และ 22 มาตรการที่จะสามารถลดการเสียชีวิตจากการชนบนถนน มีดังต่อไปนี้ คือ (แหล่งที่มา :ชีวีปลอดภัย เอกสารทางเทคนิคเพื่อความปลอดภัยทางถนน (2560) องค์การอนามัยโลก)
1) การจัดการความเร็ว ได้แก่ 1.1) กำหนดและบังคับใช้กฎหมายจำกัดความเร็ว 1.2) กำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมความเร็วตามกฎหมาย1.3) สร้างหรือปรับปรุงถนนเพื่อชะลอการจราจร เช่น วงเวียนลูกระนาด เส้นชะลอความเร็วแนวเส้นหยัก
2) ผู้นำด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ได้แก่ 2.1) จัดตั้งหน่วยงานหลักด้านความปลอดภัยทางถนน 2.2) จัดทำยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนนและให้ทุนสนับสนุนการดำเนินการ2.3) ประเมินผลยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน 2.4) ปรับปรุงระบบข้อมูลเพื่อติดตามความปลอดภัยทางถนน 2.5) เพิ่มความตระหนักของประชาชนด้วยการให้ความรู้และการรณรงค์
3) การออกแบบและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่3.1) ทางเดินและทางข้ามที่ปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้า 3.2) ช่องจราจรสำหรับจักรยานและจักรยานยนต์ 3.3) ราวกันชนและลักษณะข้างทางที่ปลอดภัย 3.4) ทางแยกที่ปลอดภัย 3.5) ถนนทางเข้าออกที่แยกจากถนนหลัก 3.6) เขตปลอดรถยนต์ 3.7) การจำกัดการจราจรและความเร็วในเขตที่อยู่อาศัย ย่านการค้า และบริเวณโรงเรียน3.8) รถสาธารณะที่ดีและปลอดภัย
4) มาตรฐานความปลอดภัยของยานพาหนะ ได้แก่4.1) กำหนดและบังคับใช้กฎระเบียบด้านมาตรฐานความปลอดภัยของเข็มขัดนิรภัยและจุดยึดเข็มขัดนิรภัย กันชนหน้า กันชนหลังระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ การป้องกันคนเดินเท้า จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กตามมาตรฐาน ISOFIX 4.2) กำหนดและบังคับใช้กฎระเบียบเรื่องการติดตั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก และระบบเปิดไฟหน้าขณะขับขี่ในเวลากลางวันสำหรับจักรยานยนต์
5) การบังคับใช้กฎหมายการจราจร ได้แก่ 5.1) กำหนดและบังคับใช้กฎหมายเรื่อง การคาดเข็มขัดนิรภัย การสวมหมวกนิรภัย การจำกัดความเร็ว การเมาแล้วขับ การใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็ก
6) การรักษาชีวิตหลังเกิดการชน ได้แก่ 6.1) พัฒนาระบบการดูแลฉุกเฉินก่อนถึงโรงพยาบาลและในโรงพยาบาล 6.2) จัดอบรมอาสาสมัครการแพทย์ฉุกเฉินในเรื่องการดูแลฉุกเฉินขั้นพื้นฐาน6.3) ส่งเสริมการจัดอบรมให้แก่อาสาสมัครการแพทย์ฉุกเฉินระดับชุมชน
ซึ่งทั้งหมดนี้ท่านผู้อ่านจะสังเกตได้ว่าสาเหตุการบาดเจ็บ เสียชีวิตจากการชนบนถนนนั้น ส่วนใหญ่มาจากคน คือ คนขับรถเร็วเกินไป ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัยในการขับขี่จักรยานยนต์ ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ยังใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะถือโทรศัพท์หรือไม่ถือ (ถึงไม่ถือโทรศัพท์สติของเราจะไม่อยู่ที่การขับรถ 100%) รวมทั้งประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายบังคับให้ใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็กอีกด้วย
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการหรือผู้นำด้านความปลอดภัยบนถนน มาตรฐานของรถ ถนนก็ยังขึ้นอยู่กับคนอีกนั่นแหละว่ารัฐบาล ผู้บริหารประเทศ มีความสนใจในเรื่องความปลอดภัยบนถนนจริงหรือไม่ และสนใจในรายละเอียดต่างๆ หรือไม่
ยังมีตอนต่อๆ ไปอีกครับ เพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่พอดี
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี