ช่วงนี้มีข่าวคนดังที่รู้จักกันทั่วประเทศเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ผมจึงขอหยิบเรื่องมะเร็งมาคุยกัน ผมสนใจเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค มาหลายสิบปีแล้ว และช่วงที่สอนเรื่องนี้ใหม่ๆ ผมบอกผู้ฟัง ผู้เรียนว่า โรคมะเร็งป้องกันไม่ได้ฉะนั้นเรามาสนใจโรคที่ป้องกันได้ดีกว่า เช่น โรคในกลุ่ม NCDs, non communicable diseases หรือโรคไม่ติดต่อทั้งหลาย เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง เบาหวานความดัน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนฯ
WHO องค์การอนามัยโลกรายงานว่า NCDs เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของชาวโลกถึง 71% ของการเสียชีวิตทั้งหมด คือ 41 ล้าน ใน 57 ล้านคน ที่เสียชีวิต แต่นอกจากนั้น WHO ยังบอกอีกว่ารวมทั้งหมดแล้ว มีคนเสียชีวิตจากโรคที่ป้องกันได้ในปี 2516 ถึง 8.9 ล้านคน เพราะโรคที่ติดต่อบางโรคก็ป้องกันได้ เช่น HIV/AIDS, เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี(Hepatitis B Virus, HBV และ Hepatitis C Virus, HCV) ฯลฯ แต่ปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าโรคมะเร็งก็ป้องกันได้ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ เช่น โรคอ้วน
อ้วนอย่างเดียวมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง 13 ชนิด (WHO-องค์การอนามัยโลก) คือ มะเร็งของลำไส้ใหญ่ เต้านม ตับ ตับอ่อน หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ต่อมลูกหมากมดลูก รังไข่ ไทรอยด์ multiple myeloma (โรคของระบบเลือด) และ meningioma (เยื่อหุ้มสมอง)
3 โรคมะเร็งที่มีความสัมพันธ์กับโรคอ้วนเป็นอย่างมากคือ มะเร็งเต้านม ตับ ลำไส้ใหญ่ มะเร็งเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของชาวโลก และของคนไทยด้วย วันนี้ผมขอพูดเกี่ยวกับโรคมะเร็งตับนะครับ
มะเร็งตับมี 4 สาเหตุที่สำคัญ (แต่มีสาเหตุอื่นๆ อีกบ้าง) คือ1) โรคอ้วน 2) แอลกอฮอล์ 3) เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด บี (Hepatitis B Virus, HBV) และ 4) เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด ซี(Hepatitis C Virus, HCV) ซึ่งป้องกันได้ทั้งนั้น ถ้ามีความรู้ และมีวินัย วินัยนี่สำคัญที่สุดครับ
โรคอ้วน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งของตับ เพราะเวลาทานอาหารมากเกินกว่าที่ร่างกายใช้ ไขมันจะสะสมในร่างกายทั่วๆ ไปและในช่องท้อง ในตับ ถ้าตับมีไขมันสะสมมากๆ ก็จะค่อยๆ เกิดการอักเสบของตับ มีพังผืดเกิดขึ้น จนกลายเป็นตับแข็ง เมื่อเป็นตับแข็งแล้ว ไม่ว่าจากสาเหตุอะไร จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของตับและจะมีความเสี่ยงต่อสภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อีก 4 ประการ คือ
1) เลือดออกจากหลอดเลือดที่โป่งพองบริเวณที่รอยต่อหลอดอาหาร และ กระเพาะอาหาร จะอาเจียนเป็นเลือดสีแดง หรือดำ หรือถ่ายเป็นเลือดสีดำ หรือสีแดง ถ้าถ่ายอุจจาระเป็นสีดำขอให้นึกว่ามีเลือดออกจากระบบทางเดินอาหารส่วนบนไว้ก่อน และรีบไปพบแพทย์
2) ตับวาย ซึม ง่วงนอนไม่ค่อยรู้เรื่อง ฯลฯ
3) ไตวาย
4) ติดเชื้อง่าย เพราะผู้ป่วยตับแข็งมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
อ้วนที่ไหนไม่เป็นปัญหา แต่อย่าอ้วนที่พุง เพราะอ้วนที่พุงมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น ความดันโลหิต หลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูงฯ แต่ปัญหาคือ มันมักจะอ้วนที่พุง และไขมันที่พุงเป็นส่วนที่ลดได้ช้าที่สุด ขนาดน้ำหนักลดมากแล้ว พุงยังไม่ลดเลย?! (เช่นในกรณีของผม)
อ้วนหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญให้ดูจาก 2 อย่าง คือ 1) ดัชนีมวลกายหรือ Body Mass Index-BMI วิธีคำนวณ BMI คือ น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม/ความสูงเป็นเมตร กำลังสอง ค่า BMI ของคนไทยควรอยู่ระหว่าง 18.5-23 สูงกว่า 23-24.9 เรียกว่าน้ำหนักเกิน(overweight) สูงกว่า 25 จึงจะเรียกว่าอ้วน
และ 2) นอกจากดู BMI แล้วต้องดูพุงด้วย คนไทยพุงชาย หญิงควรเล็กกว่า 90, 80 เซนติเมตร ตามลำดับ ถ้าอย่างหนึ่งอย่างใดเกินถือว่าเกินไปแล้ว
เดี๋ยวนี้มีการตรวจไขมันในตับที่ละเอียดมาก ชื่อfibroscan หรือ transient elastography ผมแนะนำให้ทุกคนไปตรวจไว้เป็นพื้นฐาน ไว้เทียบกับอนาคต จะบอกได้ว่ามีไขมันในตับกี่% น่าระวังหรือยัง เครื่องตรวจนี้ช่วยลดการเจาะตับลงไปได้มาก ราคาค่าตรวจประมาณ 2,000 บาท แต่คงต้องออกเงินเองครับ ยกเว้นแพทย์สั่งให้ตรวจ
การทำตัวไม่ให้อ้วน หลักๆ คือ การเลือกทานอาหาร ทานเท่าที่ร่างกายใช้เท่านั้น และออกกำลังกาย แต่ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ ถ้าไม่คุมอาหาร เพราะทานขนมปังเพียง 1 แผ่น ถ้าจะเผาผลาญให้หมดต้องวิ่ง 1 ไมล์?!ผมจะค่อยๆ เขียนไปจนหมดพุง (จะได้ผอมไง 555)
คราวต่อไปคือ แอลกอฮอล์กับมะเร็งตับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี