อาการปวดไหล่พบได้บ่อยในคนวัย 50 ปีขึ้นไปซึ่งอาการปวดนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางสาเหตุก็สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องผ่าตัดเช่น โรคไหล่ติดหรือเส้นเอ็นไหล่อักเสบ แต่มีโรคหนึ่งที่พบได้ค่อนข้างบ่อยและไม่สามารถหายได้เองถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการผ่าตัดอย่างทันท่วงที ซึ่งก็คือโรคเอ็นไหล่ฉีกขาด เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้มักจะรู้สึกว่าเป็นโรคที่รุนแรง แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันทำใหแพทย์รักษาโรคนี้จนหายขาดได้ ดังนั้นผู้ที่มีอาการปวดไหล่จึงสมควรทำความรู้จักโรคนี้ให้ดียิ่งขึ้น
ผู้ป่วยที่มีเอ็นไหล่ฉีกขาดหรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่าrotator cuff tear จะมีอาการปวดไหล่บริเวณด้านหน้าเวลานอนตอนกลางคืนจะปวดมากขึ้น ถ้ารอยขาดมีขนาดใหญ่ผู้ป่วยจะยกแขนไม่ขึ้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา รอยขาดก็มีโอกาสที่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิดข้อไหล่เสื่อมตามมาได้
สาเหตุของเอ็นไหล่ฉีกขาดเกิดจากความเสื่อมตามอายุของเส้นเอ็น ยิ่งอายุมากเส้นเอ็นก็จะเปื่อยและขาดง่ายขึ้นหรือบางกรณีอาจเกิดจากอุบัติเหตุหกล้มแขนสะบัดก็ส่งผลให้เอ็นไหล่ฉีกขาดได้เช่นกัน ปัญหาที่พบได้บ่อยคือผู้ป่วยเอ็นไหล่ฉีกขาดมักจะได้รับการวินิจฉัยที่ล่าช้าเนื่องจากอาการของเอ็นไหล่ฉีกขาดจะคล้ายกับโรคไหล่ติดหรือเส้นเอ็นไหล่อักเสบ การวินิจฉัยจำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทางออร์โธปิดิกส์และต้องทำการตรวจด้วยเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ MRI เพื่อยืนยันการวินิจฉัย เนื่องจากการเอกซเรย์ธรรมดาไม่สามารถวินิจฉัยเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาดได้
การรักษาเบื้องต้นอาจบรรเทาอาการปวดด้วยการรับประทานยาหรือทำกายภาพบำบัด อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวไม่สามารถทำให้เส้นเอ็นที่ฉีกขาดกลับมาเชื่อมต่อกันได้ เป็นเพียงแต่บรรเทาอาการปวดชั่วคราวเท่านั้น
ในปัจจุบันการรักษาที่ได้ผลดีและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกคือ การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อเย็บซ่อมเส้นเอ็น นวัตกรรมการผ่าตัดผ่านกล้องวีดีโอขนาดเล็กถูกพัฒนาขึ้น
มาจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมามีการคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ มากมายและยังคงจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านอุปกรณ์ช่วยผ่าตัดและเทคนิคการผ่าตัด
ประเด็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ป่วยคือ เทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องนี้จะช่วยลดขนาดแผลผ่าตัดให้เหลือเพียง 8 มิลลิเมตร ซึ่งขนาดเล็กมากเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดโดยการเปิดแผลแบบดั้งเดิมซึ่งอาจยาวถึง 10 เซนติเมตร เพื่อเข้าไปเย็บซ่อมเอ็นไหล่ นอกจากนี้ข้อดีอีกประการของการผ่าตัดผ่านกล้องก็คือ หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีอาการปวดน้อยมาก ฟื้นตัวเร็ว และอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของการผ่าตัดประเภทนี้ก็คือ แพทย์ต้องมีความชำนาญสูงและค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดก็ค่อนข้างสูงด้วย
ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดเย็บซ่อมเอ็นไหล่เพื่อรักษาโรคเอ็นไหล่ฉีกขาดต้องมีการดมยาสลบและนอนโรงพยาบาลหลังผ่าตัดประมาณ 1-2 วัน วิสัญญีแพทย์อาจทำการบล็อคข่ายประสาทที่คอเพื่อลดอาการปวดหลังผ่าตัดด้วย หลังผ่าตัดผู้ป่วยต้องใส่ที่คล้องแขนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เพื่อรอให้เส้นเอ็นสมานกัน ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดเพื่อป้องกันการเกิดข้อไหล่ติด อย่างไรก็ตามในระยะเวลาประมาณ 3 เดือนหลังผ่าตัด อาการปวดจะหายไปจนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และในระยะเวลาประมาณ6 เดือน ผู้ป่วยจะเริ่มสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้
ดังนั้น สิ่งสำคัญเมื่อสงสัยว่ามีอาการคล้ายโรคเอ็นไหล่ฉีกขาด ควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคและรักษาให้ทันท่วงที และหากมีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด ควรพิจารณาเข้ารับการผ่าตัดผ่านกล้องโดยแพทย์ผู้ชำนาญ เพราะโรคเอ็นไหล่ฉีกขาดเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดจากอาการเจ็บปวดได้ และให้ผลสำเร็จสูง ในทางกลับกันหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมอาจจะพัฒนาเป็นโรคข้อไหล่เสื่อมได้
อาจารย์ นายแพทย์ไตร พรหมแสง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อนุสาขาเวชศาสตร์การกีฬา ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี