วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
นายกฯ สอบตก ควรพ้นตำแหน่ง เก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูล

ดูทั้งหมด

  •  

เหลือเชื่อ...

นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ชี้แจงเป็นหนังสือไปยังศาลรัฐธรรมนูญ สรุปว่า ที่พูดคุยกับฮุนเซนนั้นไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมเลย


เป็นเทคนิคการเจรจา เป็นการเรียกอังเคิลตามธรรมเนียม และยังได้เอื้อประโยชน์แก่ฮุนเซน

ที่เหลือเชื่อมากๆ คือ กล้าๆ กล่าวยืนยันด้วยว่า

“ข้าพเจ้าไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตําแหน่งนายกฯ หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดํารงตําแหน่งของข้าพเจ้าแต่ประการใด”

แถมขอกลับมาทำหน้าที่นายกฯ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยกยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยอ้างหน้าตาเฉยว่า

“...หากข้าพเจ้ายังคงปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ของ ประเทศชาติและอธิปไตยของชาติ อีกทั้งสามารถปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะบูรณาการเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายให้สนับสนุนการทําหน้าที่ของฝ่ายทหารและแสดงถึงความเข้มแข็งภายในชาติ...”

ทั้งๆ ที่ โพลนิด้า ระบุชัดยิ่งว่าชัดว่า

“นิด้าโพล” เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” สะท้อนว่า ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลเลย

ไว้วางใจกองทัพ : ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก และร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ

รวมที่ไว้ใจกองทัพมากและค่อนข้างไว้ใจ สรุปเป็นไว้ใจสูงถึง 95% !!!!

ไว้วางใจรัฐบาล : มีเพียงร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ และร้อยละ 4.66 ระบุว่า ไว้วางใจมาก

ที่สำคัญ ร้อยละ 54.58 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจรัฐบาลเลย และร้อยละ 29.01 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจรัฐบาล

ซึ่งหากรวมที่ไม่ไว้ใจรัฐบาลเลยและไม่ค่อยไว้ใจ รวมไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะสูงถึง 84% !!!!

มันขัดแย้งกับที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์อ้างในหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า กลับมาบริหารแล้วจะมีผลดีอย่างนั้นอย่างนี้

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2568 ประชาชนออกมาชุมนุมมืดฟ้ามัวดิน ให้นายกฯลาออกไปโดยทันที

ผลสำรวจนิด้าโพล “การเมืองไทยไปต่อแบบไหนดี” ก็ตอกย้ำว่า ประชาชนต้องการให้แพทองธาร ลาออก 42.37% และยุบสภา 39.92% รวมที่ให้พ้นตำแหน่งไปมากกว่า 80%

ขัดแย้งกับที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์อ้างว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตําแหน่งนายกฯ หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดํารงตําแหน่งของข้าพเจ้าแต่ประการใด

อย่างไรก็ตาม มีนักกฎหมายให้มุมมอง ประเมินคำชี้แจงของนายกฯ ระบุว่า “ประเมิน 11 ข้อชี้แจง “แพทองธาร”สอบตก ได้ต่ำกว่า 0 คะแนน ใน 2 ประเด็นสำคัญ”

โดยคุณ “นิรชน ชัยธรรม” เผยแพร่ความเห็นผ่านสำนักข่าวอิศรา

สรุปประเด็นสาระสำคัญบางส่วน ดังนี้

คำชี้แจงของนางสาวแพทองธาร ประมาณ 80 หน้า สรุปเป็นประเด็นที่น่าสนใจได้ 11 ประเด็น

ถ้าประเด็นใดชี้แจงดี ฟังขึ้น หักล้างข้อกล่าวหาของผู้ร้องได้หมดสิ้น ให้ได้คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ถ้าชี้แจงฟังไม่ขึ้น ก็ได้คะแนนลดหลั่นลงไป

นอกจากนี้ หากคำชี้แจงประเด็นนั้น กลับทำให้คำร้องมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งเป็นผลลบต่อนางสาวแพทองธารขึ้นอีก ให้ได้ต่ำกว่า 0 คะแนน หรือติดลบ โดยมีช่วงคะแนนจากน้อยไปหามากคือ ต่ำกว่า 0 คะแนน ส่งผลไม่ดี, 0 คะแนน ไม่ส่งผลใดๆ 1-4 คะแนน ส่งผลดีน้อยมาก, 5-7 ส่งผลดีปานกลาง และ 8-10 คะแนน ส่งผลดีมาก

“ประเด็นที่ 1 ผู้ร้องกล่าวหาว่า การเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการเจรจาทางการทูต ไม่มีเหตุผลความที่จะต้องแอบเจรจากันเป็นการส่วนตัว

คำชี้แจงสรุปได้ว่า ในการเจรจากิจการระหว่างประเทศ บางครั้งอาจจำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการ การเจรจาในลักษณะสายตรงระหว่างผู้นำ หรือสายด่วนผู้นำ (Leader to Leader Hotline) เป็นวิธีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการที่มีประสิทธิภาพและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก การสนทนาครั้งนี้ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับผู้นำประเทศอื่นๆและอยู่ภายใต้กรอบการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นสำคัญ เมื่อความพยายามของนายฮวดในการติดต่อเพื่อขอเจรจากับสมเด็จฮุนเซน ทางโทรศัพท์ไม่เกิดขึ้น แต่ในเวลาต่อมาเมื่ออยู่เพียงลําพัง นายฮวดได้โทรศัพท์กลับมาและขอให้มีการเจรจาแบบการสนทนาทางโทรศัพท์ร่วม การเจรจาแบบส่วนตัวจึงเกิดขึ้นซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่จะต้องพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน อยู่แล้วเช่นเดียวกับกรณีที่รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รมว.ต่างประเทศ (นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์) และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช) จะยังอยู่ร่วมด้วยในการเจรจา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนาบริสุทธิ์และไม่ได้มีเจตนาที่จะแอบเจรจากันดังที่ผู้ร้องกล่าวหา

คะแนนแบบเข้มงวด = 6

คะแนนแบบผ่อนปรน = 8

เหตุผลการให้คะแนน : วิธีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายตามคำชี้แจง แต่ประเด็นนี้ส่งผลต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้พ้นตำแหน่งไม่มาก

...

ประเด็นที่ 2 ผู้ร้องกล่าวหาว่า ไม่ควรเรียกผู้นำประเทศที่กำลังมีการปะทะกันทางการทหารหรือสภาวะสงครามที่มีความขัดแย้งกันทางบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยว่า uncle (แปลว่า คุณลุง)

คำชี้แจงสรุปได้ว่า บทสนทนาดังกล่าวเป็นไปในลักษณะของการแสดงเจตนารมณ์เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด การเรียกสมเด็จฮุนเซน ว่า “uncle” เป็นการแสดงความเคารพในวัยวุฒิแก่คู่เจรจา และเป็นมารยาทที่รักษาปฏิบัติเรื่อยมาเป็นปกติวิสัยในการเจรจากับคู่สนทนาอย่างไม่เป็นทางการ...

คะแนนแบบเข้มงวด = 6

คะแนนแบบผ่อนปรน = 8

เหตุผลการให้คะแนน : การเรียกบุคคลที่อาวุโสกว่าโดยใช้สรรพนามเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่เป็นรูปแบบที่ใช้เรียกกันในสังคมไทย แต่การเจรจากับผู้นำต่างประเทศแม้จะไม่เป็นทางการควรใช้สรรพนามอย่างเป็นทางการ คำชี้แจงประเด็นนี้ส่งผลต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้พ้นตำแหน่งไม่มาก

...

ประเด็นที่ 3 ผู้ร้องกล่าวหาว่า ไม่ควรกล่าวว่า “จริงๆ แล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้”

คำชี้แจงสรุปได้ว่า ถ้อยคำว่า “อยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้” มีแต่เพียงเจตนาที่ต้องการให้คู่เจรจาได้เสนอเงื่อนไขหรือความต้องการออกมาก่อนซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการเจรจาเชิงผลประโยชน์ (Principled Negotiation) โดยการใช้เทคนิคสำคัญคือการตั้งคำถามเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง (Interest-Based) ในลักษณะไม่โจมตีจุดยืนของคู่เจรจา แต่มุ่งทำความเข้าใจความต้องการที่อยู่เบื้องหลังมากขึ้น เพื่อจะได้นำมาพิจารณาเจรจาต่อรองเงื่อนไข ที่จะนำไปสู่การยุติความตึงเครียดที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขที่เสนอมาทุกกรณีแต่อย่างใด จะต้องนำเงื่อนไขไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของไทยก่อนเพื่อร่วมกันพิจารณาและตัดสินใจ

คะแนนแบบเข้มงวด = -2

คะแนนแบบผ่อนปรน = 2

เหตุผลการให้คะแนน : คำพูดที่ว่า อยากได้อะไรให้บอกมาได้เลย แม้จะเป็นไปตามหลักการเจรจาเชิงผลประโยชน์ เพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง อาจจะสามารถนำมาใช้กับการเจรจาครั้งนี้ได้อยู่บ้าง

แต่เมื่อตามมาด้วยคำพูดว่า เดี๋ยวจะจัดการให้ ทำให้ดูเสมือนว่าประเทศไทยอยู่ในสถานะเป็นเบี้ยล่างของประเทศคู่กรณี ที่นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยพร้อมจะทำทุกเรื่องตามที่ประเทศคู่กรณีบอกมา

ซึ่งยังเป็นข้อสงสัยของประชาชนโดยทั่วไปว่า การจะจัดการให้กับประเทศคู่กรณีทุกเรื่อง เป็นไปเพื่อแลกเปลี่ยนกับความสงบบริเวณชายแดนแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่

จึงเป็นการโอนอ่อนผ่อนตามผู้นำประเทศคู่กรณีเกินสมควรกว่าเหตุ ซึ่งบุคคลในระดับนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาสูงกว่า ไม่ควรที่จะใช้คำพูดเช่นนี้กับประเทศคู่กรณีที่มีความด้อยกว่าในทุกเรื่อง อันเป็นการไม่รักษาเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่มีความสำคัญ ในข้อ 6 การชี้แจงโดยอ้างหลักการเจรจาเชิงผลประโยชน์ไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหานี้ได้ กลับทำให้มีผลในทางลบต่อนางสาวแพทองธารยิ่งขึ้น และการชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขที่เสนอมาทุกกรณีแต่อย่างใด แสดงถึงความไม่ซื่อตรงในคำพูด อันเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่มีความสำคัญ ในข้อ 8 และเป็นคุณสมบัติรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)

...

ประเด็นที่ 4 ผู้ร้องกล่าวหาว่า ไม่ควรเรียกแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่างเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติและประชาชนว่า “ฝั่งตรงข้าม”

คำชี้แจงสรุปได้ว่า ถ้อยคำที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ว่าเป็น“ฝั่งตรงข้าม” นั้น เนื่องมาจากความไม่พอใจของสมเด็จฮุนเซน ที่มีต่อแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการเฉพาะเจาะจงจึงจำต้องใช้เทคนิคการเจรจาที่แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ไม่ได้เป็นการตำหนิติเตียนในทางลบหรือแสดงให้เห็นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไทยแต่อย่างใด...

คะแนนแบบเข้มงวด = -2

คะแนนแบบผ่อนปรน = 2

เหตุผลการให้คะแนน : การพูดในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวถึงผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในระดับแม่ทัพภาคที่ควบคุมพื้นที่ 1 ใน 4 ของประเทศ และอยู่ใต้บังคับบัญชาของตนเองลงไปตามลำดับชั้น โดยคำพูดมีความหมายว่า แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ฝั่งหนึ่ง โดยมีตนเองและผู้นำประเทศคู่กรณีรวมกันเรียกว่า “เรา” อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่ทัพภาคที่ 2 แห่งกองทัพไทย

โดยท่อนแรกที่พูดว่า “ไม่อยากให้อังเคิลไปฟังคนตรงข้ามกับเรา อย่างพวกแม่ทัพภาค 2” เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีความแตกแยกภายในประเทศไทย โดยมีการแบ่งประชาชนออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งที่เห็นด้วยกับการกระทำของประเทศคู่กรณี และฝั่งที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งตนเองอยู่ฝั่งเดียวกับที่เห็นด้วยกับการกระทำของประเทศคู่กรณี

คำพูดท่อนที่ 2 “เขาอยากจะดูเท่” และคำพูดท่อนที่ 3 “เขาก็พูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ” เป็นการด้อยค่านายทหารระดับสูงที่ทำหน้าที่ป้องกันชายแดนที่ติดกับประเทศคู่กรณี เพื่อย้ำให้เห็นว่าตนเองอยู่ฝั่งเดียวกับประเทศคู่กรณีแต่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทหารในประเทศของตนเอง

โดยคำชี้แจงระบุว่า มีความจำเป็นต้องสื่อสารเพื่อแยกบทบาทฝ่ายบริหารออกจากฝ่ายความมั่นคง และการชี้แจงว่าเป็นการใช้เทคนิคการเจรจาที่แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ซึ่งไม่อาจหักล้างคำพูดที่แสดงถึงความแตกแยกระหว่างนายกรัฐมนตรีที่ตนเองดำรงตำแหน่งอยู่ กับผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร

แต่กลับเป็นการชี้ชัดลงไปอีกถึงการแบ่งแยก และการชี้แจงว่าจำต้องใช้เทคนิคการเจรจาที่แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ก็ไม่อาจหักล้างคำพูดที่เกิดขึ้นได้ ยังคงเป็นคำพูดที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง อันเป็นการไม่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมที่มีความสำคัญ ในข้อ 8 อีกส่วนหนึ่งโดยเป็นคำชี้แจงที่ส่งผลต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้พ้นตำแหน่งของนางสาวแพทองธารในทางลบมากกว่าทางบวก

...

เนื้อหาข้างต้น ยกมาให้ท่านผู้อ่านร่วมพิจารณาแค่บางประเด็น เฉพาะที่สำคัญๆ เท่านั้น

คุณ “นิรชน ชัยธรรม” สรุปทั้ง 11 ประเด็นชี้แจงว่า

“...การให้คะแนนแบบºเข้มงวด... จะเห็นได้ว่า การประเมินภาพรวมของคำชี้แจงจะได้ 26.36 % และการประเมินรายประเด็น ได้คะแนนตั้งแต่ 5 คะแนนขึ้นไป 4 ประเด็น และต่ำกว่า 5 คะแนนลงมา 7 ประเด็น

ถือว่าการประเมินแบบเข้มงวด สอบตกทั้งหมด

ส่วนการให้คะแนนแบบผ่อนปรน... ภาพรวมจะได้ 51.82 % ส่วนรายประเด็นได้คะแนนตั้ง 5 คะแนนขึ้นไป 7 ประเด็น และต่ำกว่า 5 คะแนนลงมา 4 ประเด็น ถือว่าสอบผ่าน

แต่มี 2 ประเด็นสำคัญ ที่การให้คะแนนแบบเข้มงวด ติดลบ 2 คะแนน และแบบผ่อนปรน ได้คะแนนน้อยมากเพียง 2 คะแนน คือประเด็นที่ 3 ที่กล่าวว่า อยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยเดี๋ยวจะจัดการให้ และประเด็นที่ 4 ที่กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ควรกล่าวถึงความแตกแยกภายในประเทศต่อผู้นำต่างประเทศที่เป็นคู่กรณี ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังประชาชน ที่อาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม

แม้มีเพียงประเด็นใดประเด็นหนึ่งที่แสดงถึงการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก็เพียงพอที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้แล้ว”

สรุป สอบตก สมควรต้องพ้นจากตำแหน่งไป

อย่าลืมว่า เก้าอี้นายกฯ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูลใด

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:11 น. 'เจิมศักดิ์'อ่านเกม'อุ๊งอิ๊งค์' 21 ส.ค.วันเกิด โผล่ศาลรธน.หรือไม่!?
22:01 น. 'เขมร'ไม่ง้อ! เปิดตัว'แคมโบเดียโคล่า' หลังโค้กถอด VannDa จากพรีเซนเตอร์
21:40 น. เปิดประวัติหลักเขตแดนที่ 50 ไทย-กัมพูชา ก่อนถูกนำเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ปราจีนบุรี
21:24 น. 'กรมชลฯ'เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอีสาน 6 จังหวัดอย่างใกล้ชิด
21:19 น. สุดสลด! หนุ่มใหญ่ยืนฉี่ข้างสระพลัดตกน้ำเสียชีวิต
ดูทั้งหมด
งงกันทั้งลำ! 'แอร์เอเชีย'ลงจอดผิดสนามบินในเกาหลีใต้
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 6 เจ้าหน้าที่รัฐ นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว
จากไปอย่างสงบ! 'บุ๋ม นิรวรรณ'นักแสดงสมทบ หลังประสบอุบัติเหตุอาการโคม่าหลายวัน
เด็ก Gen Z สอนมวย 'ช่อ' ปมลาก 'ไทย' ไปศาลโลก
ดูทั้งหมด
ฉากอวสาน‘สองพ่อลูกตระกูลชิน’
น่ากังวล งบปราบโกงปี’69 ยังวนอยู่กับกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์มากกว่าแก้ระบบ
วิญญาณแค้น?
นายกฯ สอบตก ควรพ้นตำแหน่ง เก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูล
บุคคลแนวหน้า : 20 สิงหาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เขมร'ไม่ง้อ! เปิดตัว'แคมโบเดียโคล่า' หลังโค้กถอด VannDa จากพรีเซนเตอร์

เปิดประวัติหลักเขตแดนที่ 50 ไทย-กัมพูชา ก่อนถูกนำเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ปราจีนบุรี

IOT ดูพื้นที่ช่องอานม้า เผยสำนักงาน UNHCR ฝั่งกัมพูชา ตอนนี้กลายเป็นกาสิโนไปแล้ว

ทีใครทีมัน! ‘กมธ.สว.’เข้มสอบ‘โรงงานแป้งมันรุกป่าสงวนฯโคราช’หลายร้อยไร่ โยงเอี่ยวรมต.

'ภูมิธรรม'หารือ'อันวาร์' ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา

หลอนหนัก! ทาสยายกตู้บริจาคศาลเจ้าแม่ตะเคียนซื้อยาบ้าเสพ

  • Breaking News
  • \'เจิมศักดิ์\'อ่านเกม\'อุ๊งอิ๊งค์\' 21 ส.ค.วันเกิด โผล่ศาลรธน.หรือไม่!? 'เจิมศักดิ์'อ่านเกม'อุ๊งอิ๊งค์' 21 ส.ค.วันเกิด โผล่ศาลรธน.หรือไม่!?
  • \'เขมร\'ไม่ง้อ! เปิดตัว\'แคมโบเดียโคล่า\' หลังโค้กถอด VannDa จากพรีเซนเตอร์ 'เขมร'ไม่ง้อ! เปิดตัว'แคมโบเดียโคล่า' หลังโค้กถอด VannDa จากพรีเซนเตอร์
  • เปิดประวัติหลักเขตแดนที่ 50 ไทย-กัมพูชา ก่อนถูกนำเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ปราจีนบุรี เปิดประวัติหลักเขตแดนที่ 50 ไทย-กัมพูชา ก่อนถูกนำเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ปราจีนบุรี
  • \'กรมชลฯ\'เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอีสาน 6 จังหวัดอย่างใกล้ชิด 'กรมชลฯ'เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอีสาน 6 จังหวัดอย่างใกล้ชิด
  • สุดสลด! หนุ่มใหญ่ยืนฉี่ข้างสระพลัดตกน้ำเสียชีวิต สุดสลด! หนุ่มใหญ่ยืนฉี่ข้างสระพลัดตกน้ำเสียชีวิต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สอบตก ควรพ้นตำแหน่ง  เก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูล

นายกฯ สอบตก ควรพ้นตำแหน่ง เก้าอี้นายกฯไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูล

20 ส.ค. 2568

แค้นการเมือง  ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

แค้นการเมือง ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

19 ส.ค. 2568

ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล

ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล

18 ส.ค. 2568

ทรัมป์คุยกับปูติน  และรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ?

ทรัมป์คุยกับปูติน และรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ?

15 ส.ค. 2568

มาตรา 144 ยาต้านพิษร้ายผลาญเงินแผ่นดิน

มาตรา 144 ยาต้านพิษร้ายผลาญเงินแผ่นดิน

14 ส.ค. 2568

ต้นสาย ปลายเหตุ ปัญหากัมพูชา-ไทย  ลุงตู่อยู่ในส่วนแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา

ต้นสาย ปลายเหตุ ปัญหากัมพูชา-ไทย ลุงตู่อยู่ในส่วนแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา

13 ส.ค. 2568

ถ้าเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ  ไทยจะเข้มแข็งกว่านี้

ถ้าเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ไทยจะเข้มแข็งกว่านี้

12 ส.ค. 2568

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่ชิงลาออก  นับถอยหลัง ล้างบางพรรคเพื่อไทย

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่ชิงลาออก นับถอยหลัง ล้างบางพรรคเพื่อไทย

11 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved