วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
แค้นการเมือง ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

ดูทั้งหมด

  •  

การแก้ปัญหาที่ดินเขากระโดง สามารถดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อความถูกต้อง ชอบธรรม และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เช่นเดียวกับคดีที่ดินธรณีสงฆ์อัลไพน์ ที่มีขั้นตอนแตกต่างกันไปตามบริบทและข้อเท็จจริงของแต่ละกรณี


แต่ความแค้นทางการเมืองของผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาลเพื่อไทย ลุแก่อำนาจ ต้องการเอาความสะใจ กำลังจะทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต วกวนไปมา เดินซ้ำรอยความผิดพลาดซ้ำซาก เสียเวลา

แทนที่จะทำตามขั้นตอนกฎหมายอย่างถูกต้อง

1.ก่อนหน้านี้ รักษาราชการแทนนายกฯ มท.1 นายภูมิธรรม เวชยชัย ประกาศลั่นว่าจะเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ภายใน 2 วัน

จนแล้วจนรอด ทำไม่ได้จริง

ขนาดเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมที่ดินแล้ว ปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถเพิกถอนโฉนดเขากระโดงได้จริง

นั่นเพราะการเพิกถอนโฉนดใดๆ มันต้องมีขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ใช่เอาความสะใจ

2. ความจริง ปมปัญหาที่ดินเขากระโดง มีอยู่จริง มีปัญหามานานแล้ว

และจนบัดนี้ การแก้ปัญหา ก็จะต้องใช้การดำเนินการตามกฎหมาย ตามกระบวนการในชั้นศาล

แต่ฝ่ายการเมืองพยายามรวบรัดกดดัน สางแค้นทางการเมืองกันในขณะนี้ จะยิ่งทำให้ปัญหาไม่จบ

หนึ่งในประเด็นที่มักอ้างกัน คือ ศาลมีคำพิพากษาชี้ขาดแล้วว่าทั้งหมด 5 พันไร่ เป็นที่ดิน รฟท. หรือศาลสั่งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงทั้งหมด

ความจริง ถ้าศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงทั้ง 5 พันไร่จริงๆ แล้วกรมที่ดินไม่ยอมเพิกถอน ป่านนี้ คงจะมีคนติดคุกไปนานแล้ว

การท่องจำมาว่า ศาลฎีกาเคยพิพากษาแล้ว ว่าเป็นที่ดินการรถไฟฯ จึงสามารถเพิกถอนได้หมดเลย 5 พันกว่าไร่ คือ ความมั่วอย่างน่าอับอาย

เพราะคดีที่ศาลฎีกาเคยตัดสินนั้น เป็นคดีที่รฟท.ชนะคดีประชาชน 35 คน ที่เขาไม่มีโฉนดเลยสักคน แล้วถูกบังคับคดีไปหมดแล้วทุกแปลง

ส่วนประชาชนคนอื่นๆ กว่า 900 คนในขณะนี้ เขามีโฉนดที่ดิน ถือครองแทบทุกคน

การจะไปเพิกถอนโฉนดที่ดิน มันต้องทำตามกฎหมาย

คือ กรณีดำเนินการตามกระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 1 ถึงวรรค 5 และกรณีเพิกถอนตามคําสั่งศาล อยู่ในมาตรา 61 วรรคที่ 8 จะเป็นกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาหรือมีคําสั่งถึงที่สุด ให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน โดยจะระบุหมายเลขโฉนดชัดเจนว่าเพิกถอนแปลงไหน ขอบเขตเท่าใด

จะเห็นว่า กรณีศาลพิพากษาฎีกาพิพากษาราษฎรทั้งหมด 35 รายนั้น เพิกถอนได้ตามคําพิพากษาที่ถึงที่สุด ใช้มาตรา 61 วรรค 8 คือ แนบคําสั่งศาลมา ซึ่งที่ดินจังหวัด ได้ไล่ไปหมดแล้วตามกฎหมายทุกอย่าง

ส่วนที่เหลือราวๆ 5 พันไร่ เป็นของประชาชนอีกกว่า 900 คน เขามีเอกสารสิทธิ ส่วนใหญ่เป็นโฉนดด้วย เขาไม่เคยได้เข้ามาในคดี ไม่เคยฟ้องร้องคดีกับใครเลย แล้วจะไปเพิกถอนทันทีหาทำได้ไม่

3.อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ ชี้ว่า กรมที่ดินไม่มีอำนาจเพิกถอนในภาพรวมได้ทันที เนื่องจากคำตัดสินของศาลฎีกามีผลผูกพันเฉพาะ 35 รายที่เป็นคู่ความในคดีแพ่งระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับประชาชนเท่านั้น

ก่อนที่กรมที่ดินจะดำเนินการใดๆ ต้องเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งแผนที่ เอกสาร และหลักฐานที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ เพราะขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ และต้องพิสูจน์ตามขั้นตอนกฎหมาย ให้ผู้ถือครองที่ดินประมาณ 900 ราย ได้โต้แย้งว่าไม่ใช่ที่ดินของการรถไฟฯ

“...หากกรมที่ดินยังไม่ดำเนินการใดๆ ก็ให้ปล่อยเป็นเพียงการข่มขู่ไปก่อน แต่หากมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดของชาวบ้านที่ได้มาโดยสุจริตจริง ประชาชนสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 51 และ 52 เพื่อคุ้มครองสิทธิของตนได้ โดยเฉพาะเมื่อหน่วยงานรัฐไม่สามารถแสดงเหตุจำเป็นในการใช้ที่ดินได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังอาจมีสิทธิได้รับการเยียวยาความเสียหาย ทั้งในรูปแบบตัวเงินหรือรูปแบบอื่นตามที่กฎหมายกำหนด...

...หากประชาชนได้สิทธิ์มาโดยสุจริต และการรถไฟฯ ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนในการใช้ที่ดิน กรมที่ดินจะเพิกถอนเอกสารสิทธิไม่ได้ เพราะไม่เพียงเป็นการละเมิดสิทธิชาวบ้าน ยังบั่นทอนหลักกฎหมาย และทำลายความเชื่อมั่นต่อระบบเอกสารสิทธิที่ดินในประเทศไทย” – อาจารย์แก้วสรรยืนยัน

4.คดีศาลปกครองในขณะนี้ บางฝ่ายอ้างมั่วๆ ว่าศาลปกครองพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง

คดีนี้ รฟท. เป็นฝ่ายฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ให้กรมที่ดินเพิกถอนการจดทะเบียนเอกสารสิทธิทุกแปลง ในพื้นที่ 5,083 ไร่

การรถไฟฯ บรรยายฟ้องว่าเป็นการออกโฉนดที่ดิน ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นที่ดินการรถไฟฯ โดยนำเสนออ้างแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา พระพุทธศักราช 2462 และอ้างว่าศาลฎีกาได้วินิจฉัย ตามหลักฐานที่การรถไฟฯ นำมาแสดงต่อศาล (ในคดีที่มีประชาชน 35 ราย เป็นคู่ความ)

ปรากฏว่า ศาลปกครอง ได้มีคำพิพากษา ยกฟ้องคำร้องของการรถไฟฯ และให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง ตามมาตรา 61 ของกฎหมายที่ดิน

สาระสำคัญของคำพิพากษาของศาลปกครอง คือ คำร้องที่รฟท.ขอให้ศาลสั่งกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธินั้น ศาลให้ยกคำร้อง และ ให้ไปตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ ทุกกรณีที่มีการฟ้องร้องให้กรมที่ดินเพิกถอนการจดทะเบียนออกเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือผิดกฎหมาย

“..หากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (อธิบดีกรมที่ดิน) มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และพิจารณาข้อเท็จจริงได้เป็นเช่นใด ย่อมเป็นอำนาจของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่จะดำเนินการมีคำสั่งตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามที่เห็นสมควร อันเป็นดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ซึ่งศาลไม่อาจก้าวล่วงได้...” – คำพิพากษาศาลปกครอง

พอศาลปกครองไม่สั่งให้เพิกถอน ก็ยังมีคนพยายามปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลให้สังคมเข้าใจผิดว่าศาลสั่งเพิกถอนแล้ว

5. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ ยืนยันว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อ้างว่า รฟท. มีแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เวนคืนที่ดินพื้นที่เขากระโดง

แต่น่าแปลกใจ... ทำไมที่ผ่านมา รฟท.ไม่เคยนำแผนที่แนบท้ายที่อ้าง มาแสดงได้เลยสักครั้ง

ที่ผ่านมา เคยมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ถึงสองครั้ง คือ ในปี 2552 และ 2567 แต่ที่สุด ก็ไม่สามารถเพิกถอนเอกการสิทธิเขากระโดงได้ทั้งสองครั้ง เพราะเหตุเดียวกัน คือ รฟท.ไม่สามารถนำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวงต่อจากนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี พ.ศ. 2462 มาแสดงเป็นหลักฐานยืนยัน

แต่นำแผนที่ที่ทำขึ้นเมื่อปี 2539 มาเป็นหลักฐาน และไม่สามารถชี้แนวเขตที่ดินของตนเองได้

จะต้องติดตามดูว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการมาตรา 61 เป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ และ จะมีผลแตกต่างจาก 2 ครั้งที่ผ่านมา อย่างไร

ผลการสอบสวนของคณะกรรมการตามมาตรา 61 ล่าสุด ระบุว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แผนที่ที่การรถไฟฯ กล่าวอ้างเป็นรูปแผนที่สังเขปซึ่งได้จัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เป็นการจัดทำขึ้นตามมติที่ประชุม กปร. ส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรกลุ่มสมัชชาคนจน เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2539 โดยผู้ฟ้องคดีนำแผนที่ดังกล่าว ไปใช้ในการต่อสู้คดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 และ ที่ 8027/2561 จึงไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตวันออกเฉียงเหนือ พระพุทธศักราช 2464 ...”

แผนที่ที่การรถไฟฯ นำไปอ้างในศาลฎีกา ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา พระพุทธศักราช 2462 และสัดส่วนในแผนที่ ผิดจากความเป็นจริงในพื้นที่ เช่น ทางรถไฟ ระบุในแผนที่ มีความยาว 8 กิโลเมตร แต่รางรถไฟที่มีอยู่จริงในพื้นที่ ความยาว 6.2 กิโลเมตร อีก 1.8 กิโลเมตร เป็นที่ดินของประชาชน ซึ่งมีการออกเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีผู้แทนการรถไฟ เป็นผู้ชี้แนวเขตการรถไฟฯ ซึ่งไม่ทับซ้อนที่ดินของประชาชน ปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ในเอกสารที่ประชาชนนำมาแสดงล่าสุดด้วย

จากการสอบสวน พบว่า แผนที่ฉบับที่การรถไฟฯ นำมาอ้าง เป็นแผนที่ที่จัดทำขึ้นภายหลัง ซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินและพนักงานการรถไฟฯ ร่วมกันจัดทำขึ้นเอง เพื่อเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินทำกินของประชาชน ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา พระพุทธศักราช 2462 และเมื่อกรมที่ดิน ให้การรถไฟฯ นำแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาพระพุทธศักราช 2462 แสดงเขตที่ดินการของการรถไฟฯ เป็นหลักฐานประกอบการรังวัดชี้แนวเขตที่ดิน ปรากฏว่า การรถไฟฯไม่สามารนำมาแสดงได้ ในขณะที่ได้ประชาชนนำเอกสารสิทธิที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมายมาแสดง และคัดค้านการชี้แนวเขตของผู้แทนการรถไฟฯ

คณะกรรมการสอบสวน พิจารณาแล้ว เห็นว่า เมื่อการรถไฟฯไม่สามารถนำเอกสารสิทธิที่ดีกว่าประชาชนมาแสดงต่อคณะกรรมการได้ และมีประชาชนถือครองเอกสารสิทธิยื่นคัดค้าน จึงยังไม่มีเหตุให้เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิของกรมที่ดิน

ล่าสุด ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้อง กรมที่ดิน กับพวกรวม 3 ราย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่ ซึ่งสรุปได้เป็น 4 ข้อหา คือ

ข้อหาที่ 1 รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0561.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2567 ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์

ข้อหาที่ 2 รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดีกรมที่ดิน (อธิบดีกรมที่ดิน) และปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ซึ่งได้มีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ กรณี รฟท. ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท.บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์

ข้อหาที่ 3 รฟท. มีคําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบ ซึ่งเป็นการคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดในพื้นที่ของ รฟท. ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด หรือภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร

ข้อหาที่ 4 รฟท. ขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขต ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง

ปรากฏว่า ศาลปกครอง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาบางข้อหา ได้แก่ ข้อหาที่ 3 และข้อหาที่ 4

เนื่องจากเห็นว่า มีข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดี และคําขอบังคับในลักษณะเดียวกันกับประเด็นที่ศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว หรือ เป็นการฟ้องซ้ำ ในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 มาฟ้องเป็นคดีนี้อีก

สรุป คือ ศาลไม่รับฟ้อง ประเด็นที่ขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับเพราะฟ้องซ้ำ ศาลเคยพิจารณาประเด็นนี้ไปแล้ว

ตรงนี้ คือ ประเด็นที่ รฟท. แพ้คดีที่ศาลปกครอง

แต่มีความพยายามจะใช้คำพิพากษาศาลฎีกาเดิมโน้น มากดดันกรมที่ดินให้เพิกถอนทีเดียวทั้ง 900 แปลง

ทำไม รฟท.ไม่เดินหน้าฟ้องรายแปลง ฟ้องทุกแปลง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรอพิจารณาทีละแปลง ไม่ได้ล่าช้า และจะไม่วกวนเป็นเขาวงกต วนกลับมาเหมือนเดิมอีก

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:15 น. 'มาริษ'เผย ประธาน ICRC ร่วมปาฐกถา'สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร'
22:08 น. 'ธีรรัตน์'ลงพื้นที่ตรวจสร้างทางเดินริมคลองแสนแสบระยะทาง 9 กม.
22:07 น. 'กรมชลฯ'เตือน! เตรียมระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในช่วง 3 วันข้างหน้า
22:05 น. 1 เดือนแห่งการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ยกระดับหลักสูตร และการสอนเพื่อพัฒนาครู สกร.
22:03 น. 'ไทย'โต้'เขมร' ยัน'ทุ่นระเบิด'วางใหม่ตามหลักยุทธวิธี ไม่ใช่ระเบิดตกค้าง
ดูทั้งหมด
'น็อต วรฤทธิ์'ตั้งคำถามแรง'พรรคนี้มีไว้ทำไม' หลังสส.พรรคปชน. สาธิตสายไส้ไก่ห้ามเลือด
งงกันทั้งลำ! 'แอร์เอเชีย'ลงจอดผิดสนามบินในเกาหลีใต้
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 6 เจ้าหน้าที่รัฐ นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว
จากไปอย่างสงบ! 'บุ๋ม นิรวรรณ'นักแสดงสมทบ หลังประสบอุบัติเหตุอาการโคม่าหลายวัน
ดูทั้งหมด
ปริศนาทุ่งข้าวโพด
ทฤษเฎา
ม้าอารี
แค้นการเมือง ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต
บุคคลแนวหน้า : 19 สิงหาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'กรมชลฯ'เตือน! เตรียมระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในช่วง 3 วันข้างหน้า

แม่ลูกสองยังเป๊ะเวอร์! 'แพทริเซีย'แจกลุคสวยสับในวันเกิด 28 ปี

ญี่ปุ่นเศร้า! ดับเพลิงเสียชีวิต 2 เจ็บ 3 จากเหตุไฟไหม้โอซากา

'ทวี'มอบเงินเยียวยาชาวบ้านเมืองโอ่ง 652 ราย จากปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ

หนุ่มหลอนยาทุบกระจกชาวบ้านพัง ตามหาเมียที่เลิกไปเกือบ 10 ปี

(คลิป) 'ดารา-อินฟลู'ถึงพี่ทหารไทย อยากได้อะไรให้บอกประชาชน ไม่ต้องไปขอ'ภูมิธรรม'

  • Breaking News
  • \'มาริษ\'เผย ประธาน ICRC ร่วมปาฐกถา\'สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร\' 'มาริษ'เผย ประธาน ICRC ร่วมปาฐกถา'สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร'
  • \'ธีรรัตน์\'ลงพื้นที่ตรวจสร้างทางเดินริมคลองแสนแสบระยะทาง 9 กม. 'ธีรรัตน์'ลงพื้นที่ตรวจสร้างทางเดินริมคลองแสนแสบระยะทาง 9 กม.
  • \'กรมชลฯ\'เตือน! เตรียมระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในช่วง 3 วันข้างหน้า 'กรมชลฯ'เตือน! เตรียมระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในช่วง 3 วันข้างหน้า
  • 1 เดือนแห่งการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ยกระดับหลักสูตร และการสอนเพื่อพัฒนาครู สกร. 1 เดือนแห่งการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ยกระดับหลักสูตร และการสอนเพื่อพัฒนาครู สกร.
  • \'ไทย\'โต้\'เขมร\' ยัน\'ทุ่นระเบิด\'วางใหม่ตามหลักยุทธวิธี ไม่ใช่ระเบิดตกค้าง 'ไทย'โต้'เขมร' ยัน'ทุ่นระเบิด'วางใหม่ตามหลักยุทธวิธี ไม่ใช่ระเบิดตกค้าง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

แค้นการเมือง  ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

แค้นการเมือง ทำให้เขากระโดง กลายเป็นเขาวงกต

19 ส.ค. 2568

ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล

ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล

18 ส.ค. 2568

ทรัมป์คุยกับปูติน  และรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ?

ทรัมป์คุยกับปูติน และรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ?

15 ส.ค. 2568

มาตรา 144 ยาต้านพิษร้ายผลาญเงินแผ่นดิน

มาตรา 144 ยาต้านพิษร้ายผลาญเงินแผ่นดิน

14 ส.ค. 2568

ต้นสาย ปลายเหตุ ปัญหากัมพูชา-ไทย  ลุงตู่อยู่ในส่วนแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา

ต้นสาย ปลายเหตุ ปัญหากัมพูชา-ไทย ลุงตู่อยู่ในส่วนแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา

13 ส.ค. 2568

ถ้าเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ  ไทยจะเข้มแข็งกว่านี้

ถ้าเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ไทยจะเข้มแข็งกว่านี้

12 ส.ค. 2568

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่ชิงลาออก  นับถอยหลัง ล้างบางพรรคเพื่อไทย

ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่ชิงลาออก นับถอยหลัง ล้างบางพรรคเพื่อไทย

11 ส.ค. 2568

กองทัพไทย รบชนะราบคาบ  คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้

กองทัพไทย รบชนะราบคาบ คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้

8 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved