ปัจจุบัน ประเทศไทย มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ประเทศเดินไปในทิศทางที่เข้มแข็ง ต่อเนื่อง
ความจริง ถ้ารัฐบาลทุกชุด ไม่เอาแต่เล่นการเมือง เอาผลประโยชน์เฉพาะหน้าของพรรคพวกตน
น่าเสียดาย... หากเดินหน้าประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นที่แน่ชัดว่า ประเทศไทยจะเข้มแข็งกว่าที่เป็นอยู่ในวันนี้
ผู้นำกัมพูชาจะไม่กล้ามาตอแยประเทศไทย ถึงขั้นเปิดฉากโจมตีคนไทยแบบนี้
เศรษฐกิจไทยจะมีศักยภาพในการรับมือกับภาษีทรัมป์ได้ดีกว่าวันนี้แน่นอน
ฯลฯ
1. ยุทธศาสตร์ชาติ พาชาติพ้นภัย
ภาพรวมในยุครัฐบาลลุงตู่ แม้จะเผชิญกับวิกฤตโควิด แต่ยังสามารถประคับประคองประเทศ ยังรักษาพื้นฐานเศรษฐกิจส่วนรวมของชาติให้มีความมั่นคงเอาไว้ได้ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากมาย ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงเป็นประวัติการณ์
ผู้นำทั่วโลกให้เกียรติ ให้การยอมรับผู้นำไทย ทั้งสหรัฐ จีน รัสเซีย ซาอุฯ ฯลฯทุกขั้วอำนาจ
กัมพูชา แม้จะละเมิด MOU43 หลายครั้ง แต่รัฐญบาลลุงตู่ก็สามารถใช้ไม้นวม บริหารความขัดแย้ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนกัมพูชาจนเติบโตต่อเนื่อง ได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยที่ไม่เกิดการสู้รบ และฝ่ายกัมพูชาก็ไม่กล้าคุกคามรุกรานจะเอาแผ่นดินไทยแบบแข็งกร้าวเช่นที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลปัจจุบัน
ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๖๕ บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
ที่ผ่านมา ได้มีการตราพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อรับผิดชอบในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ
และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว นายกฯลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อมีพระบรมราชโองการประกาศใช้เป็นยุทธศาสตร์ชาติ
โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๑ เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ชาติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ลงมติให้ความเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ชาติ
หลังจากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) แล้วตามประกาศ ณ วันที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
2. ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) เป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทย
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
จะต้องนําไปสู่การปฏิบัติ เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ภายในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน
น่าเสียดาย ยุทธศาสตร์ชาติถูกด้อยค่า บิดเบือนโจมตีว่าตกยุคตกสมัย
ทั้งที่ความจริง เป็นยุทธศาสตร์ที่ทันสมัย ทันโลก และไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะไม่มีอำนาจกำหนดนโยบายเอง เพียงแต่จะต้องบริหารประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะทำให้ประเทศเข้มแข็งต่อเนื่อง ไม่เหลวไหลเละเทะตามการเปลี่ยนแปลงของนักการเมือง
3. ถ้าไปดูในยุทธศาสตร์ชาติ จะเห็นว่า มีเป้าหมาย แนวทาง กำหนดไว้ชัดเจน และหากทำตามนั้น ประเทศชาติจะไม่เสียหายเหมือนวันนี้ และจะรับมือกับปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ดีกว่าวันนี้
ใน ประกาศ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) เนื้อหาบางตอน ระบุว่า
“...ปัจจัยและแนวโน้มที่คาดว่าจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ แม้ว่าประเทศไทยจะมีตําแหน่งที่ตั้งที่สามารถเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงในภูมิภาคและเป็นประตูสู่เอเชีย
แต่การที่มีอาณาเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ทําให้ปัญหาด้านเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้านยังคงเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงในอนาคต
นอกจากนี้ประเทศไทยยังคงต้องให้ ความสําคัญกับปัญหาด้านความมั่นคงอื่นๆ ที่มีความซับซ้อน ละเอียดอ่อน และมีความเชื่อมโยงกัน หลายมิติที่อาจเป็นประเด็นท้าทายต่อการสร้างบรรยากาศความไว้วางใจระหว่างรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนกับประชาชน ซึ่งรวมถึงการสร้างความสามัคคีของคนในชาติที่จะนําไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประชากรไทยที่มีแนวคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ การขยายอิทธิพลและการเพิ่มบทบาทของประเทศมหาอํานาจ ที่อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบหลายขั้วอํานาจ หรือเกิดการย้ายขั้วอํานาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ขณะที่องค์กรที่ไม่ใช่รัฐ อาทิ องค์การระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติจะมีบทบาทมากขึ้นในการกําหนดกฎ ระเบียบ ทิศทางความสัมพันธ์ และมาตรฐานสากลต่างๆ ทั้งในด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ รวมทั้งการรวมกลุ่มเศรษฐกิจ และการเปิดเสรีในภูมิภาคที่นําไปสู่ความเชื่อมโยงในทุกระบบ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านอาชญากรรมข้ามชาติและเศรษฐกิจนอกระบบ รวมทั้งปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์และการลักลอบเข้าเมือง…
…. การรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อให้ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเล สามารถดํารงอยู่ได้มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน สังคม รวมถึงประเทศชาติอย่างยั่งยืน
โดยส่งเสริมศักยภาพและความเข้มแข็งของกองทัพ หน่วยงานเกี่ยวข้อง และภาคประชาชน ให้สามารถพัฒนาสมุททานุภาพของประเทศ ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในกระบวนการสมุทราภิบาลในการบริหารจัดการ ปกป้อง และดูแลรักษาผลประโยชน์ทั้งมวลของชาติ
เสริมสร้างและบริหารจัดการความมั่นคง ทั้งชายแดนทางบก ทะเลอาณาเขต และเขตเศรษฐกิจ จําเพาะของไทยอย่างบูรณาการและเป็นระบบ รวมไปถึงการพัฒนาระบบเฝ้าตรวจติดตาม ระบบตรวจ คนเข้าเมือง การสํารวจและจัดทําหลักเขตแดนทางบก และการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนทางทะเล สร้างเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐมีบทบาทและขีดความสามารถที่เหมาะสม มีการดําเนินการต่างๆ และสอดส่อง ดูแลอย่างต่อเนื่อง…
...การพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งระบบของประเทศ ให้มีความพร้อมในการป้องกันและรักษาอธิปไตยของประเทศ
รวมทั้งสามารถติดตาม ป้องกัน แก้ไข และรับมือกับปัญหาความมั่นคงทุกมิติทุกรูปแบบและทุกระดับแบบบูรณาการให้มีความพร้อม และเพียงพอต่อการป้องกันภัยคุกคามทุกมิติ
ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง..
…การพัฒนาระบบงานข่าวกรองแห่งชาติแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถติดตาม แจ้งเตือน ระงับยับยั้ง และป้องกันปัญหาและภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง แม่นยํา และทันเวลา
โดยเสริมสร้าง พัฒนา และบูรณาการ ขีดความสามารถของระบบงานข่าวกรอง หน่วยงานข่าวกรอง และประชาคมข่าวกรองในประเทศ ให้ทันสมัย ทันสถานการณ์ทั้งด้านศักยภาพของบุคลากร ยุทโธปกรณ์เทคโนโลยีและระบบข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถครอบคลุมการใช้งานได้อย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง มีการบูรณาการข้อมูล และนําผลผลิตด้านข่าวกรองไปใช้ในการบริหารจัดการปัญหาและความมั่นคงของชาติในทุกมิติและทุกด้าน รวมทั้งให้มีการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนในรูปแบบประชารัฐ และประชาคมข่าวกรองต่างประเทศอย่างแน่นแฟ้น…
…การพัฒนาและผนึกพลังอํานาจแห่งชาติกองทัพและหน่วยงานความมั่นคง รวมทั้งภาครัฐและภาคประชาชน ให้พร้อมป้องกันและรักษาอธิปไตยของประเทศ และเผชิญกับภัย คุกคามได้ทุกมิติทุกรูปแบบและทุกระดับ เพื่อให้ทรัพยากรที่สําคัญและจําเป็นทั้งปวงของกองทัพและหน่วยงานความมั่นคง ได้รับการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพ ให้มีความพร้อม เพียงพอ และเป็นรูปธรรม ทั้งคน เครื่องมือ ยุทโธปกรณ์
รวมทั้งระบบบริหารจัดการในการป้องกันประเทศ และการป้องกันภัยคุกคามทุกมิติทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ตลอดจนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสามารถระดม ทรัพยากรได้อย่างเป็นระบบและมีขั้นตอนชัดเจน
ส่งผลให้สามารถปกป้องอธิปไตยและแก้ไขปัญหาความมั่นคงได้ทุกมิติทุกรูปแบบและทุกระดับ
โดยการจัดทําแผนพัฒนาและผนึกกําลังทรัพยากรรวมถึงขีดความสามารถทั้งปวงของกองทัพ หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่มีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรมชัดเจน
มีการประเมินขีดความสามารถของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างจริงจัง พร้อมพัฒนาคนโครงสร้างกําลังรบและยุทโธปกรณ์ให้เหมาะสมเพียงพอ และเป็นรูปธรรม สามารถรับมือกับภัยคุกคามได้ทุกมิติทุกรูปแบบและทุกระดับความรุนแรง
ยกระดับการฝึกร่วมให้เป็นแบบบูรณาการที่ทันสมัย มีความสมบูรณ์พร้อมนําไปปฏิบัติได้กับสถานการณ์จริง เสริมสร้างความสัมพันธ์ ในการปฏิบัติการร่วมและการป้องกันภัยคุกคามด้านความมั่นคงกับเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ มิให้เกิดข้อขัดแย้งหรือปัญหาเกี่ยวกับเขตแดนทางบกและอาณาเขตทางทะเล
พร้อมทั้งมีกลไกแก้ไขปัญหา ความเห็นต่างหรือความขัดแย้ง ผ่านทางการเจรจาและมาตรการทางการทูต
ตลอดไปจนถึงการส่งเสริม การวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ การพลังงานทหาร กิจการอวกาศ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างหลักประกันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การมีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศแบบอัจฉริยะในอนาคต มีเทคโนโลยีเป็นของตนเอง สามารถแข่งขัน และลดการพึ่งพาหรือนําเข้าจากต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งสามารถสนับสนุนนโยบาย และยุทธศาสตร์สําคัญของประเทศได้…
...การเสริมสร้างและธํารงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค เพื่อให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สามารถแก้ไขปัญหาร่วมกันได้อย่างสันติวิธีและร่วมมือกัน เพื่อการพัฒนาให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมความเป็นปึกแผ่นของประชาคมอาเซียน และความเป็นแกนกลางของอาเซียนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง...”
นอกจากนี้ ก็จะมีรายละเอียด ที่หน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จะต้องดำเนินการ เพื่อให้บรรลุตามยุทธศาสตร์ชาติ
ลองคิดดู... ถ้าฝ่ายการเมืองที่เข้ามากุมนโยบาย มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติอย่างเต็มกำลัง ประเทศไทยจะเข้มแข็ง เดินหน้าต่อเนื่อง ไม่ใช่เหลวแหลกเละเทะไปกับการใช้จ่ายเงินแบบเบี้ยหัวแตกไปเพื่อเอาหน้าทางการเมืองในระยะสั้นขนาดไหน
ถ้าเราทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ผู้นำกัมพูชา หรือประเทศเพื่อนบ้านใดๆ ก็คงไม่กล้าหือเอากับประเทศไทยแบบที่เป็นอยู่ในวันนี้
วิกฤตจากเศรษฐกิจภายนอก เมื่อเกิดขึ้นจริง อย่างเช่น ภาษีโดนัลด์ ทรัมป์ หรือสงครามการค้าโลก เศรษฐกิจไทยก็คงจะมีศักยภาพในการรองรับปัญหาได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในวันนี้ ฯลฯ
มั่นใจว่า ถ้าเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ไทยจะเข้มแข็งกว่านี้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี