วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
.jpg)
ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในเมืองพลีมัธ รัฐแมสซาชูเซตส์ มีหินแกรนิตก้อนหนึ่งสลักตัวเลข 1620 ไว้ คนอเมริกันเรียกหินก้อนนี้ว่า “พลีมัธร็อก” เชื่อว่าเป็นจุดที่กลุ่มพิวริตันจากอังกฤษที่เดินทางมากับเรือเมย์ฟลาวเวอร์ขึ้นฝั่ง ณ จุดนี้
เมื่อชาวอังกฤษผู้เคร่งศรัทธาหนีภัย อันเกิดจากความขัดแย้งด้านความเชื่อทางศาสนาเดินทางมาสู่โลกใหม่ก็เรียกตนเองว่า “พิลกริมส์” มาขึ้นบกที่ชายหาดแห่งนี้เมื่อ 400 ปีก่อน คือในปี ค.ศ.1620 จึงสลักก้อนหินไว้เป็นพยานการมาถึงโลกใหม่
ชาวอาณานิคมเรียกสถานที่ที่ตนสร้างบ้านเรือนว่า “นิวพลีมัธ” เพื่อเป็นเกียรติแก่แผ่นดินเกิด จากนั้นก็ผูกมิตรกับอินเดียนแดง มีการลงนามสัญญาสันติภาพระหว่างชาวอาณานิคมพลีมัธและหัวหน้าเผ่าแมซซาซอยต์ ข้อความในสัญญาสันติภาพมีใจความสำคัญว่าจะไม่รุกรานกัน ช่วงที่แมซซาซอยต์ยังมีชีวิตอยู่นั้น อินเดียนแดงและชาวอาณานิคมเป็นมิตรที่ดีต่อกันยาวนานถึง 50 ปี
ช่วงที่หัวหน้าแมซซาซอยต์เป็นหัวหน้าใหญ่ของอินเดียนแวมพาโนค ชาวอาณานิคมอยู่ดีมีสุขจึงขยายอาณานิคมมากขึ้นและกว้างขึ้น โดยที่หัวหน้าแมซซาซอยต์ยินยอม ลูกชายทั้งสองคนของแมซซาซอยต์เองนิยมชมชอบพวกอาณานิคมผิวชาวเหล่านี้
ในปีค.ศ.1660 ลูกชายทั้งสองของแมซซาซอยต์คือ แวมสุตตาและเมตาโคมเดินทางไปที่อาณานิคมพลีมัธ เพื่อยื่นคำร้องขอเปลี่ยนชื่อต่อศาลแห่งพลีมัธ แวมสุตตาเปลี่ยนชื่อเป็นอเล็กซานเดอร์ ส่วนเมตาโคมเปลี่ยนชื่อเป็นฟิลลิป หากไม่นิยมชื่อแบบชาวอังกฤษ ลูกชายของแมซซาซอยต์คงไม่เปลี่ยนชื่อเป็นอังกฤษเช่นนี้ โดยเฉพาะเมตาโคมที่สั่งซื้อเสื้อผ้าแบบชาวตะวันตกจากบอสตัน แสดงถึงความนิยมอังกฤษอย่างชัดเจน
เมื่อแมซซาซอยต์เสียชีวิต แวมสุตตาหรืออเล็กซานเดอร์ขึ้นเป็นหัวหน้าแทน แต่เป็นหัวหน้าเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็เสียชีวิต เมตาโคมหรือคิงส์ฟิลลิปจึงขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าในปี ค.ศ.1662 ชาวอาณานิคมขยายดินแดนเพิ่มขึ้น เมื่อสร้างอาณานิคมพลีมัธเสร็จสมบูรณ์ ชาวอังกฤษก็หลั่งไหลมาอยู่ในอาณานิคมแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
อาณานิคมขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการตั้งเมืองใหม่ ๆ เรียงรายตามชายฝั่ง รุกเข้ามายังเขตแดนของอินเดียนแดงทุกเผ่า ทำให้ขอบเขตที่อยู่อาศัยของอินเดียนแดงลดน้อยลงเรื่อยๆ คิงส์ฟิลลิปคับแค้นใจมากที่เห็นชนเผ่าของตนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ อีกทั้งรู้สึกโกรธแค้นที่พวกอาณานิคมไม่รักษาสัญญาที่เคยทำไว้เมื่อครั้งแมซซาซอยต์ จึงตัดสินใจทำสงครามกับชาวอาณานิคมเพื่อปกป้องเผ่าของตน
คิงส์ฟิลลิปไม่มีทางเลือกอื่นเพราะแผ่นดินของเผ่าถูกครอบครองโดยชาวอาณานิคม ประชากรในเผ่ากลายเป็นทาสและผู้รับใช้คนผิวขาว บ้างก็ถูกสังหารเพราะไม่ยอมเปลี่ยนศาสนามานับถือพระเจ้าของคนผิวขาว ในปี ค.ศ.1675 สงครามระหว่างคิงส์ฟิลลิปและชาวอาณานิคมเริ่มต้นขึ้น กินเวลายาวนานสามปีจนสิ้นสุดลงในปี ค.ศ.1678
สงครามคิงส์ฟิลลิปหรือรู้จักกันในนามสงครามครั้งแรกของอินเดียนแดง นักประวัติศาสตร์บางคนก็เรียกว่า “สงครามเมตาโคม” เกิดขึ้นระหว่างปีค.ศ.1675 ถึง ปี ค.ศ.1678 ระหว่างชาวอาณานิคมพลีมัธกับอินเดียนแดงแวมพาโนคที่มีพันธมิตรคือเผ่านารากันเซตต์ สิ้นสุดลงด้วยความตายของคิงส์ฟิลลิปและการลงนามสันติภาพแห่งอ่าวคาสโก (Treaty of Casco Bay) ในเดือนเมษายน ปีค.ศ.1678
ชาวอาณานิคมเสียชีวิตในสงครามคิงส์ฟิลลิปนับพันคน แต่อินเดียนแดงสูญเสียหนักกว่าถึงสามเท่า โดยเฉพาะเผ่าโพคาโนเคตและนารากันเซตต์ถูกทำลายจนหมดสิ้นแทบไม่เหลือสมาชิกเผ่าอยู่เลย อินเดียนแดงที่รอดจากการถูกสังหารถูกส่งไปขายเป็นทาส เมื่อหมดสิ้นอินเดียนแดง ชาวอาณานิคมก็ขยายอาณาเขตจนครอบคลุมบริเวณนั้นโดยเสรี
ร่างของคิงส์ฟิลลิปถูกสับเป็นชิ้นๆ แขวนไว้ตามต้นไม้ จอห์น อัลเดอร์แมน อินเดียนแดงผู้สังหารคิงส์ฟิลลิปได้รับรางวัลตอบแทนความดีความชอบคือศีรษะและมือข้างหนึ่งของคิงส์ฟิลลิป ซึ่งภายหลังจอห์น อัลเดอร์แมนขายศีรษะของคิงส์ฟิลลิปให้ผู้ว่าการอาณานิคมพลีมัธในราคาเพียงยี่สิบชิลลิ่ง ซึ่งเป็นราคามาตรฐานสำหรับศีรษะอินเดียนแดงหนึ่งศีรษะ น่าเสียดายที่ศีรษะของคิงส์ฟิลลิปถูกตีราคาเท่ากับอินเดียนแดงทั่วไปเท่านั้นเอง
ผู้ว่าการอาณานิคมพลีมัธนำศีรษะของคิงส์ฟิลลิปมาเสียบประจานบนเสาแหลมในอาณานิคม โดยไม่เคยนำลงจากเสาตลอดระยะเวลา 20 ปี การเสียบประจานศีรษะของคิงส์ฟิลลิปเหมือนคำขู่อินเดียนแดงทุกคนว่า ชาวอาณานิคมจะฆ่าอินเดียนแดงทุกคน หากเหิมเกริมคิดทำอันตรายชาวอาณานิคม ดูเหมือนว่าสงครามระหว่างคนผิวขาวและอินเดียนแดง จะจบลงด้วยความสูญเสียและหยาดน้ำตาของฝ่ายอินเดียนแดงเสมอ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการในพระองค์ ฝ่ายทหารชั้น นายพล นั่งรองผู้บัญชาการ รร. ทม. รอ.
ไทยก้าวใหม่ ออกแถลงการณ์กรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
เปิดคลิปนาทีทหารไทย ยิงถล่ม อนุสาวรีย์ม้าทอง สัญลักษณ์กองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา
ห้ะ คิดได้ไง? สฤณี แขวะไทยรบเขมร เพราะ ฮุนเซ็น มีน้ำใจ
นิกรเดช บรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย กัมพูชา ให้แก่คณะทูตานุทูต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี