วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การเดินทางท่องเที่ยว หรือการทำธุระโดยเครื่องบินนั้น มีความสะดวกและประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก ปัจจุบันนี้การเดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์นั้น ก็สามารถขนส่งหรือพาน้องๆ สัตว์เลี้ยงเช่น สุนัข หรือ แมว ให้โดยสารไปพร้อมกับเราได้เช่นกัน
วันนี้เรามาทำความเข้าใจถึงขั้นตอนและเงื่อนไข รวมถึงข้อจำกัดในการพาสุนัขหรือแมวเดินทางโดยเครื่องบินกัน โดย น.สพ. วิไลกร หมู่โสภิญ สัตวแพทย์ อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสายการบินบางกอกแอร์เวย์ครับ
โดยทั่วไปการเดินทางในประเทศ สายการบินจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับอายุ พันธุ์ และสุขภาพทั่วไป เช่น
-ควรมีอายุตั้งแต่ 2-4 เดือนขึ้นไป (แล้วแต่สายการบิน) ส่วนการเดินทางต่างประเทศ ก็จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศนั้นๆ
-ต้องมีเอกสารรับรองสุขภาพสัตว์ ( health certification) ที่ตรวจโดยสัตวแพทย์และออกไม่เกิน 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
-ต้องไม่มีความผิดปกติใดๆที่จะเป็นอันตรายจากการในระหว่างเดินทาง เช่น ภาวะปวดอักเสบ โรคหัวใจ โรคหอบหืดในแมว ( Feline asthma) ภาวะหลลอดลมตีบ (Tracheal stenosis หรือ collapse) หรือสุนัขหรือแมวที่มีภาวะโลหิตจาง (Anemia) และโดยเฉพาะสุนัขพันธุ์หน้าสั้น (bracycephalic breeds) เช่น อเมริกันบูลลี่ ปั้ก และบลูด็อก ที่มีโอกาสที่จะเกิดภาวะขาดออกซิเจน (hypoxia) ได้ง่ายกว่าสุนัขพันธุ์อื่น
เกือบทุกสายการบินมีนโยบายปฏิเสธการขนส่ง “สุนัขหรือแมวที่ป่วยอยู่ มีภาวะตั้งครรภ์ หรือส่งกลิ่นที่รบกวน” รวมถึง “สัตว์เพศเมียที่อยู่ในช่วงเป็นสัด” ด้วย เนื่องจากสุนัขและแมวจะถูกโหลดเก็บไว้ที่ห้องเก็บสัมภาระ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินกับตัวสัตว์ดังกล่าวในระหว่างเดินทาง จึงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้การช่วยเหลือได้
บางสายการบินไม่มีบริการ “ขนส่งสัตว์เลี้ยง” รองรับ เนื่องจากข้อจำกัดของตัวเครื่องบินและนโยบายของสายการบินที่ไม่สามารถรับขนส่งสิ่งมีชีวิตประเภทสุนัข หรือแมวได้ จึงควรสอบถามทางสายการบินก่อน
นอกจากนี้ บาง “เที่ยวบิน” ก็อาจไม่สามารถขนส่งสัตว์เลี้ยงได้ ด้วยข้อจำกัดของประเภทเครื่องบินที่ใช้ทำการบิน จึงควรสอบถามสายการบินด้วย
หากทราบแล้วว่า สายการบินไหน เที่ยวบินไหน มีบริการขนส่งสัตว์เลี้ยง ก็ทำการสำรองที่นั่งและจุดหมายปลายทาง หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของสายการบินที่จะประสานงานกับแผนกที่เกี่ยวข้องต่อไป แนะนำว่าควรพาสัตว์เลี้ยงมาเช็คอินอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางเพื่อจะได้ไม่ฉุกละหุกเกินไป
การขนส่งสัตว์เลี้ยงโดยสายการบินในประเทศ ส่วนใหญ่จะโหลดสัตว์เลี้ยงของท่านไว้ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่อง ที่มีการปรับความดันและอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง
กรงที่บรรจุสุนัขหรือแมว ต้องมีความแข็งแรง มีขนาดมาตรฐาน 1 กรงต่อสุนัขหรือแมว 1 ตัว สัตว์สามารถยืน นั่งหรือพลิกตัวได้ปกติ ไม่แคบเกินไป ไม่แนะนำกรงที่เป็นตาข่ายหรือตะแกรงลวด เพื่อป้องกันสัตว์หลุดออกไปในส่วนของอาคาร ลานจอด และรันเวย์ ซึ่งส่งผลต่อความล้าช้าของเที่ยวบิน และความปลอดภัยของตัวสัตว์ด้วย
วัสดุกรงที่แข็งแรงนั้น เพื่อลดโอกาสการแตกเสียหายจากการถูกกระแทกที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการนำเครื่องขึ้น (Take off) และการนำเครื่องลง ( Landing) กรงที่บรรจุนั้นควรป้องกันแสงแดด อากาศที่ร้อน หรือกันฝน เพื่อป้องกันภาวะไม่พึงประสงค์ระหว่างขนย้าย และความมิดชิดเพื่อป้องกันภาวะเครียดจากการเดินทางหรือการเปลี่ยนสถานที่
กรงที่ใช้ควรมีกระบอกน้ำติดตั้ง และสามารถเติมได้จากข้างนอกให้สัตว์เลี้ยงกินน้ำได้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันภาวะแห้งน้ำ (Dehydration) ร่วมกับสภาพอากาศบนเครื่องบินมีความชื้นต่ำ จึงมีโอกาสสูญเสียน้ำให้กับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เยื่อเมือกในช่องจมูกหรือเยื่อบุตาแห้งได้
ส่วนใหญ่การเดินทางในประเทศมักเป็นลักษณะเที่ยวบินสั้นๆ จึงมักไม่ค่อยพบภาวะน้ำตาลต่ำ (Hypoglycemia) แต่เราอาจจะพบภาวะนี้ได้ในเที่ยวบินระยะไกล ที่เกิดร่วมกับการงดน้ำและอาหารก่อนเดินทาง
เมื่อเช็คอินแล้ว สัตว์เลี้ยงจะถูกลำเลียงผ่านช่องทางพิเศษ เพื่อไปยังเครื่องบิน และเมื่อถึงเครื่องบินแล้ว กัปตันและลูกเรือจะได้รับข้อมูลการขนส่งสัตว์เลี้ยงไปพร้อมกับเที่ยวบินที่ปฏิบัติงาน สุดท้ายเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ภาคพื้น (Ground personnel) เป็นคนนำสุนัขและแมวมาส่งให้กับเจ้าของถึงหน้าเครื่องบินหรือสามารถรับได้ที่สายพานรับสัมภาระได้เลย
จะเห็นได้ว่าการขนส่งสุนัขหรือแมวเดินทางโดยสารด้วยเครื่องบินนั้น ต้องมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ ทั้งนี้ควรติดต่อสายการบินโดยตรงทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงของเราตลอดการเดินทางนั่นเอง
“หมอโอห์ม”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี