เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลูกสุนัขจึงจำเป็นต้องได้รับน้ำนมจากแม่เป็นอาหาร แม่สุนัขที่เลี้ยงลูกเก่งๆ หรือมีลูกหลายตัว ก็อาจประสบปัญหาเหล่านี้ เช่น ตัวสั่น หอบ ไข้สูง บางรายอาจเห็นอาการชัก กระตุกในบางรายอาจถึงขั้นโคม่าและทำให้เสียชีวิตได้ อาการเหล่านี้เป็นอาการหลักของไข้น้ำนม ที่มักพบในแม่สุนัขที่เลี้ยงลูกเก่งๆ วันนี้ผมมีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับ“ภาวะไข้น้ำนม” จาก สพ.ญ.ศศิประภา ตัวตุลานนท์ แผนกฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤตโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากครับ
@ไข้น้ำนม คืออะไร?
ภาวะไข้น้ำนม (Eclampsia, Puerperal tetany หรือ Postpartum hypocalcemia) เป็นภาวะที่ร่างกายสัตว์มีระดับแคลเซียมในกระแสเลือดลดต่ำลง จนเหลือต่ำกว่า 7 mg/dl (ค่ามาตรฐานในสุนัขคือ 9-12 mg/dlและ 8-10.5 mg/dl) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เนื่องจากมีผลต่อชีวิตสัตว์ ภาวะนี้ส่วนใหญ่นั้นจะเกิดขึ้นในช่วงแม่สุนัขหลังคลอดประมาณ 1-4 สัปดาห์ โดยพันธุ์สุนัขที่มักเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ ชิวาวา ปอมเมอริเนียน ชิสุ รวมถึงสุนัขพันธุ์เล็กต่างๆ
@สาเหตุของโรค
เกิดจากการที่แม่สัตว์สูญเสียแคลเซียมไปจำนวนมาก ในช่วงที่มีพัฒนาโครงสร้างกระดูกของลูกสัตว์ในช่วงตั้งท้อง หรือสูญเสียแคลเซียมไปกับน้ำนมที่เลี้ยงลูก หรืออาจจะมาจากการจัดการอาหารที่ไม่เพียงพอ การได้รับแร่ธาตุเสริมแคลเซียมที่ไม่ดีพอในช่วงที่แม่สุนัขตั้งท้องหรือช่วงการจัดการหลังคลอด
@อาการที่พบเป็นอย่างไร?
เจ้าของสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นของสัตว์เลี้ยงที่อาจพบได้ในสุนัขที่อยู่ในภาวะไข้น้ำนม ได้แก่ แม่สุนัขจะมีอาการตัวสั่น เดินเซ ทรงตัวไม่ได้อ่อนแรง หอบ และมีอาการชัก กระตุก ซึ่งอาจจะถึงขั้นโคม่าและอาจทำให้เสียชีวิตได้ อีกอาการที่สำคัญคือ มีไข้สูง โดยมีอุณหภูมิสูงกว่า 105 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งในรายที่อุณหภูมิสูงถึง 107 องศา ก็จะมีอันตรายมาก อาจทำให้เกิดการทำลายของสมองและอวัยวะภายในอย่างถาวร จนถึงเสียชีวิตได้
@การวินิจฉัยภาวะไข้น้ำนมทำได้อย่างไร
การวินิจฉัยภาวะไข้น้ำนมในสัตว์เลี้ยงนั้นทำได้โดย การสังเกตอาการแม่สุนัขดังที่กล่าวแล้วข้างต้น ร่วมกับกลุ่มของแม่สุนัขที่มีโอกาสที่จะสามารถเกิดภาวะไข้น้ำนมได้ เช่นอยู่ในกลุ่มพันธุ์เสี่ยง หรือสุนัขพันธุ์เล็ก มีลูกจำนวนมาก หรือได้รับโภชนาการอาหารในช่วงตั้งท้องและช่วงเลี้ยงลูกที่ไม่เหมาะสม ซึ่งการตรวจวัดระดับแคลเซียมในกระแสเลือดก็จะช่วยยืนยันให้ทราบว่ามีปริมาณต่ำหรือไม่
@การรักษาทำได้อย่างไร
ภาวะไข้น้ำนมนั้น ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินอย่างมาก เมื่อสัตว์เลี้ยงอยู่ในสถานการณ์ที่มีโอกาสก่อให้เกิดภาวะไข้น้ำนมหรือมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็น ก็ควรให้ลูกสุนัขหยุดการดูดนม และรีบพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน โดยมีหลักในการรักษาคือ
- การให้แคลเซียมทางกระแสเลือด เพื่อเพิ่มระดับแคลเซียมในเลือดโดยการฉีด แต่การฉีดแคลเซียมเข้าเส้นเลือดนั้น ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของสัตวแพทย์อย่างเข้มงวด เนื่องจากการให้แคลเซียมทางกระแสเลือดนั้นมีอันตรายสูง ต้องให้อย่างระมัดระวัง ทั้งนี้อัตราเร็วในการให้เข้าทางกระแสเลือดต้องมีความเหมาะสม เนื่องจากการให้แคลเซียมที่รวดเร็วเกินไปจะทำให้ส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้จังหวะของการเต้นของหัวใจผิดปกติได้
-ในสุนัขบางตัวที่มีอาการกระตุกหรือชักเกร็ง อาจต้องได้รับยาระงับอาการชัก เช่น diazepam เพื่อควบคุมอาการชักด้วย
-ในรายที่มีไข้สูง จำเป็นต้องให้ยาลดไข้ รวมถึงการประคบเย็นโดยใช้ cold pack หรือเช็ดตัวเพื่อลดไข้
-เมื่ออาการดีขึ้นจนสัตวแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว สัตวแพทย์จะให้เสริมแคลเซียมโดยการกิน ร่วมกับงดการให้นมลูกในช่วงแรก
ทั้งนี้ จะมีการนัดกลับมาติดตามอาการ อาจมีการเช็คระดับแคลเซียมในกระแสเลือดเพื่อยืนยันความเป็นปกติด้วย
@การป้องกันทำได้อย่างไร
การป้องกันภาวะไข้น้ำนมนั้นสามารถทำได้โดย การให้อาหารที่มีโภชนาการที่ดีและมีคุณภาพดีแก่แม่สุนัขตั้งท้อง ซึ่งควรเป็นสูตรที่เหมาะสำหรับช่วงการตั้งท้องและเลี้ยงดูลูก เนื่องจากอาหารสูตรนี้ จะมีวิตามิน และแร่ธาตุที่เหมาะสม ที่แม่สุนัขสามารถนำไปใช้ในช่วงของการตั้งท้องและเลี้ยงดูลูกได้
แต่หากแม่สุนัขมีความเสี่ยงในการที่จะเกิดภาวะไข้น้ำนมได้ เช่น ได้รับอาหารที่ไม่เพียงพอทั้งด้านปริมาณและคุณภาพในช่วงตั้งครรภ์ การที่แม่สุนัขตั้งท้องลูกจำนวนมาก หรือเป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยง แนะนำว่าควรแยกลูกสุนัขออกจากแม่สุนัขในบางช่วง เพื่อลดโอกาสการกินนมของลูกตลอดเวลาและให้เวลาแม่สุนัขได้กินอาหารเพื่อเสริมโภชนาการที่เหมาะสมในช่วงเลี้ยงดูลูกมากขึ้น ทั้งนี้ เจ้าของสามารถช่วยเลี้ยงลูกสุนัขได้ โดยการเสริมนมหรือสารทดแทนนม (milk replacer) ให้แก่ลูกสุนัข ในช่วงลูกสุนัขอายุ 3-4 สัปดาห์แรกได้
อยากเรียนว่าปัญหาไข้น้ำนมในสุนัขนั้น อาจไม่เกิดในแม่สุนัขทุกตัวโดยเฉพาะแม่สุนัขที่ได้รับอาหารที่มีคุณภาพสูงมาโดยตลอด ดังนั้น หากสุนัขนั้นได้รับการวินิจฉัย และรับการรักษาอย่างทันท่วงทีและเหมาะสมแล้ว จะทำให้อาการของภาวะไข้น้ำนมนั้นก็จะหายเป็นปกติได้โดยเร็ว และตัวสัตว์ก็จะปลอดภัย จากภาวะไข้น้ำนมด้วย
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี