คำถาม ขอทราบตัวอย่างของอาการแพ้ยา
ตอบ ตัวอย่างของอาการแพ้ยา มีข้อควรทราบดังนี้
1.การแพ้ยาเป็นอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เกิดขึ้นได้กับผู้ใช้ยาบางรายเท่านั้น
2.การมีอาการผิดปกติหลังใช้ยาอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นที่ไม่ได้เกิดจากการแพ้ยาเช่นอาจเป็นผลข้างเคียงจากยา
3.ควรให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยสาเหตุของอาการต่างๆ ว่าเกิดขึ้นจากการแพ้ยาหรือไม่
อาการแพ้ยา ลมพิษ หน้าบวม ปากบวม เปลือกตาบวม
ยาที่เป็นสาเหตุ ยาปฏิชีวนะ ยาเอ็นเสด ยาคลายกล้ามเนื้อบางชนิด ยาเคมีบำบัด วัคซีน (ในคนที่แพ้ไข่) อินซูลินแอนติบอดีที่สร้างจากเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ออกแบบมาให้มีความจำเพาะต่อโรค ยาชาเฉพาะที่ สารทึบแสงที่ใช้ขณะทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
ชนิดของการแพ้ การแพ้ชนิดที่ 1 เกิดจากการกระตุ้นการหลั่งสารภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) ชนิด E (ImmunoglobulinE หรือ IgE) การแพ้ชนิดนี้เป็นการแพ้แบบฉับพลัน อาจถึงแก่ชีวิตได้
กลไกการเกิด กระตุ้นการหลั่งสารก่อการอักเสบ เช่น ฮิสตามีน ทำให้หลอดเลือดแดงขยาย และมีการซึมผ่านของของเหลวออกจากหลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อทำให้เกิดการบวม
อาการแพ้ยา หายใจไม่ออก
ยาที่เป็นสาเหตุ เช่นเดียวกับด้านบน, ชนิดของการแพ้เช่นเดียวกับด้านบน
กลไกการเกิด กระตุ้นการหลั่งสารก่อการอักเสบ เช่น ฮิสตามีน โพรสตาแกลนดิน และลิวโคไทรอีน ทำให้หลอดลมหดตัว เนื้อเยื่อบวม และมีเสมหะมาก
อาการแพ้ยา ความดันเลือดตก และช็อก, ยาที่เป็นสาเหตุเช่นเดียวกับด้านบน, ชนิดของการแพ้ เช่นเดียวกับด้านบน
กลไกการเกิด กระตุ้นการหลั่งสารก่อการอักเสบ เช่น ฮิสตามีน โพรสตาแกลนดิน ลิวโคไทรอีน ไซโตไคน์ และสารกระตุ้นเกล็ดเลือด ทำให้หลอดเลือดแดงขยาย ความดันเลือดตก และช็อก
อาการแพ้ยา เม็ดเลือดแดงแตก ทำให้โลหิตจางตาเหลือง ตัวเหลือง หรือเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำตับอักเสบ ไตอักเสบ ปอดอักเสบ
ยาที่เป็นสาเหตุ ยาปฏิชีวนะ ยาเอ็นเสด ยากันชักยารักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ยาเคมีบำบัด วัคซีน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ชนิดของการแพ้ การแพ้ชนิดที่ 2 เกิดจากการกระตุ้นการหลั่งสารภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) ชนิด G หรือ M(Immunoglobulin G หรือ IgG และ Immunoglobulin M หรือ IgM) การแพ้ชนิดนี้เป็นการแพ้แบบฉับพลัน มีอาการรุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิต
กลไกการเกิด IgG หรือ IgM จับกับผิวของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย แล้วชักนำเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดต่างๆ เช่น natural killer cells เข้ามาทำลายเซลล์เหล่านั้น เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ตับ ไต และผิวหนัง
อาการแพ้ยา เป็นไข้ ผื่นขึ้น ปวดข้อ ต่อมน้ำเหลืองโตหลอดเลือดอักเสบ ไตอักเสบ ตับอักเสบ
ยาที่เป็นสาเหตุ ยาที่เป็นสารชีวภาพ ยาปฏิชีวนะยาซัลฟา ยาเอ็นเสด วัคซีน ยากันชัก ยารักษาโรคข้ออักเสบ รูห์มาตอย
ชนิดของการแพ้ การแพ้ชนิดที่ 3 เกิดจากการกระตุ้นการหลั่งสารภูมิต้านทาน (แอนติบอดี) ชนิด G (Immunoglobulin G หรือ IgG) เป็นหลัก แต่อาจเกิดขึ้นผ่าน IgM และ IgA ได้ด้วย การแพ้ชนิดนี้เป็นการแพ้แบบฉับพลัน
กลไกการเกิด แอนติบอดีจับกับสารก่อการแพ้(แอนติเจน) ในปริมาณมาก จนเกิดการสะสมของสารประกอบระหว่างแอนติบอดีกับแอนติเจนในอวัยวะต่างๆ และนำไปสู่การทำลายเซลล์ผ่านระบบคอมพลีเมนต์ (complement system)
อาการแพ้ยา ผื่นแพ้เฉพาะที่ ปื้นดำบริเวณริมฝีปากและอวัยวะเพศ ผิวหนังอักเสบบวมแดง ผื่นเป็นตุ่มแดงทั่วร่างกายหรือผิวหนังเป็นตุ่มพอง หลุดลอกทั่วร่างกาย เรียกว่า กลุ่มอาการสตีเวนส์-จอห์นสัน
ยาที่เป็นสาเหตุ ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม เพนนิซิลลิน ซัลฟา ยาเอ็นเสด ยากันชัก ยาลดกรดยูริก ยาต้านไวรัสเอชไอวี ยาขับปัสสาวะ ยาต้านการซึมเศร้า และยารักษาโรคจิต
ชนิดของการแพ้ การแพ้ชนิดที่ 4 ไม่ได้เกิดจากแอนติบอดี แต่เกิดจากเซลล์ ที-ลิมโฟไซต์ และเซลล์ภูมิต้านทานอื่นๆ เป็นการแพ้ที่แสดงอาการช้า เช่น เกิดขึ้นหลังใช้ยาไปนานหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ ผื่นที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง ยกเว้นบางชนิดที่อาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้
กลไกการเกิด เมื่อเซลล์ ที-ลิมโฟไซต์ และเซลล์ภูมิต้านทานอื่นๆ เข้าจับกับยา จะนำไปสู่การอักเสบเฉพาะที่หรือทั่วร่างกาย และเกิดการทำลายเซลล์ด้วยเอนไซม์ ตลอดจนสารพร้อมสร้างอนุมูลอิสระจากออกซิเจน และสารพิษต่อเซลล์หลายชนิด
ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล กรรมการแพทยสภา
ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี