สติ : คือความไม่เผลอ ความระลึกได้ คุมใจไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
ในแต่ละวันเราปล่อยให้ใจของเราฟุ้งซ่านไปในเรื่องต่างๆ ในขณะที่เราทำกิจกรรมต่างๆ อยู่...ใช่ไหม
ใจของเราไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เราทำหรอก นั่นแสดงว่าเราขาดสติหรือมีสติน้อย เราเสียเวลาและพลังงานไปกับการมีสติเลื่อนลอยหรือสติบกพร่องมากเหลือเกิน
ขอแนะนำให้ฝึกการเจริญสติหรือทำให้มีสติอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น นานขึ้น ทุกๆ วัน
มีวิธีการฝึกสติหลายๆ อย่าง โดยอาจารย์หลายๆ แบบ
แต่ผมชอบแบบง่ายๆ ที่สัมผัสได้ทุกคนเพราะเป็นวิทยาศาสตร์ นั่นคือการฝึกจิต (หรือความคิด) ให้ตามความรู้สึกของลมหายใจเข้า-ออกผ่านรูจมูกให้ได้ เริ่มต้นได้แค่ 1-2 ครั้ง ก็ยังดี
มีผู้ทุกข์มาปรึกษาหลายรายที่ไม่เคยฝึกการเจริญสติมาก่อนเขามักจะบอกว่ามันยาก เขาเลยไม่เคยลอง
ผมบอกให้เขานั่งบนเก้าอี้ ตั้งตัวตรง หลับตาลงเบาๆ แล้วเพ่งความสนใจไปที่ลมหายใจเข้า-ออกๆ ผ่านรูจมูกของเขา ให้หายใจเข้าลึกๆ ให้หายใจออกช้าๆ ลึกๆ ช้าๆ แรกๆ เหมือนฝืนทำสัก 5 ครั้ง
แล้วหายใจไปเรื่อยๆ สัก 10 ครั้ง เมื่อชำนาญแล้วให้หายใจเข้า-ออกตามปกติ แต่ให้ลึกๆ ช้าๆ ไม่ต้องฝืนหรือบังคับหายใจ ปล่อยตามสบาย ทำหน้ายิ้มๆ เข้าไว้ ปรากฏว่าเขาทำได้ถึง 15 นาที
เมื่อบอกให้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น บางรายมีน้ำตาไหลซึมๆ ท่าทางสงบ พูดน้อยลง บ่นน้อยลง ทุกข์น้อยลง อารมณ์สงบขึ้น
นั่นคือจิตของเขาได้สัมผัสกับความสุขแบบ“สงบสุข” หรือ “สมาธิสุข” แล้ว
เมื่อฝึกสติได้นานขึ้นก็จะมีสมาธิได้มากขึ้น มีความสุขแบบสงบได้มากขึ้น
สมาธิ : คือความตั้งมั่นแห่งจิต การทำใจให้สงบแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน
สมาธิเป็นฐานของการเกิดปัญญาในระดับต่อๆ ไป
การฝึกเจริญสติหรือบางคนเรียกการฝึกสมาธินี้เป็นสิ่งดี ที่คุณควรทำทุกวันให้เป็นนิสัย
ในยุคนี้มีอาจารย์สอนการเจริญสติหรือฝึกสมาธิมากมายหลายแบบ
ผมขอแนะนำให้เลือกเอาแบบธรรมดาๆ (เช่นการฝึกแบบเพ่งความรู้สึกไปที่ลมหายใจเข้า-ออกๆ นี่แหละ) ที่ทำให้ใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน เกิดสมาธิมากขึ้น เพื่อเป็นฐานของปัญญาที่จะยอมรับหลักความจริงของชีวิตที่มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆ เพราะรู้และเข้าใจว่ามันไม่แน่นอน ทำให้ปล่อยวางทุกสิ่งในชีวิตได้มากขึ้น ทั้งที่เป็นความทุกข์และความสุข จนเกิดวิมุติสุขหรือนิพพานสุขในที่สุด
อย่าไปหลงฝึกสติแบบมีอิทธิฤทธิ์ปนไสยศาสตร์หรือพิสดาร ทำให้จิตว้าวุ่น มีโลภ และหลงมากขึ้น หรือวนเวียนยึดติดอยู่ในญาณและฌานที่จะเกิดขึ้นได้ ให้ก้าวผ่านไปเสียเถิด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะมีจิตเกาะแน่นกับสิ่งที่ได้สัมผัสจนไม่คิดจะปล่อยวาง ทำให้จิตไม่หลุดพ้นเป็นอิสระ ทำให้มีทุกข์มากขึ้น หลงผิดมากขึ้น
ฝึกจิตให้มีสติและสมาธิดีขึ้น ทุกวัน
และอารมณ์คุณจะดีขึ้น ทุกวัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี