เรื่องการให้ยาลดไข้ในสุนัขและแมวโดยเจ้าของเพื่อปฐมพยาบาลภาวะไข้ในสุนัขและแมว แล้วก่อให้เกิดปัญหาจนถึงขั้นตายนั้น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน ตั้งแต่อดีต ต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน และคาดว่าจะยังเกิดต่อไปอีก หากหลายท่านยังไม่ทราบถึงอันตรายของการให้ยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้ว่าทำได้หรือไม่ วันนี้ผมมีข้อมูลดีๆ จาก สพ.ญ.สิริวิมล มะระวัง โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เกี่ยวกับเรื่อง อันตรายของการให้ยาพาราเซตามอลในสุนัขและแมวมาฝากกันครับ
พาราเซตามอล (Paracetamol) หรืออะเซตามิโนเฟน(Acetaminophen) นั้น เป็นยาแก้ปวดในคนที่หาซื้อง่าย ราคาถูกแต่ทุกท่านรู้หรือไม่ว่า มีพิษต่อน้องหมาแมวจนถึงแก่ความตายได้!!
แมว
ในแมวโตที่มีน้ำหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัมนั้น การป้อนยาพาราเพียงครึ่งเม็ดก็เป็นอันตรายถึงแก่ความตายได้แล้วเนื่องจากแมวจะไวต่อความเป็นพิษของยาพาราเซตามอลได้มากกว่าสุนัข โดยขนาดยาเพียง 45-55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว1 กิโลกรัม ก็สามารถทำให้เกิดความเป็นพิษได้แล้ว จึงไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้ในแมว (ยาพาราเซตามอล 1 เม็ด ขนาดเท่ากับ500 มิลลิกรัม) เนื่องจากในแมวนั้นขาดเอนไซม์ที่ใช้เปลี่ยนแปลงยาตัวนี้ จึงไม่สามารถขจัดยาดังกล่าวออกจากร่างกายทางตับได้ ทำให้เกิดการสะสมสารที่เป็นพิษในร่างกาย โดยจะมีความเป็นพิษร้ายแรงต่อตับ ไต ระบบทางเดินอาหาร และระบบเลือด เมื่อพิษดังกล่าวแพร่กระจายทางกระแสเลือด จะทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย จนเม็ดเลือดแดงแตกทำให้ไม่สามารถขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ที่สำคัญของร่างกายได้ ในที่สุดทำให้แมวตาย
อาการที่แสดงความเป็นพิษจะเกิดขึ้นภายใน 4-12 ชั่วโมง หลังจากได้รับยา โดยอาการที่อาจพบได้ในระยะเริ่มแรก คือ น้ำลายฟูมปาก อาเจียน ซึม หายใจลำบากเหงือกมีสีคล้ำอุ้งมือบวม อุ้งเท้าบวม หน้าบวม และเบื่ออาหาร อาการทั้งหลายเหล่านี้จะแสดงหลังได้รับยาเพียง 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นตับอาจเสียหาย เริ่มสังเกตเห็นอาการดีซ่าน เหงือกเปลี่ยนเป็นสีซีดเหลือง ปัสสาวะเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อๆ หรือสีช็อกโกแลตเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก ชัก โคม่า และเสียชีวิตได้ภายใน 18-36 ชั่วโมง
สุนัข
ขนาดของยาที่ทำให้เกิดความเป็นพิษในสุนัขจะสูงกว่าในแมว คือประมาณ 165-250 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว1 กิโลกรัม เป็นต้นไป (จึงทนความเป็นพิษได้กว่าแมวเล็กน้อย)ความเป็นพิษนั้น มักเกิดขึ้นกับตับ และไต ทำให้เกิดภาวะตับและไตวายได้ อาการที่แสดงความพิษที่พบได้ คือ ซึม อาเจียน น้ำปัสสาวะสีน้ำตาลแดงคล้ำ และเสียชีวิตภายใน 2-5 วัน
ดังนั้น ในกรณีที่สุนัขและแมวมีไข้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงไม่ควรให้ยาพาราเซตามอลกับสัตว์เลี้ยงด้วยตนเอง หากจำเป็นต้องแก้ไขภาวะการมีไข้ ควรอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด
ผลการรักษาในแมวที่ได้รับพิษนั้น อัตราการรอดชีวิตค่อนข้างต่ำ แต่ในกรณีที่ตอบสนองต่อการรักษา จะดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง
สำหรับผลการรักษาในสุนัขนั้น มักจะได้ผลดีกว่าแมวทั้งนี้ขึ้นกับขนาดยาที่ได้รับด้วย ซึ่งการแก้ไขโดยการกระตุ้นให้สัตว์อาเจียน และป้อนผงถ่าน (activated carbon) เพื่อลดการดูดซึมตัวยาเข้าสู่ร่างกาย ภายใน 4-6 ชั่วโมงหลังได้รับยา ก็จะทำให้มีโอกาสดีขึ้นมากขึ้น แต่ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยควรรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี