พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ร่วมประชุมกับอัยการ และตำรวจ สองประเด็น ได้แก่

(1) ผู้เกี่ยวข้องกับการรับเช็คสหกรณ์ฯ คลองจั่น เข้าสู่วัดพระธรรมกาย ก่อนไปยังบุคคลอื่น ซึ่งมีทั้งพระและกลุ่มบุคคลภายนอก โดยนำไปซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ

(2) การขอหมายค้นวัดพระธรรมกาย

1.คุณพระช่วย...

มหาอาณาจักรแห่งนี้ มีการผ่องถ่ายเงินออกไปเล่นหุ้นด้วยหรือ?

นี่มันวัด หรืออะไรกัน?

2.กลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นโฆษกคณะศิษย์ แต่ทำตัวปกป้องผู้บริหารวัดลูกเดียว ทำไมไม่ตรวจสอบการบริหารเงินของชาวบ้านที่บริจาคผ่านวัดบ้างเลยหรือ?

รู้หรือเปล่า เงินไหลผ่านมูลนิธิในเครือข่ายธรรมกายเดือนละเท่าไหร่? ปีละเท่าไหร่?

กี่พันล้านบาท?

เงินมหาศาล? ไปไหนบ้าง?

เคยชี้แจงรายละเอียดบ้างไหม? นอกจากท่องจำไปวันๆ ว่า หลวงพ่อบริสุทธิ์ๆ

แม้แต่เงินจากสหกรณ์คลองจั่น ถูกโกง ไหลผ่านหลายสาย ผ่านใคร ไปไหน อย่างไร?

3.นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 คณะพนักงานสอบสวน เคยเปิดเผยว่า

เงินที่ไหลเข้าไปในคลังวัดพระธรรมกายนั้น มี 3 ประเภท ได้แก่

(1) เงินบริจาคทำบุญจริงๆ ด้วยความศรัทธา

(2) เงินที่ได้จากการฟอกเงิน เช่น เงินที่ได้รับจากสหกรณ์คลองจั่นฯ เป็นต้น

และ (3) เงินที่ได้จากกลุ่มทุน ซึ่งอาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายหลบเลี่ยงภาษี คล้ายๆ เกาะเคย์แมน

4.น่าสังเกตว่า โครงสร้างของธรรมกาย คล้ายเปลือกหอย ห่อหุ้มระบบจัดการเงินไว้ข้างใน

เงินได้มาด้วยวิธีการต่างๆ ไหลเข้าสู่ธรรมกาย

มีทั้งเงินบริสุทธิ์และเงินสกปรก

เงินก้อนใหญ่ ส่วนมาก ผ่องถ่ายต่อไปยังมูลนิธิ ก่อนจัดสรรเงินผ่านโครงการก่อสร้าง และกิจกรรมอื่นๆ

น่าสนใจว่า เงินที่อธิบดีดีเอสไอเปิดเผยว่า กำลังตรวจสอบ แกะรอย โดยพบว่า มีพฤติกรรมนำเงินไปซื้อหุ้นด้วยนั้น เกิดขึ้นส่วนไหน ท่อนไหน อย่างไร?.

ควรรีบเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงสู่สาธารณะ จะทำให้สังคมตาสว่าง ว่าเงินธรรมกายไหลไปไหนต่อไหน

พาใครขึ้นสวรรค์? ใครรวย?

และจะพาใครตกนรกในฐานที่แอบอ้างพระพุทธศาสนาหากินมานาน?

5.นึกถึงเทศนาธรรมของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

ท่านเคารพหลวงพ่อสดมาก แต่สำหรับวัดพระธรรมกาย ธัมมชโย ตลอดจนสมเด็จช่วง ท่านไม่ยกย่อง

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ยังเคยกล่าวถึงวัดพระธรรมกายด้วย

ท่านเล่าว่า เมื่อครั้งได้รับกิจนิมนต์ไปในฐานะวางศิลาฤกษ์ วัดพระธรรมกาย ได้พบเห็นพฤติกรรมหลายประการของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถึงกับกล่าวว่า

“..ท่านเจริญพระกรรมฐานกันยังไง ทำไมถึงแบกกิเลส ต้องการลาภ ต้องการยศกัน... ยื่นเงื่อนไขตำแหน่งเจ้าอาวาสกัน”

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำยังกล่าวถึงคุณวรณี สุนทรเวช ผู้บริจาคที่ให้วัดพระธรรมกาย ด้วยความเห็นใจว่า

“…พระถมเถไป กรรมอะไรของท่านหนอ ที่ไปเจอะเอาพระจัญไร แบบนี้เข้า ..”

6.ในส่วนของการจับกุมผู้ต้องหา ธัมมชโย

เมื่อวานนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนลาออกไปดำรงตำแหน่งองคมนตรี กรณีติดตามจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่มีแผนดำเนินการ ทั้งกรณีมอบตัว และไม่มอบตัว การดำเนินการทุกอย่างทำตามกฎหมายทุกประการ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยืนยันว่า มั่นใจว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดพระธรรมกาย ไม่ได้หลบหนีไปที่ไหน หากมีการจับกุมดำเนินคดีก็จะไม่มีการให้ประกันตัว เพราะได้ให้โอกาสหลายครั้งแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ติดต่อเข้ามามอบตัว ส่วนจะการให้พระธัมมชโยสึกจากสมณเพศ หากควบคุมตัวได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ได้มี พ.ร.บ.สงฆ์ กำกับดูแลไว้แล้วจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน

“เป็นพระก็ต้องสวด เป็นตำรวจก็ต้องจับ”

ผบ.ตร.ระบุด้วยว่า หากคดีนี้ได้ขยายผลและพบว่ามีการทำผิดคดีอื่น เช่น การฟอกเงิน ก็จะดำเนินการเอาผิดในทุกข้อหา ส่วน
จะมีการปิดวัดหรือไม่ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่

7.ใครที่อ้างว่า ถ้าดำเนินคดีกับพระธัมมชโย วัดทั่วไปจะเดือดร้อนไปด้วย ใครพูดอย่างนี้คือพวกปลุกระดม มั่วซั่ว บิดเบือนเพื่อปกป้องวัดพระธรรมกายเป็นหลัก

ก็ลองดูสิ มันมีวัดที่ไหนอีกหรือที่มีพฤติกรรมอย่างที่ปรากฏมาในข้างต้น?

วัดป่า วัดบ้าน วัดอื่นๆ นับพันนับหมื่นแห่งทั่วประเทศ พัวพันกับเงินๆ ทองๆ สลับซับซ้อนแบบมหาอาณาจักรธรรมกายล่ะหรือ?

วัดที่ไม่ดำเนินการแบบวัดจริงๆ ไม่ควรจะอ้างตัวเป็นวัดต่อไป

และวัดจริงๆ ที่ไม่มีพฤติกรรมแบนี้ ก็ไม่อะไรต้องเดือดร้อนเลย