“น่านน้ำ”...
เป็นอีกหนึ่ง “อธิปไตย” ที่ต้องพิทักษ์รักษา ซึ่งหน่วยงานหนึ่งที่ทำหน้าที่ปกป้อง “ความมั่นคง” ของรัฐตามเส้นทางลำน้ำทั้งในทะเล และแม่น้ำต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร คือ “กองบังคับการตำรวจน้ำ” (บก.รน.) ที่มีอำนาจจับกุมสิ่งผิดกฎหมายทุกอย่างที่อยู่ในเรือและรอบๆ ชายฝั่งน่านน้ำไทย, เฝ้าระวังการ “ค้ามนุษย์” หรือแม้กระทั่งร่วมมือกับทหารเรือต่อกรกับ “โจรสลัด” ปล้นเรือสินค้า เป็นต้น
ปัจจุบัน บก.รน. มีทั้งสิ้น 12 กองกำกับการ 39 สถานีตำรวจน้ำ โดย กองกำกับการ 12 (กก.12)ถือเป็น “น้องใหม่” ที่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2558 มีพื้นที่ดูแลรับผิดชอบเส้นทางลำน้ำใน จ.เชียงราย ซึ่งนายตำรวจที่ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามา “ขับเคลื่อน-วางรากฐาน” ให้กับ กก.12 บก.รน. คือ...
พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร...
ผกก.12 บก.รน. “คนแรก” ผู้นี้ เป็นชาวกรุงเทพฯ จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 39 (นรต.39)เริ่มต้นชีวิต “บนถนนสีกากี” ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ในตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน ก่อนจะเติบโตในสาย “สอบสวน” เรื่อยมา และส่วนใหญ่จะอยู่ใน “ภาคเหนือ”กระทั่งปี 2546 จึงย้าย “ข้ามห้วย” มาสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยเริ่มต้นงานที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (บก.สศก.) หรือปัจจุบันคือกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) ในตำแหน่งพนักงานสอบสวน (สบ 3) คุมงานภาษีอากร กระทั่งปี 2552 โยกย้ายมาอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ
“ช่วงที่ได้มาอยู่ บก.ป. มีโอกาสร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนในคดีความมั่นคงสำคัญๆหลายคดี เช่น คดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง หรือจะเป็นคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกหลายคดีที่ได้รับผิดชอบทำสำนวนคดี ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ใช้ความสามารถในงานที่ถนัดเพราะผมโตจากหน้างานสอบสวนมาตลอด”
หลังจากนั้น “พ.ต.อ.สมเกียรติ” สมัครใจไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 2 ปี จนเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2558 จึงได้ขึ้นเป็น “ผกก.12 บก.รน.” คนแรก รับผิดชอบปกป้องลำน้ำสำคัญ คือ “ลำน้ำโขง” และลำน้ำสาย บริเวณ “สามเหลี่ยมทองคำ” จ.เชียงราย ซึ่งเขาบอกว่าแม้เป็นงานใหม่ที่ “ท้าทาย” แต่ไม่กดดัน เพราะทำงาน “เต็มที่ จริงจัง” ที่สำคัญ คือ ยึดหลัก “ถูกต้อง-รอบคอบ” แล้วงานทุกอย่างจะดีเอง
สำหรับ “แผนงาน” ดูแลพื้นที่นั้น “พ.ต.อ.สมเกียรติ” บอกว่า พื้นที่ดังกล่าวต้องรองรับการค้าระหว่าง “ไทย-จีน” และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ในอนาคตการขนส่งสินค้าจะมากขึ้น มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับความเจริญก้าวหน้าด้านต่างๆ จึงต้องปรับการทำงานของ “กก.12 บก.รน.” โดยเฉพาะการประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ “อำนวยความสะดวก” ด้านการค้า ขณะที่ “อาชญากรรม” รูปแบบต่างๆ คงมีมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงยาเสพติดของ “แก๊งยานรก”ซึ่ง กก.12 บก.รน. ได้ตรวจตรา “เฝ้าระวัง” อย่างเข้มงวด
“ขณะนี้ได้ออกระเบียบห้ามเดินเรือทุกประเภทข้ามฝั่งลำน้ำโขงในห้วงเวลา 20.00 น.-06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เนื่องจากปัญหาที่พบนอกจากเรื่องยาเสพติดแล้ว ยังมีเรื่องการลักลอบเข้าเมือง เป็นต้น ซึ่งได้บูรณาการการทำงานร่วมกันหลายฝ่าย จัดกำลังเฝ้าระวังอาชญากรรมทุกรูปแบบเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติไม่ให้ใครรุกล้ำน่านน้ำเข้ามาได้”
พ.ต.อ.สมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อมีโอกาสตนจะ “ถ่ายทอด” วิชาความรู้ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะได้ “สร้างคน” ให้ทำงานได้ถูกต้องนอกจากนี้ เราต้องดูแลทุกข์สุขของเขา เพราะเป็น “มือไม้” ทำงานให้เรา ถ้าเขาอยู่ดีก็จะทำหน้าที่ได้ดี ประโยชน์ก็ไปตกที่พี่น้องประชาชน และนั่นจะทำให้ กก.12 บก.รน. เดินไปถึง “จุดหมาย” ของคำว่า...
“พิทักษ์ประชาดุจครอบครัว...
...ปกป้องความมั่นคงทางน้ำทั่วหล้า”
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี