“ต่อ” กับ “แตน” เป็นแมลงที่ “ดุ” กว่าใคร เป็น “เล็กพริกขี้หนู” ที่เผ็ดกว่าแมลงทั้งหลายจนชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้า “แหย่รังแตน” และไม่กล้า “แหย่รังต่อ” ให้เสี่ยงภัยเล่น

เหตุที่ “ไม่กล้าแหย่” เพราะปู่ย่าตายายและมนุษย์พ่อมนุษย์แม่ทั้งหลายสอนไว้ว่า “แตนนั้นต่อยถึงป่วย ส่วนต่อนั้นไซร้ต่อยถึงตาย เชียวนะไอ้หนู”

ถ้าวัดความดุดันในการเล่นงานผู้มาตอแยของแมลงทั้งสองชนิด คงต้องระบุว่า “แหย่รังแตน”เป็นเรื่องจิ๊บๆ แต่ถ้า “แหย่รังต่อ” เมื่อใด ต่อให้กระโดดลงน้ำดำหนีภัย ต่อร้ายทั้งหลายก็ยังจะ“รุมต่อยน้ำ” อย่างกราดเกรี้ยว

กรณี “ดีเอสไอและตำรวจ” ยกโขยงบุก “สำนักจานบิน” เพื่อรวบตัว “อีทีขาบวม” มาดำเนินคดีฟอกเงิน รับของโจรและบุกรุกป่าสงวนนั้น คงระบุได้ชัดๆ ว่า “เป็นแค่แหย่รังแตน” โดยเหล่าสาวกซึ่งเป็นฝูงแตนต่างดาหน้าออกมาต่อต้าน

กรณีสนช.กำลังจะผ่าน “พ.ร.บ.คอมพ์” ที่มีบทควบคุมเข้มข้นและบทลงโทษดุดัน เพื่อป้องกันและสกัด “โจรไซเบอร์” ไม่ให้ก่ออาชญากรรมผ่านจอ ก็เหมือนกับสนช.ถือไม้หน้าสาม “ไปแหย่รังแตน” อย่างใจกล้า ทำให้ชาวเนตนับแสนหรือแตนฝูงใหญ่ ออกมาไล่ต่อยสนช.อย่างหงุดหงิด ยังไม่ถึงขั้นเป็นการ “แหย่รังต่อ”

กรณี “21 พระฤๅษีแห่งกรธ.” ร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ถูกนักการเมืองทั้งหลายให้ฉายาว่า “ลูกโหดกว่าแม่” โดยมีบทลงโทษนักการเมืองที่ทำผิดถึง “ตายหรือเดี้ยง” นั้น ก็เหมือนไป“แหย่รังแตน” จนแตนนักการเมืองทั้งหลายต่างดาหน้าออกมาเล่นงาน “21 พระฤๅษี”

รายการนี้คงจะไปเรียกเป็น “แหย่รังต่อ”ไม่ได้

แต่ถ้าจู่ๆ ใครที่ “โง่เง่าเบาเต็ง” ไปท้าทายอำนาจรัฐแบบ “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” อันนี้ระบุได้ชัดๆ ว่า “ไปแหย่รังต่อ”

ยังไงๆ อย่าลืมคำโบราณ “แหย่รังแตนต่อยถึงป่วยแต่แหย่รังต่อนั้นไซร้ต่อยถึงตาย”นะโยม

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม