รักประชาชีให้บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด

เรียน คุณวิภาวดีฯที่นับถือ

รักวัวให้ผูก–รักลูกให้ตี–รักประชาชีให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

สุภาษิตโบราณนี้อาจดูเหมือนตกรุ่น เพราะวันนี้คนไทยตามใจลูก เอาชื่อลูกมาตั้งชื่อบ้านชื่อรถ รัฐบาลตามใจประชาชนด้วยประชานิยมจนสังคมวิปริต อาเพศทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง เพราะขยะเต็มแม่น้ำลำคลอง ด้วยคนไทยไร้วินัยทิ้งขยะไม่เป็นที่ ดังนั้นถึงเวลาจำเป็นต้องปฏิรูปประเทศและประชาชนจริงจัง ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ก่อนที่จะพัฒนาจิตวิญญาณด้วยระบบการศึกษาที่มุ่งสอนให้เป็นคนมีวินัย รักชาติ เคารพกฎหมาย ไม่ประพฤติชั่ว เห็นแก่ได้ ไม่ใช่เป็นการศึกษาเพื่อขายวุฒิเท่านั้น

วันนี้ สังคมไทยเปลี่ยนจากระบบครอบครัวใหญ่เป็นครอบครัวเล็ก ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดที่เคยมีอำนาจมากที่สุด กลายเป็น
ผู้ด้อยอาวุโสที่สุดมีอำนาจ เพราะเมื่อครอบครัวเล็กลงแหลือพ่อแม่ลูกเท่านั้น ธรรมชาติของคนจำเป็นต้องรักษาเผ่าพันธุ์ ทำให้พ่อแม่รักลูกดั่งแก้วตา แต่เป็นการรักลูกผิดทาง ยิ่งกว่าสอนลูกให้เป็นโจร เที่ยวหยิบกินขนมห้างสรรพสินค้าตามใจชอบ พ่อแม่ที่ดีหน่อยก็จ่ายเงิน แต่ที่แย่ก็เบี้ยวไม่จ่ายเงิน การกระทำเช่นนี้เท่ากับสอนลูกให้เป็นโจรและไม่เคารพกฎหมาย เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน การพาลูกเที่ยวห้างในวัยเด็กนั้น เป็นการสร้างนิสัยไม่รู้จักพอเพียง เพราะจะเห็นภาพเด็กร้องโยเยจะเอาของเล่น จะเอาขนมแพงเกินกำลังพ่อแม่ หรือไม่เหมาะสมกับเด็ก ให้เห็นเป็นประจำ

นอกจากนั้น การพาเด็กไปกดเงินตู้เอทีเอ็มเพื่อใช้สอย ทำให้เด็กคิดแต่ว่า ตู้เอทีเอ็มคือขุมทรัพย์ของพ่อแม่ อยากได้อะไร ก็ไปกดเงิน ไม่เห็นต้องทำงานให้เหนื่อยยาก พ่อแม่ที่มีเงินจ้างคนรับใช้ ทำทุกอย่างให้ลูก เท่ากับสอนลูกเป็นคนหยิบโย่ง ไม่ยอมเหนื่อยยาก เอาแต่ใจตัวเอง และถ้าใช้อำนาจเงินบังคับขู่เข็ญคนรับใช้ให้ลูกเห็น ทำให้ติดนิสัยการกดขี่ข่มเหง ใช้อำนาจติดตัวจนโต ถ้าฟองสบู่ของพ่อแม่ไม่แตก ลูกๆ อาจได้รับการศึกษาในโรงเรียนดีด้วยเงินแป๊ะเจี๊ยะที่ลูกๆ ก็ทราบ และเมื่อการศึกษาเป็นการค้า ขอให้มีเงินก็ได้ครองปริญญาตามต้องการ สามารถใช้ปริญญาที่ได้เพราะเงิน เข้าสู่ระบบราชการด้วยระบบอุปถัมภ์หรือเส้นสาย สร้างความเสียหาย
แก่ประเทศชาติเพราะเป็นทรัพยากรด้อยคุณภาพ ทั้งเห็นแก่ตัว ติดนิสัยเจ้าคนนายคน ชอบกดขี่ผู้อื่น ใช้เงินเป็นพาสปอร์ตทุกเรื่อง ติดนิสัยทุจริตคอร์รัปชั่นและใช้อำนาจเกินขอบเขตตั้งแต่เด็ก เมื่อมีอำนาจก็ยิ่งใช้นิสัยเลวๆ มากยิ่งขึ้น นี่คือสาเหตุที่จำเป็นจะต้องปฏิรูปประเทศและประชาชน

ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ ประจานประเทศและประชาชนไทย ไม่มีใครสามารถชี้ว่าการกระทำนั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเห็นคนทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง ก็ไม่สามารถตำหนิหรือบอกกล่าวให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะจะถูกตอบกลับว่า “ธุระไม่ใช่” ไม่ใช่กงการอะไรของมรึง อย่าทำตัวเป็นเสือใส่เกือก ดังนั้นขยะจึงเต็มแม่น้ำลำคลอง ส่งผลให้น้ำท่วม เดือดร้อนกันทุกคน แต่คนไทยจะกล่าวโทษแต่ “ผู้ว่า” ไม่ยอมรับเป็นความผิดของตัว เช่นเดียวกับรถติดเพราะแย่งเลนแซงซ้ายขวาไปรอที่คอขวด เมื่อรถติดก็ด่าแต่จราจรว่าเป่านกหวีดไม่เป็น

ผมอยากยกกรณี “ฉี่ในลิฟต์” ของคนสิงคโปร์ที่ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว เพราะรัฐบาลสิงคโปร์เอาจริงเอาจังกับพฤติกรรมนี้ ด้วยการ
ปรับและจำคุกอย่างรุนแรง การบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดของสิงคโปร์ ทำให้บ้านเมืองสะอาดไม่มีขยะไม่มีเสมหะบนถนน ดังนั้นถ้าประเทศไทยต้องการปฏิรูปคนไทยอย่างจริงจังก็ต้องใช้ “สิงคโปร์โมเดล” มิใช่ปล่อยให้คนไทยมีจิตสำนึกเอง โดยไม่บังคับใช้กฎหมายเหมือนเช่นที่คุณสมชายแถลงในที่ประชุมการปฏิรูปฯ เพราะทำอะไรตามใจคือไทยแท้ ทำให้คนไทยเสมือน “ปูในกระด้ง” ไร้ระเบียบวินัย กฎหมายก็เป็นกฎหมัน ทำไมไทยไม่สามารถปราบปรามคนไร้วินัย เพราะคนไทยก็เป็น “เวไนยสัตว์” เช่นเดียวกับคนสิงคโปร์ เพียงแต่ประเทศไทยไม่บังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัดเท่านั้น เพราะมีอิทธิพลเหนือกฎหมายทำให้กฎหมายเป็นสองมาตรฐานหรือ “คุกมีไว้ขังคนจน” เท่านั้น

ดังนั้นการปฏิรูปประเทศไทยจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด กำจัดสองมาตรฐานให้สิ้นแผ่นดินไทย จึงต้องนำสุภาษิต “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” มาปฏิบัติอย่างจริงจัง ถ้าลูกประพฤติผิดไม่เชื่อฟัง เช่น ห้ามหยิบขนมในห้างมากินก่อนชำระเงิน ถ้าเห็นยังแอบขโมยหยิบขนมกิน ต้องทำโทษอาจไม่ใช้ไม้เรียว แต่ลงโทษ เช่น ยึดสมาร์ทโฟน ห้ามดูโทรทัศน์ กักบริเวณ ตัดค่าขนมถ้าพ่อทุกคนทำได้เช่นนี้ ก็จะไม่มีโจรในวันหน้า

ประเทศไทยวันนี้ไร้ระเบียบวินัย ไม่เคารพกฎหมาย เห็นแก่ตัว ไม่รักชาติ ไม่เสียสละ สนใจแต่ผลประโยชน์ส่วนตน ตั้งแต่เรื่องเล็กๆเช่น วินัยจราจร ที่ไม่กลัวทำผิดกฎจราจร แต่กลัวจราจรเพราะต้องเสียเงิน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเพราะไร้วินัยจราจร เรื่องชั่วเรื่องเลวร้ายในสังคมไทยมีให้เห็นรายวัน ขโมยเหล้าวันเข้าพรรษาที่ห้างดอกบัวเมืองดอกบัว หรือฆ่ายกครัวที่เมืองลิง หรือนายพลถูก “แชร์เห็ดหลินจือ” หลอก แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่ารอคนไทยปฏิรูปตัวเอง เช่น รอให้มีจิตสำนึกเลิกบุกรุกป่า เพราะจะไม่มีป่าเหลือให้ลูกหลานแน่นอน ดังนั้น ถ้าต้องการรักษาป่ารักษาธรรมชาติ ต้องบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ข่าววันนี้ “อ่าวพัทยา” มีแต่ขยะมูลฝอย น้ำเน่า เพราะแอบปล่อยน้ำเสียทิ้งทะเล เหมือนกรณีโรงงานแอบปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ เพราะต้องการประหยัดเงินค่าบำบัด เป็นการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทำให้ส่วนรวมเสียผลประโยชน์ จำเป็นต้องใช้กฎหมายจัดการให้เป็นเยี่ยงอย่าง นอกจากนั้นผู้นำต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง มิใช่ทำแบบใครๆ ก็ทำ เช่น กรณี Vice President เมืองมะกันที่เอามือไปจับชิ้นส่วนยานอวกาศที่มีป้ายห้ามจับ เพราะถูกท้า

นายติ๊งต่อง

ตอบ นายติ๊งต่อง

ที่จริงประเทศที่เจริญทางจิตใจแล้ว เรื่อง “กฎหมาย” ถือว่า ไม่ค่อยจำเป็นมากนัก เพราะทุกคนมีจิตสำนึก ทำให้ดูแลกันได้โดยที่ใช้กฎหมายน้อยที่สุด สำหรับประเทศที่ต้องใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เข้มงวดสุดๆ ก็แสดงให้เห็นว่า เป็นเพราะจิตสำนึกของคนในบ้านเมืองนั้น มีปัญหามากๆ ดูแล้วประเทศไทยเราก็คงเข้าข่ายนี้ ถึงต้องยึดภาษิต รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี รักประชาชีต้องบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดอย่างที่คุณว่ามา

วิภาวดี หลักสี่

ดูสามก๊กยุคดิจิตอล ขอ 3 คำ

เรียน ท่านหัวหน้เกองบรรณาธิการ

“ดูสามก๊กยุคดิจิตอล แล้วขอ...(แค่ 3 คำ)”

(ภาคแรก)

สักวา สามก๊กดูเพื่อชาติ

งามองอาจมาด“กวนอู”ผู้ซื่อสัตย์....(ข้าน้อยยอม)

งามบุ่มบ่ามนาม“เตียวหุย”ลุยถนัด...(ข้าน้อยกลัว)

งามสงัดเงียบ“เล่าปี่”พี่ใหญ่เรา...(ข้าน้อยเกรง)

งามเพลงยุทธ์ฉุด“ลิโป้”โอ่ลำพอง...(ข้าน้อยมอง)

งามชายมอง“ซ้อเตียวเสียน”พักตร์พริ้มเพรา...(ข้าน้อยปลง)

งามไพร่พล“เฮียอ้วนเสี้ยว”ใจบางเบา....(ข้าน้อยขำ)

งามอับเฉา“เสี่ยโจโฉ”ใฝ่สูงเอย...(ข้าน้อยเอือม)

จาก นายพราวเดช คำวงษ์

ปฏิรูปจิตใจไทย

เรียน บก.แนวหน้าที่นับถือ

ปฏิรูปจิตใจไทย

สัตว์นรกมาเกิดหรือไฉน ไยทำได้เหี้ยมโหดอำมหิต

แปดศพทั้ง“เด็กเล็ก” จบชีวิต ถูกปลงปลิด“ยกครัว”ด้วยกระสุน

ขัดผลประโยชน์นี่หรือคือสาเหตุ ความทุเรศของจิตใจ...ให้ว้าวุ่น

สังคมไทยเสื่อมทรุดหมดต้นทุน ด้วยขาดดุลแห่งศีลธรรมประจำใจ

ปฏิรูปประเทศอย่างไรก็ทำเถิด แต่ให้เกิดการสรรสร้าง“คนพันธุ์ใหม่”

ที่งามล้ำคุณค่าสมเป็นไทย มีจิตใจไม่ชั่วร้าย....ได้โปรดเอย

สมัน เพื่อชาติ

wvvipawadee1@gmail.com