วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเดิม แม้จะยกเลิก-แก้ไขไปแล้ว

ดูทั้งหมด

  •  

ขณะที่ท่านกำลังถือ “นสพ.แนวหน้า” ฉบับนี้ คือวันที่ 12 เม.ย. 2568 ซึ่งเข้าสู่ช่วงหยุดยาว “เทศกาลสงกรานต์” แล้ว หลายคนคงกำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยว ซึ่ง “ที่นี่แนวหน้า” ก็ขออวยพรให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ ได้พักผ่อนเติมพลังในชีวิตก่อนกลับมาต่อสู้กันต่อไป

สำหรับคอลัมน์ประจำสัปดาห์นี้ ขอหยิบยกแง่มุมที่น่าสนใจจากการแถลงข่าวของ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2568 โดยเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมหญิง 9 ราย ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ในการทำบันทึกจับกุมพร้อมชำระค่าปรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุข้อหา “เตร็ดเตร่” โดยอ้างถึง ความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539  และลงโทษปรับเป็นเงินคนละ 50 บาท โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565


การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2567 อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีการร้องเรียนเข้ามายัง กสม. ให้ตรวจสอบ เนื่องจากผู้ร้องตั้งข้อสังเกตว่า 1.ข้อหาเตร็ดเตร่ไม่มีใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539  และ 2.การปรับเป็นพินัย สำหรับความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไม่ใช่ตำรวจ

จากการตรวจสอบของ กสม. เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การแจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งฐานความผิดตาม “มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539” ที่ระบุว่า  “ผู้ใดเข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอายหรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”

แต่ในใบเสร็จรับเงินค่าปรับ กลับระบุข้อหาเตร็ดเตร่ ซึ่งข้อหานี้อยู่ใน “มาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503” ที่ระบุว่า “เตร็ดเตร่หรือคอยอยู่ตามถนนหรือสาธารณสถานในลักษณะหรืออาการที่เห็นได้ว่า เป็นการเรียกร้องการติดต่อในการค้าประเวณี” ซึ่งในความเป็นจริง “พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 ถูกยกเลิกไปแล้ว” และแทนที่โดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539  ที่บังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน

2.ผู้มีอำนาจหน้าที่ ในเดือน ต.ค. 2565 ซึ่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ กำหนดให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 เป็นความผิดทางพินัย และไม่ถือว่าการปรับเป็นพินัยนั้นเป็นโทษทางอาญา และกำหนดให้รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ออกประกาศกำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีอำนาจปรับเป็นพินัย

และในเวลาต่อมา “กระทรวง พม. ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีอำนาจปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 บังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2566” และเพิ่มเติมฉบับที่ 2 บังคับใช้เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2567 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง พม. เป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยในความผิดทางพินัย”

ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและควบคุมตัวหญิงทั้ง 9 ราย ไปที่สถานีตำรวจ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา ทำประวัติอาชญากร และปรับผู้ถูกจับกุม เป็นการจับกุม ควบคุมตัว และปรับโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และการระบุข้อหาในใบเสร็จรับเงินค่าปรับว่าเตร็ดเตร่ฯ ยังเป็นการระบุข้อหาที่เป็นความผิดอาญาตามความในมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 ซึ่งถูกยกเลิกแล้ว จึงเป็นการระบุโทษที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิด เป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

จากกรณีที่เกิดขึ้น ทาง กสม. มีข้อเสนอแนะ “ให้กระทรวง พม. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมกันกำหนดแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 เกี่ยวกับขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง การรวบรวมพยานหลักฐาน และการแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย เมื่อพบผู้กระทำความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ ให้เหมาะสมกับการกระทำความผิด

รวมทั้งกำหนดแบบฟอร์มเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว และกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บไฟล์วิดีโอที่ได้จากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงสั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการตามแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด”           

อนึ่ง เคยมีกรณีคล้ายกันในการแถลงข่าวของ กสม. เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2567 ครั้งนั้นผู้ร้องระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีอำนาจจับกุมและเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 เนื่องจากในคำร้องระบุว่า การจับกุมเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. 2566 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่ 25 ต.ค. 2566 ที่กระทรวง พม. จะออกประกาศ เรื่อง กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีอำนาจปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาบังคับใช้

โดยในครั้งนั้น กสม. ได้เสนอแนะให้ ตร. กำหนดแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการและแสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อพบผู้กระทำความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ให้เหมาะสมกับการกระทำความผิด รวมถึงให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวง พม. ร่วมกับ ตร. จัดทำแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดตามมาตรา 5 เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน       

จากตัวอย่างข้างต้น ชี้ให้เห็นปัญหา “แม้กฎหมายจะมีการปรับเปลี่ยน แต่บางครั้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานอาจยังไม่ได้รับรู้อย่างทั่วถึง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปจากกรุงเทพฯ เมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองและการออกกฎหมายต่างๆ ทำให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปตามขั้นตอนของกฎหมายเดิมทั้งที่ถูกยกเลิกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบกับประชาชนในฐานะผู้ถูกบังคับใช้กฎหมายแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยที่อาจกลายเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง เพราะดำเนินการไปโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจหน้าที่ไว้!!!    

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:03 น. ‘สรวงศ์’เสียดาย‘สมพงษ์’ไขก๊อก‘เพื่อไทย’ คาดน้อยใจหลังโดน‘พรรคส้ม’’ชิงพื้นที่เชียงใหม่
14:58 น. ด่วน! คนร้ายบุกยิง'ปลัด อบต.เขาตูม'เสียชีวิต ขณะออกจากมัสยิด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
14:57 น. ไร่ละ 1.5 พันก็ไม่สน!เจ้าของรถเกี่ยวข้าวผวาระเบิดตกค้าง ปฏิเสธลงเกี่ยวข้าวในพื้นที่เสี่ยง
14:45 น. มวลความรัก ล้นอิมแพค! 'โด คยองซู'ระเบิดพลังเสียง โอบกอดทุกหัวใจ
14:44 น. เช็กเลย!!! กฟน. แจ้งดับไฟ 18 ต.ค.68 ใน'กทม.-สมุทรปราการ-นนทบุรี' กว่า 60 จุด
ดูทั้งหมด
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
บุกจับ'เสี่ยบอย'พร้อมเมีย! รองหัวหน้าพรรคการเมืองดังเปิดตลาดเถื่อน ทุบของหลวงสร้างพื้นที่
‘กรรชัย’เป็นดาราไม่ใช่สื่อ ‘ใบตองแห้ง’อัด‘สัญลักษณ์ยุคตกต่ำ’
จาก‘โรฮิงแยม’ถึง‘พี่อังคณา’ สะท้อนความเข้าใจ‘สิทธิมนุษยชน’
'สิทธิชัย สันติวิจิตร'จี้'ม.นครพนม'ทบทวนมอบปริญญากิตติมศักดิ์ 'ก้อง ห้วยไร่'
ดูทั้งหมด
รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’
บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?
กินแห้ว
ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม
บุคคลแนวหน้า : 17 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘สรวงศ์’เสียดาย‘สมพงษ์’ไขก๊อก‘เพื่อไทย’ คาดน้อยใจหลังโดน‘พรรคส้ม’’ชิงพื้นที่เชียงใหม่

ไร่ละ 1.5 พันก็ไม่สน!เจ้าของรถเกี่ยวข้าวผวาระเบิดตกค้าง ปฏิเสธลงเกี่ยวข้าวในพื้นที่เสี่ยง

เช็กเลย!!! กฟน. แจ้งดับไฟ 18 ต.ค.68 ใน'กทม.-สมุทรปราการ-นนทบุรี' กว่า 60 จุด

เพจขอโทษแล้ว! 'อั้ม พัชราภา'บอกสาเหตุที่ไม่อยากให้โพสต์รูปบ้านลงโซเชียล

หนี้เยอะ-ดอกเบี้ยบาน! 'นฤมล' เล็งปรับโครงสร้างหนี้องค์การค้าฯ

เด็กชายขายถั่ว ชักปืนปลอมขู่บังคับซื้อ ก่อนถูกตะเพิดวิ่งหนีออกจากร้าน

  • Breaking News
  • ‘สรวงศ์’เสียดาย‘สมพงษ์’ไขก๊อก‘เพื่อไทย’ คาดน้อยใจหลังโดน‘พรรคส้ม’’ชิงพื้นที่เชียงใหม่ ‘สรวงศ์’เสียดาย‘สมพงษ์’ไขก๊อก‘เพื่อไทย’ คาดน้อยใจหลังโดน‘พรรคส้ม’’ชิงพื้นที่เชียงใหม่
  • ด่วน! คนร้ายบุกยิง\'ปลัด อบต.เขาตูม\'เสียชีวิต ขณะออกจากมัสยิด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ด่วน! คนร้ายบุกยิง'ปลัด อบต.เขาตูม'เสียชีวิต ขณะออกจากมัสยิด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
  • ไร่ละ 1.5 พันก็ไม่สน!เจ้าของรถเกี่ยวข้าวผวาระเบิดตกค้าง ปฏิเสธลงเกี่ยวข้าวในพื้นที่เสี่ยง ไร่ละ 1.5 พันก็ไม่สน!เจ้าของรถเกี่ยวข้าวผวาระเบิดตกค้าง ปฏิเสธลงเกี่ยวข้าวในพื้นที่เสี่ยง
  • มวลความรัก ล้นอิมแพค! \'โด คยองซู\'ระเบิดพลังเสียง โอบกอดทุกหัวใจ มวลความรัก ล้นอิมแพค! 'โด คยองซู'ระเบิดพลังเสียง โอบกอดทุกหัวใจ
  • เช็กเลย!!! กฟน. แจ้งดับไฟ 18 ต.ค.68 ใน\'กทม.-สมุทรปราการ-นนทบุรี\' กว่า 60 จุด เช็กเลย!!! กฟน. แจ้งดับไฟ 18 ต.ค.68 ใน'กทม.-สมุทรปราการ-นนทบุรี' กว่า 60 จุด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

20 ก.ย. 2568

เฉลิมฉลอง 75 ปี ‘Snoopy’ ชมความน่ารักของ ‘เจ้าหมาน้อย’ ในงานนิทรรศการระดับโลก

เฉลิมฉลอง 75 ปี ‘Snoopy’ ชมความน่ารักของ ‘เจ้าหมาน้อย’ ในงานนิทรรศการระดับโลก

13 ก.ย. 2568

‘ILD 2568’ การส่งเสริมการรู้หนังสือในยุคดิจิทัล

‘ILD 2568’ การส่งเสริมการรู้หนังสือในยุคดิจิทัล

6 ก.ย. 2568

​ถ้าจะขับ…‘ห้ามดื่ม’ บทเรียนจากกรณี ‘มารี เบิร์นเนอร์’

​ถ้าจะขับ…‘ห้ามดื่ม’ บทเรียนจากกรณี ‘มารี เบิร์นเนอร์’

30 ส.ค. 2568

โชว์ความเป็นหนึ่ง ‘กุ้งก้ามกราม’ สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย

โชว์ความเป็นหนึ่ง ‘กุ้งก้ามกราม’ สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย

23 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved