วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเดิม แม้จะยกเลิก-แก้ไขไปแล้ว

ดูทั้งหมด

  •  

ขณะที่ท่านกำลังถือ “นสพ.แนวหน้า” ฉบับนี้ คือวันที่ 12 เม.ย. 2568 ซึ่งเข้าสู่ช่วงหยุดยาว “เทศกาลสงกรานต์” แล้ว หลายคนคงกำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปท่องเที่ยว ซึ่ง “ที่นี่แนวหน้า” ก็ขออวยพรให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ ได้พักผ่อนเติมพลังในชีวิตก่อนกลับมาต่อสู้กันต่อไป

สำหรับคอลัมน์ประจำสัปดาห์นี้ ขอหยิบยกแง่มุมที่น่าสนใจจากการแถลงข่าวของ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2568 โดยเป็นกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมหญิง 9 ราย ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ในการทำบันทึกจับกุมพร้อมชำระค่าปรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุข้อหา “เตร็ดเตร่” โดยอ้างถึง ความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539  และลงโทษปรับเป็นเงินคนละ 50 บาท โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565


การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2567 อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีการร้องเรียนเข้ามายัง กสม. ให้ตรวจสอบ เนื่องจากผู้ร้องตั้งข้อสังเกตว่า 1.ข้อหาเตร็ดเตร่ไม่มีใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539  และ 2.การปรับเป็นพินัย สำหรับความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ไม่ใช่ตำรวจ

จากการตรวจสอบของ กสม. เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การแจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งฐานความผิดตาม “มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539” ที่ระบุว่า  “ผู้ใดเข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใด เพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอายหรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”

แต่ในใบเสร็จรับเงินค่าปรับ กลับระบุข้อหาเตร็ดเตร่ ซึ่งข้อหานี้อยู่ใน “มาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503” ที่ระบุว่า “เตร็ดเตร่หรือคอยอยู่ตามถนนหรือสาธารณสถานในลักษณะหรืออาการที่เห็นได้ว่า เป็นการเรียกร้องการติดต่อในการค้าประเวณี” ซึ่งในความเป็นจริง “พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 ถูกยกเลิกไปแล้ว” และแทนที่โดย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539  ที่บังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน

2.ผู้มีอำนาจหน้าที่ ในเดือน ต.ค. 2565 ซึ่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ กำหนดให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 เป็นความผิดทางพินัย และไม่ถือว่าการปรับเป็นพินัยนั้นเป็นโทษทางอาญา และกำหนดให้รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้น ออกประกาศกำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีอำนาจปรับเป็นพินัย

และในเวลาต่อมา “กระทรวง พม. ได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีอำนาจปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 บังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2566” และเพิ่มเติมฉบับที่ 2 บังคับใช้เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2567 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง พม. เป็นผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัยในความผิดทางพินัย”

ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและควบคุมตัวหญิงทั้ง 9 ราย ไปที่สถานีตำรวจ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา ทำประวัติอาชญากร และปรับผู้ถูกจับกุม เป็นการจับกุม ควบคุมตัว และปรับโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และการระบุข้อหาในใบเสร็จรับเงินค่าปรับว่าเตร็ดเตร่ฯ ยังเป็นการระบุข้อหาที่เป็นความผิดอาญาตามความในมาตรา 5 (2) แห่ง พ.ร.บ.ปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2503 ซึ่งถูกยกเลิกแล้ว จึงเป็นการระบุโทษที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิด เป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

จากกรณีที่เกิดขึ้น ทาง กสม. มีข้อเสนอแนะ “ให้กระทรวง พม. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร่วมกันกำหนดแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 เกี่ยวกับขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง การรวบรวมพยานหลักฐาน และการแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย เมื่อพบผู้กระทำความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีฯ ให้เหมาะสมกับการกระทำความผิด

รวมทั้งกำหนดแบบฟอร์มเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว และกำหนดระยะเวลาการจัดเก็บไฟล์วิดีโอที่ได้จากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงสั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการตามแนวปฏิบัติอย่างเคร่งครัด”           

อนึ่ง เคยมีกรณีคล้ายกันในการแถลงข่าวของ กสม. เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2567 ครั้งนั้นผู้ร้องระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีอำนาจจับกุมและเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 เนื่องจากในคำร้องระบุว่า การจับกุมเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ย. – ต.ค. 2566 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่ 25 ต.ค. 2566 ที่กระทรวง พม. จะออกประกาศ เรื่อง กำหนดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีอำนาจปรับเป็นพินัยตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาบังคับใช้

โดยในครั้งนั้น กสม. ได้เสนอแนะให้ ตร. กำหนดแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการและแสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อพบผู้กระทำความผิดตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ให้เหมาะสมกับการกระทำความผิด รวมถึงให้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวง พม. ร่วมกับ ตร. จัดทำแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะการกระทำที่เป็นความผิดตามมาตรา 5 เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน       

จากตัวอย่างข้างต้น ชี้ให้เห็นปัญหา “แม้กฎหมายจะมีการปรับเปลี่ยน แต่บางครั้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานอาจยังไม่ได้รับรู้อย่างทั่วถึง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปจากกรุงเทพฯ เมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองและการออกกฎหมายต่างๆ ทำให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ไปตามขั้นตอนของกฎหมายเดิมทั้งที่ถูกยกเลิกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบกับประชาชนในฐานะผู้ถูกบังคับใช้กฎหมายแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วยที่อาจกลายเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง เพราะดำเนินการไปโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจหน้าที่ไว้!!!    

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:35 น. หวิดอุบัติเหตุ! มักง่ายหรืองงอะไร ‘กระบะย้อนศรไม่สนโลก’ กล้องหน้ารถจับภาพได้
18:25 น. 'เต๋อ'เปิดเส้นทางรัก'ใหม่ ดาวิกา' เผยเกือบเลิกกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง
18:13 น. 'ไทกร'เปิดลับ 3 กลุ่ม โผล่บงการ'ทักษิณ'หนีนอกประเทศ ปูแผน'ลูก'ยุบสภา?
18:11 น. หนุ่มใหญ่เครียด! ‘ป่วยซึมเศร้า’ หายออกจากบ้าน-ตัดสินใจจบชีวิตในสวนสัก
18:07 น. 'อแมนด้า'ปล่อยทีเด็ด อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต
ดูทั้งหมด
‘อุ๊งอิ๊งค์-ทวี สอดส่อง’ก็อาจไม่รอดคดี‘ป่วยทิพย์’
แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
เหนือความอาลัยใด ณ ลำปาง บ้านเกิด ส่งพี่ชายสู่สรวงสวรรค์
คุกนรก (3)
รบจริง ไม่เหมือนในหนังฮอลลีวู้ด
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เต๋อ'เปิดเส้นทางรัก'ใหม่ ดาวิกา' เผยเกือบเลิกกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง

'อแมนด้า'ปล่อยทีเด็ด อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี

‘หญ้าหวาน’พืชนี้มีประโยชน์..และ‘คนกินได้’

(คลิป) 'มัลลิกา' เตือน! 'อุ๊งอิ๊งค์' ระวังคุก! เธอมีหลายคดีมากนะหล่อน

'เจิมศักดิ์'แนะยกเลิกฟรีวีซ่า ให้แต่เฉพาะ'คนจีนสีขาว'เข้าไทย

(คลิป) จับตา! 'ภูมิใจไทย' โหวตคว่ำร่าง'พรบ.งบประมาณ' 'แพทองธาร' ลาออกหรือยุบสภา

  • Breaking News
  • หวิดอุบัติเหตุ! มักง่ายหรืองงอะไร ‘กระบะย้อนศรไม่สนโลก’ กล้องหน้ารถจับภาพได้ หวิดอุบัติเหตุ! มักง่ายหรืองงอะไร ‘กระบะย้อนศรไม่สนโลก’ กล้องหน้ารถจับภาพได้
  • \'เต๋อ\'เปิดเส้นทางรัก\'ใหม่ ดาวิกา\' เผยเกือบเลิกกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง 'เต๋อ'เปิดเส้นทางรัก'ใหม่ ดาวิกา' เผยเกือบเลิกกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง
  • \'ไทกร\'เปิดลับ 3 กลุ่ม โผล่บงการ\'ทักษิณ\'หนีนอกประเทศ ปูแผน\'ลูก\'ยุบสภา? 'ไทกร'เปิดลับ 3 กลุ่ม โผล่บงการ'ทักษิณ'หนีนอกประเทศ ปูแผน'ลูก'ยุบสภา?
  • หนุ่มใหญ่เครียด! ‘ป่วยซึมเศร้า’ หายออกจากบ้าน-ตัดสินใจจบชีวิตในสวนสัก หนุ่มใหญ่เครียด! ‘ป่วยซึมเศร้า’ หายออกจากบ้าน-ตัดสินใจจบชีวิตในสวนสัก
  • \'อแมนด้า\'ปล่อยทีเด็ด อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี 'อแมนด้า'ปล่อยทีเด็ด อวดหุ่นแซ่บในชุดบิกินี
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เสริมศักยภาพวัยเก๋า ปรับตัวรับยุคดิจิทัล

เสริมศักยภาพวัยเก๋า ปรับตัวรับยุคดิจิทัล

10 พ.ค. 2568

‘สวนสัตว์มนุษย์’ บาดแผลยุคอาณานิคม

‘สวนสัตว์มนุษย์’ บาดแผลยุคอาณานิคม

3 พ.ค. 2568

สร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

สร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

26 เม.ย. 2568

ประชากรโลก2พันล้านคน ยังเข้าไม่ถึงสวัสดิการสังคม

ประชากรโลก2พันล้านคน ยังเข้าไม่ถึงสวัสดิการสังคม

19 เม.ย. 2568

เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเดิม แม้จะยกเลิก-แก้ไขไปแล้ว

เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายเดิม แม้จะยกเลิก-แก้ไขไปแล้ว

12 เม.ย. 2568

ระวัง‘ปาร์ตี้โฟม-ไฟรั่ว’ ภัยอันตรายช่วงสงกรานต์

ระวัง‘ปาร์ตี้โฟม-ไฟรั่ว’ ภัยอันตรายช่วงสงกรานต์

5 เม.ย. 2568

‘ทุนโต-เทคโนโลยีก้าวไปไว’  แต่‘กลไกกำกับดูแล’ตามไม่ทัน

‘ทุนโต-เทคโนโลยีก้าวไปไว’ แต่‘กลไกกำกับดูแล’ตามไม่ทัน

29 มี.ค. 2568

สังคมไทยเริ่มตื่นตัว  สิทธิ‘ผู้ต้องหา-นักโทษ’

สังคมไทยเริ่มตื่นตัว สิทธิ‘ผู้ต้องหา-นักโทษ’

22 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved