ปกติไส้เดือนส่วนใหญ่จะไม่ดิ้นง่ายๆ เหมือนกิ้งกือทั้งหลายแต่ถ้าใครอุตรินำขี้เถ้าร้อนๆ ไปราดคลุกกับไส้เดือนเมื่อใด ไส้เดือนทั้งหลายก็จะดิ้นหนีตายเป็นจังหวะอะโกโก้เมื่อนั้น

หากจะเปรียบเทียบ “พ.ร.ป.วิอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ที่เพิ่งผ่านสนช.ไปหมาดๆ และจะมีผลบังคับใช้เมื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษานั้น เป็น “ขี้เถ้าร้อนๆ จากเตาไฟสนช.” โดยมี “ตะขิ่นดูไบ” และสาวกทั้งหลายเป็น “ไส้เดือน”

บัดนี้ ได้เกิด “มหกรรมดนตรี” ว่าด้วย “ไส้เดือนดิ้นอย่างสุดมัน” จนทำให้มหกรรมดนตรีดังกล่าว “มีเรตติ้งพุ่งแรงจนปรอทแตก”

เหตุที่ทำให้เกิด “มหกรรมดนตรี ไส้เดือนดิ้น” เพราะพ.ร.ป.ยอดซีม่าดังกล่าว เป็นกฎหมายที่ออกใบอนุญาตให้ “ลี้คิมฮวงถือมีดสั้นเชือดลับหลังกังฉิน” หากกฎหมายมีผลใช้บังคับเมื่อใด จะทำให้ “ตะขิ่นดูไบ” ได้รับผลกระทบอย่างแรงเมื่อนั้น โดย “เล่าฮู” จะถูกสาปให้กลายเป็น “นักวิทยาศาสตร์ ผู้ขยันเดินทางสำราวจโลก” 
ไปจนแก่จนเฒ่าอย่างถาวร

ดังนั้น “นักเต้นอะโกโก้” ทั้งหลาย ซึ่งล้วนเป็นสาวกของนายใหญ่ระดับ “อัศวินป้ายทอง” ที่เห็นว่ากฎหมายดังกล่าว คือ “พ.ร.ป.จองเวร” และเป็น “สะพานไล่ล่าแม่มด” จึงรวมตัวกันออกมาต่อต้าน “เกมมีดสั้นเชือดลับหลัง” อย่างเข้มข้น

งานนี้ สาวกนายใหญ่ระดับ “สมิงนครอินทร์” ที่เคยแต่ใช้พละกำลังแต่ไม่ใช้สมอง “ถือดาบสองมือตะลุยฟันเพื่อนาย” มายาวนาน “ต้องหลีกทาง” ให้แก่ “รุ่นใหญ่ป้ายทอง” ออกมาแสดงบทบาทแทน

“อัศวินป้ายทอง” ของนายใหญ่จะมีใครบ้างคงไม่ขอเอ่ยนาม เพราะได้กลายเป็นข่าวในสื่อทุกแขนงไปแล้ว โดยต่างเป็น “ไส้เดือนถูกขี้เถ้าร้อนๆ” จึงออกมาดิ้นและโวยวายว่า “นี่คือกฎหมายล้างแค้นและสะพานไล่ล่าแม่มด” ขอให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบัน รีบยกเลิกโดยไว พร้อมกับขู่ “จะฟ้องโลกทั้งใบให้ออกมาร่วมต่อต้าน”

มีผู้ฟันธงว่า “ไส้เดือนออกมาดิ้นจังหวะอะโกโก้” ครั้งนี้คงจะไม่ช่วยให้นายใหญ่พ้นกรรมได้แน่นอน 

เยาวลักษณ์  ตั้งธรรมนิยม