จากเหตุการณ์ในอดีตพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าคนในตระกูลชินจะไม่มีวันยอมติดคุกโดยเมื่อจวนตัวเห็นท่าว่าใช้ถุงขนมใส่เงินวิ่งเต้นล้มคดีไม่ได้แน่ก็จะเผ่นหนีเอาตัวรอดออกนอกประเทศไปเสพสุขอยู่ในต่างแดน แล้วหาข้ออ้างสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือกล่าวหากระบวนการยุติธรรมว่าสองมาตรฐาน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด จำเลยคนสำคัญที่เผ่นหนีไม่ยอมรับฟังคำพิพากษาศาลในคดีโครงการรับจำนำข้าวป่านนี้อาจเสพสุขอย่างสบายที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

คนของระบอบแม้วนั้นมักใช้ข้ออ้างเรื่องสองมาตรฐานเป็นเครื่องมือบิดเบือนบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรมเพื่อเอาตัวรอดอำพรางความ
เลวร้ายของตัวเองจนเคยชินโดยยึดหลักกูเป็นใหญ่ หากกระบวนการยุติธรรมตัดสินไม่เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการก็โจมตีหาว่าสองมาตรฐาน แต่หากตัดสินถูกใจถึงยอมรับชื่นชมว่าถูกต้องยุติธรรม

ที่ผ่านมาหลายต่อหลายกรณีซึ่งกระบวนการยุติธรรมตัดสินเป็นคุณต่อคนของระบอบแม้วโดยเฉพาะคนตระกูลชิน อาทิ เมื่อเดือนที่แล้วศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็เพิ่งพิพากษายกฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นเขยตระกูลชินกับพวกในคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งแม้แต่ นายสมชาย ยังกล่าวภายหลังศาลมีคำพิพากษาว่า ขอขอบคุณที่ศาลพึ่งพาได้ในความยุติธรรม

อีกตัวอย่างล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีความผิดกรณีปล่อยให้เกิดมหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2554 เพราะฉะนั้นขบวนการระบอบแม้วโดยเฉพาะคนตระกูลชินหมดข้ออ้างเรื่องสองมาตรฐานอีกต่อไป

พูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังมีคดีเป็นชนักปักหลังอีกหลายคดีนอกจากคดีโครงการรับจำนำข้าวที่รอป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ไม่ว่าจะเป็นคดีที่คณะรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์อนุมัติงบเยียวยาเอาใจคนเสื้อแดงที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองเป็นเงินเกือบ 2,000 ล้านบาท โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งคดีนี้คณะรัฐมนตรีรัฐบาลยิ่งลักษณ์ถูกฟ้องดำเนินคดียกชุด 34 คน การออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศอย่างยั่งยืนโดยมิชอบ การเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ให้กระทรวงการคลังกู้เงินมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ทั้งๆ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ การโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อประโยชน์แก่พวกพ้อง การไม่ยับยั้งการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงโดยมิชอบกรณีการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลประจำปี 2555 การไม่ดำเนินการเอาผิด นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย กรณีปราศรัยยุยงปลุกปั่นข่มขู่และให้ใช้ความรุนแรงกับพลังประชาชน การให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ตัวเองและรัฐมนตรีในจังหวัดต่างๆ การเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในความคิดเห็นทางการเมืองและออกประกาศพื้นที่ที่กระทบความมั่นคงโดยมิชอบในช่วงการชุมนุมของมวลมหาประชาชน กปปส. เช่นเดียวกัน นายทักษิณ ที่มีคดีทุจริตสาหัสสากรรจ์หลักฐานชัดแจ้งเป็นชนักปักหลังอีกจำนวนมากเช่นกัน

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ออกมาส่งสัญญาณว่าป.ป.ช.กำลังเร่งพิจารณาคดีสำคัญๆ ค้างเก่าให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยภายในเดือนนี้จะมีการชี้คดีใหญ่บางคดี เพราะฉะนั้นคงต้องรอลุ้นระทึกโดยคาดว่าน่าจะเป็นคดีใหญ่ที่ชี้ชะตาน.ส.ยิ่งลักษณ์

แต่ที่ต้องลุ้นก็คือล่าสุด พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ปปง.ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินกรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ถูกกล่าวหาว่าพัวพันคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครแล้วพบว่ามีหลักฐานชัดเจนในการดำเนินคดีและได้ส่งผลการตรวจสอบไปยังพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อดำเนินคดีกับ นายพานทองแท้ แล้ว

เพราะฉะนั้นด้วยคดีจำนวนมากซึ่งเป็นชนักปักหลังเหมือนกรรมทยอยตามเช็คบิลคนตระกูลชินทำให้ต้องจับตาเพราะคาดว่า ในกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงไม่กลับมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเลื่อนจากวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันที่ 27 ก.ย.นี้ เพราะแม้จะรอดจากคดีโครงการรับจำนำข้าวแต่ก็คงไม่รอดจากคดีชนักปักหลังอื่นๆ อีกกว่า 10 คดี เช่นเดียวกับนายพานทองแท้ที่คาดว่าถึงที่สุดคงเผ่นหนีไปเสพสุขอยู่กับผู้เป็นพ่อในต่างแดนก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา เพราะเชื่อว่าคนตระกูลชินพร้อมจะทำทุกอย่างโดยไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว

ทีมข่าวการเมือง