มองดูบ้านเมืองขณะนี้แล้วยังเห็นว่า การบริหารจัดการกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งที่เกิดมาก่อนและเกิดในปัจจุบัน ยังไม่สามารถดำเนินการให้มีประสิทธิภาพขึ้นเท่าที่ควรจะทำได้ อำนาจรัฐถูกใช้ไปในทิศทางที่เอื้อประโยชน์แก่คนบางกลุ่มบางพวก ความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชนยังมีช่องว่างที่เห็นว่าห่างกันเท่าที่ควร การตัดสินใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนกับฝ่ายรัฐในระดับนโยบายสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตมีน้อย ยังมีการทุจริตคดโกงและประพฤติมิชอบสูง ซึ่งนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองในขณะนี้
สี่ปีที่ผ่านทำงานกันอย่างไร บ้านเมืองจึงไปไม่ถึงไหน
ทำงานกันอย่างนี้ยังอยากกลับมาใหม่โดยไม่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามระบอบการเมืองการปกครองในกติกาที่ควรเป็น โดยอ้างกฎหมายที่เขียนขึ้นใหม่ของพวกตัวเองว่า เป็น “นายกฯคนนอก” ได้โดยไม่ต้องเลือกตั้ง
ขบวนการประจบสอพลอทั้งหลายออกมาเชียร์
บางกลุ่มตั้งพรรคการเมืองขึ้นสนับสนุนประกาศให้รู้
แต่ที่น่าเกลียดที่สุดเห็นจะได้แก่กลุ่มคนที่กำลังมีบทบาทร่วมทำงานอยู่ในคณะรัฐบาลขณะนี้ ประกาศตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาสนับสนุนให้เป็น “นายกฯคนนอก”
เรื่องใครจะสนับสนุนใคร อย่างไรแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือคนที่กำลังมีตำแหน่งหน้าที่ทำงานอยู่ในรัฐบาลขณะนี้ต่างหาก ที่ไม่สมควรจะทำอย่างนี้ เพราะเข้าข่ายเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ในขณะที่ตนเองและพวกยังทำงานทำการอยู่ในคณะรัฐบาล สามารถใช้อำนาจหน้าที่ในการงานที่มีอยู่เพื่อเอื้อประโยชน์ในเรื่องนี้
ทำไมไม่ลาออกไปจากหน้าที่การงานก่อนจึงค่อยทำ
โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าในหมู่คณะด้วยแล้ว ควรจะห้ามปราม หรือแนะนำให้ผู้คนที่ร่วมอยู่ในหมู่คณะที่กำลังกระทำเรื่องอย่างนี้อยู่ ให้ดำเนินการในทางที่ถูกที่ควร อย่าได้หลงดีใจหรือเออออห่อหมกไปด้วยกับการกระทำอย่างนี้
การได้มาซึ่งอำนาจจากการรัฐประหารนั้น ต้องรู้จักใช้อำนาจที่ได้มาให้เป็นด้วย อย่าถืออำเภอใจตัวเองเป็นใหญ่ เพราะคนที่ถืออำเภอใจตัวเองเป็นใหญ่ในการใช้อำนาจนั้น ต้องเป็นทรราชมานักต่อนักแล้ว
ทรราชคือเผด็จการที่ถืออำเภอใจตัวเองเป็นใหญ่
เป็นคนไม่คำนึงว่าการกระทำนั้นๆเป็นการกระทำผิด เพราะความผิดหรือความถูกนั้นใช้ความรู้สึกของตนเองเป็นเกณฑ์
ทรราชหรือเผด็จการนั้นเป็นคนที่สามารถออกกฎออกระเบียบ ออกกฎหมายบังคับใช้เพื่อให้คุณแก่ตนเอง และให้โทษแก่ผู้ที่ตนไม่ชอบ หรือผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับตนหรือเป็นคนที่ทำงานแบบ “ตัวกูของกู” เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศชาติบ้านเมืองก็ล่มจมหายนะ
มีโอกาสเข้ามามีอำนาจจึงต้องรู้จักการใช้อำนาจ
การรู้จักใช้อำนาจให้เป็นนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. ต้องลดความเป็นนายของตนลง โดยเริ่มที่พฤติกรรมของตนในการแสดงออก ทั้งแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้คนทั่วไป เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนเหล่านั้น ทั้งในเรื่องของความสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรมและหลักการอันดีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
2. ต้องมีมุมมองที่กว้างไกล มีความเข้าใจและสามารถในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนหลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างเหมาะสม รู้จักใช้คำพูดที่สุภาพไม่เร่าร้อน หรืออวดใหญ่อวดโต
3. ต้องเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของทุกกลไกในองค์กรต่างๆที่ตนรับผิดชอบ สามารถแยกแยะทักษะการทำงานแบบทีมงานได้ดี และมีทักษะในเชิงกลยุทธ์ในงานที่ทำ จนทำให้ทุกองค์กรมีความประสานสัมพันธ์กันด้วยดี
4. ต้องมีความยืดหยุ่นสูง สามารถเปิดกว้างเพื่อรองรับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยรู้จักการบริหารเปลี่ยนแปลงให้ทันเหตุการณ์ รู้จักลดข้อจำกัดของตนและองค์กรให้น้อยลง และมีความกล้าเสี่ยงอย่างรอบคอบในการตัดสินใจ
5. ต้องผูกพันในการเรียนรู้เรื่องต่างๆอย่างต่อเนื่อง ต้องหมั่นพัฒนาตัวเองและหาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อความมีทักษะ มีความรู้ความเข้าใจในการนำ สามารถทำงานเป็นทีม สามารถบริหารความขัดแย้งที่เกิดขึ้น สามารถก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆ
ไม่ต้องเป็นทรราชหรือเป็นเผด็จการก็เพราะรู้จักใช้อำนาจที่ได้มาจากการรัฐประหาร เพราะประพฤติปฏิบัติงานตนดังสิ่งต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น
ทั้งหลายทั้งปวงที่หยิบยกมาพูดในวันนี้ ก็มาจากเรื่องของ “นายกฯคนนอก” นี่แหละ กำลังกระดี๊กระด๊า ทั้งการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา โดยเฉพาะจากคนที่ยังดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานอยู่ในรัฐบาลนี้ โดยไม่ลาออกเสียก่อนจากตำแหน่งหน้าที่การงาน อันเป็นลักษณะของ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่จะเป็นปัญหากับตนในข้างหน้า
เห็นพฤติกรรมอย่างนี้แล้วเชื่อว่าทุกคนคงขำ
และถ้าไปถามชาวบ้านทั้งหลายในเรื่องพฤติกรรมอย่างนี้ อาจได้ยินคำพูดของชาวบ้านว่า สี่ปีที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้างในการแก้ไขเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องปากท้องของชาวบ้านที่ยังคงประสบอยู่ในขณะนี้
ยังไม่รู้จักพออีกหรือ ?
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี