“แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” “ศัตรูกล้ามาประจัญ จะอาจสู้ริปูสลาย” เป็นพระราชนิพนธ์ของจอมทัพไทยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งก่อนขึ้นครองราชย์ทรงมีพระยศเป็นนายพลเอกแห่งกองทัพบกสยาม ในรัชสมัยของพระองค์เป็นช่วงพัฒนากองทัพให้มีความทันสมัยเพื่อการป้องกันการรุกรานจากชาติมหาอำนาจมีการสั่งซื้ออาวุธเข้าประจำการในกองทัพทั้ง 3 เหล่าคือกองทัพบก
กองทัพเรือ และกรมอากาศยาน
สำหรับในปัจจุบันรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากองทัพทุกเหล่ามากขึ้นหลังจากในสมัยรัฐบาลที่มีผู้นำมาจากพรรคการเมืองได้ลดความสำคัญลงไปมาก กองทัพบกไทยซึ่งเป็นกองทัพหลักในการป้องกันอธิปไตยของชาตินั้นได้มีการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่จัดซื้อหาตามวงรอบของแผนพัฒนากองทัพบก
ที่ได้กระทำล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ทศวรรษก่อนโดยเฉพาะอากาศยานของกองทัพบกที่หลายๆ รุ่นที่มีประจำการอยู่ส่วนมากเป็นของเก่าที่ใช้มานานมากกว่า 30 ปี แล้วบางรุ่นก็มีอายุงานกึ่งศตวรรษก็มี ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.ต.วีรยุทธ อินทร์วร ผบ.ศูนย์การบินทหารบกเผยว่า ปีงบประมาณ 2562 กองทัพบกจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์เข้าประการทั้งแบบใช้งานทั่วไป และ โจมตี ตามแผนพัฒนากองทัพ เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์เก่าที่จะต้องปลดประจำการ
โดยพยายามจัดหาให้มีแบบน้อยลง เพราะเทคโนโลยีก้าวกระโดดจะเลือกแบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สอดคล้องกับงบประมาณที่เรามีอยู่ และพยายามเลือกสิ่งที่ดีตามนโยบายของพลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ให้ไว้ว่าต้องจัดหายุทโธกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริงคุ้มค่าซึ่งขณะนี้ได้มีการอนุมัติการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี แทนที่เฮลิคอปเตอร์เอเอช1เอชฮิวอี้คอบร้าที่มีอายุงาน 40 ปี ที่กำลังจะปลดประจำการ 7 เครื่อง
ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกแบบโดยกรกฎาคมนี้จะเดินทางไปดูเฮลิคอปเตอร์แบบต่างๆ เพื่อรวมข้อมูลก่อนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกแบบ อย่างไรก็ตาม มีหลายประเทศที่เสนอมาซึ่งเป็นแบบที่ทั่วโลกรู้จัก 4 หรือ 5 แบบ แต่ละแบบมีความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไปแต่ละภูมิประเทศ ทั้งนี้ความต้องการขั้นต่ำอยู่ที่ 6 เครื่อง
การพิจารณาว่าจะซื้อรุ่นไหน ก็ต้องเป็นไปตามภัยคุกคามของเราที่เปลี่ยนไปด้วย ต้องเป็นอากาศยานที่มีความเร็วมากขึ้นจากเดิมสมรรถนะที่บินพิสัยไกลได้มากขึ้นมีระบบอาวุธนำวิธียิ่งที่แม่นมากขึ้น เฮลิคอปเตอร์โจมตีที่ให้กองทัพบกพิจารณา อาทิ เอ็มไอ 28 กับเคเอ 52 จากรัสเซีย เอเอช 1 แซดไวเปอร์ กับเอเอช 64 อาปาเช่ ของสหรัฐอเมริกา ไทเกอร์เอฟ ของฝรั่งเศส เอดับเบิ้ลยู 129 ของอิตาลีและแซด 198 ของจีน
กองทัพบกมีเฮลิคอปเตอร์รุ่นเก่าที่ใช้งานมานานเช่นเบลล์ 206 เจ๊ตแรนเจอร์ใช้งานธุรการลาดตระเวน 25 เครื่องกับเบลล์ยูเอช 1 เอชรวม 92 เครื่องทั้ง 2 แบบนี้รวม 117 เครื่องหลายฝูงใช้มาตั้งแต่ปี 2520 อายุใช้งาน 40 ปีผลิตมาตั้งแต่ปี 2515 อายุเครื่อง 45 ปี กำลังพิจารณาหามาทดแทนเครื่องเก่าที่เริ่มใช้ปฏิบัติการไม่ได้แล้วมีการพิจารณาซื้อออกุสต้าเวสต์แลนด์เอดับเบิ้ลยู 101 ของอิตาลีมาทดแทนแค่ 1 ใน 3 ของอัตราเดิมตามกำลังงบประมาณในแต่ละปี
ส่วนที่เป็นของใหม่ก็มีอายุใช้งานไม่นาน อาทิออกุสต้าเวสต์แลนด์เอดับเบิ้ลยู 139 รวม 2 เครื่อง, ยูเอช 72 เอลาโกต้าของสหรัฐอเมริกา 6 เครื่อง, ซิกอร์สกี้เอช 70 เอ4 3 แบล็กฮอล์ก 12 เครื่อง เป็นเครื่องบินปีกหมุนลำเลียงทางยุทธวิธีของสหรัฐอเมริกาและเครื่องบินปีกหมุนหรือเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงทางยุทธวิธีเบลล์ 212 จำนวน 60 เครื่อง
สำหรับรถถังและยานเกราะนั้นได้ทยอยซื้อรถเกราะล้อยางจากยูเครนรุ่นบีทีอาร์ 3 อีหนึ่งรวม 96 คันสมทบกับรุ่นเดิมแล้วจะมี 217 คันใช้ประจำการในกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์และกองพลทหารราบที่ 15 รถเกราะเรวา 4 คูณ 4 จากแอฟริกาใต้ 85 คันประจำการกองพลทหารราบที่ 15 รถถังที 84 ออปลอตของยูเครน 49 คัน รถถังหลักวี 4 ของจีน 49 คันและปลดประจำการรถถังเบาเอ็ม 41 เอ 3 วอล์คเกอร์บูลด็อก 240 คันที่มีอายุใช้งาน 50 ปีของสหรัฐอเมริกา
ด้านอาวุธประจำกายนั้นมีการซื้อของใหม่มาทดแทนของเดิมที่ใช้มา 40 ปี เช่น ปืนพกอัตโนมัติเอ็คเล่อร์แอนด์ค๊อกยูเอสพีขนาด 11 มม.ของเยอรมนี, ปืนพกกึ่งอัตโนมัติกล็อกขนาด 9 มม.รุ่นกล็อก17 และ 23 ของออสเตรีย, ปืนเล็กสั้นจู่โจมโคลท์เอ็ม 4 เอ 3 บุสมาสเตอร์และเอ็ม 4 เอ 1 ของสหรัฐอเมริกา, ปืนกลเบายูทีแม็กซ์ 100 ของสิงคโปร์, ปืนกลเบาอิสราเอลเนเกฟของอิสราเอล, จี 36, จี 36 เค เฮคเล่อร์แอนด์คลอช, ปืนเล็กยาวจู่โจมสตีย์เอยูจีออสเตรีย ฯลฯ
การพิจารณาซื้อเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้บัญชาการทหารบก พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท, เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก พลโทศักดา ศิริรัตน์, เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พลโทณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์และคณะอีกหลายท่านโดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลถึงคนสุดท้าย คือนายกรัฐมนตรี
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี