วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 02.00 น.
บทเรียนสังคมจากคดี ‘ข้าวหมาก’

ดูทั้งหมด

  •  

วันที่ 15 ส.ค. “ข่าวสดออนไลน์” รายงานข่าวด้วยการพาดหัวข่าวว่า ยายทรุดร่ำไห้โฮ! โดนจับปรับ 5 หมื่นทำข้าวหมากไปขายห่อละ 5 บาท (คลิป)

เนื้อข่าวระบุว่า ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ อายุ 60 ปี แม่ค้าขายข้าวหมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้าจับกุมบริเวณตลาดนัดคลองถมสี่แยกกระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ ขณะนั่งขายข้าวหมากห่อใบตอง ในข้อหาจำหน่ายเหล้าสาโท โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกค่าปรับสูงถึง 5 หมื่นบาท ก่อนมีการต่อรองลดเหลือ 1 หมื่นบาท


นางเสน่ห์ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนชรา อยากจะหาอาชีพเสริม เห็นตลาดนัดมาเปิดใกล้บ้าน ประกอบกับตัวเองทำงานหนักไม่ได้เพราะขาหัก 6 ท่อน เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ จึงทำข้าวหมาก
ห่อใบตอง ซึ่งเป็นอาหารภูมิปัญญาพื้นบ้านขายวันละประมาณ 20-30 ห่อ ในราคาห่อล่ะ 5 บาท ได้กำไรวันละ 50-100 บาทต่อนัด จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเข้ามาจับกุมในข้อหาจำหน่ายสุราสาโทโดยไม่ได้รับอนุญาต

“ตอนนั้นตกใจมาก พยายามอธิบายให้เจ้าหน้าที่เข้าใจถึงเหตุผล และไม่รู้ว่าการขายข้าวหมากจะผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจะดำเนินคดีมีโทษถึงติดคุก พร้อมเรียกค่าปรับเป็นเงิน 50,000 บาท ทำให้ถึงกับเข่าทรุด เพราะไม่มีเงินที่จะมาเสียค่าปรับและกลัวจะติดคุก ก็ได้แต่พยายามอ้อนวอนให้เจ้าหน้าที่ดูเจตนาเนื่องจากเป็นคนหาเช้ากินค่ำ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยินยอม นำตัวไปควบคุมที่สำนักงานกรมสรรพสามิตที่บุรีรัมย์”

ด้าน นางบุญมณี ป่วงรัมย์ อายุ 42 ปี บุตรสาวนางเสน่ห์ เล่าว่า วันเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านโทรไปแจ้งว่าแม่ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจับกุมพร้อมทั้งจะจับแม่เข้าคุกก็ตกใจ จึงรีบไปหาจนพบแจ้งว่าแม่ขายสาโท ซึ่งผิดกฎหมายต้องเสียค่าปรับ 50,000 บาท ไม่เช่นนั้นจะจับเข้าคุก ตนก็ตกใจบอกว่าไม่มีเงิน ต่อมาเจ้าหน้าที่แจ้งว่าลดค่าปรับให้เหลือ 3 หมื่นบาท พร้อมทั้งบอกว่าถ้าไปขึ้นศาลจะเสียเวลา ถ้าเสียค่าปรับตอนนี้เรื่องก็จบ

“จึงขอร้องเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีเงิน แต่ก็สงสารแม่ซึ่งนั่งร้องไห้ตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่มาบอกว่าลดค่าปรับให้เหลือ 10,000 บาท ตนจึงรีบไปหยิบยืมพี่น้องนำเงินมาเสียค่าปรับ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิตรับเงินไปและออกใบเสร็จให้ ก็มีใบหน้ายิ้มแย้มแล้วก็กล่าวอวยพรด้วยว่า ขอให้ทำมาหากินขายของเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เหมือนจะตอกย้ำคนจน” นางบุญมณี ระบุ

ทันทีที่ข่าวนี้ปรากฏ ก็เกิดการแชร์ไป “ด่า” ในโลกออนไลน์อย่างมากมาย ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ทำกับคนแก่จนๆ คนหนึ่งอย่างนี้

ผมเองก็ได้อ่านข่าวนี้ แต่เกิดเอะใจว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่ถูกจับเพราะขายข้าวเหมาก เพราะในร้านสะดวกซื้อทุกวันนี้ ก็มีข้าวหมากขาย ทำไมไม่ถูกจับ แต่เนื่องจากข่าวนี้ของ “ข่าวสด” มีคลิปสัมภาษณ์คุณยายแนบอยู่ด้วย ได้ฟัง จึงพบว่า คลิปช่วง 2.50 นาที ยายพูดตะกุกตะกักว่า ต่อไปนี้ยายจะไม่ทำแล้ว “ทั้งข้าวหมาก ทั้ง...” และยายพูดอีกว่า “เขาบอกว่า ข้าวหมากทำได้” ทำให้ต้องหยุดคิดแล้วโพสต์ในเฟซบุ๊ค เพจ “ปู จิตกร บุษบา” ว่า

อย่าเพิ่งตำหนิติติงอะไรกันเลยนะ จงตั้งสติแล้วรอดูข้อเท็จจริงที่มากกว่านี้ เพื่อ...

ก) ให้รู้แน่ว่า ถูกจับเพราะทำสาโท หรือข้าวหมาก เพราะยายพูดอ้อมๆ แอ้มๆ ในคลิป แต่ก็ชัดว่าไม่ได้ทำแค่ “ข้าวหมาก” อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เข้าดำเนินการเรื่องนี้ควรออกมาชี้แจงให้กระจ่าง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน และเพื่อให้คำตอบด้วยว่า ไม่ใช่การเอากฎหมายไปหาประโยชน์ของเจ้าหน้าที่

ข) เรื่องสาโทและเหล้าพื้นบ้าน พูดกันมานาน ว่าควรจะอนุญาตได้ แต่ขอให้สร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาควบคุม ไม่ใช่ให้แต่บริษัทเหล้าใหญ่ๆ ทำได้อยู่ฝ่ายเดียว เงื่อนไขควรจะแค่ไหน อย่างไร 
ก็มา “คิดร่วมกัน” เสีย

ค) เราไม่ชอบกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เท่าๆ กับไม่ชอบการสื่อสารที่ “บิดเบือน” และสังคมรับข่าวที่ “ไม่ตั้งสติ” อ่านฉาบฉวย ฟังฉาบฉวย แต่ร่ำรวยคำด่า

ต่อมาจึงมีข่าวว่า สรรพสามิตออกมาชี้แจงว่า

• คุณยายตามที่ระบุในข่าวมีอาชีพขายข้าวหมากเป็นอาชีพหลัก ซึ่งเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตได้รับแจ้งจากราษฎรว่า มีการจำหน่ายสุราแช่เพื่อดื่มกินที่ตลาด
คลองถม สี่แยกไฟแดง ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ และพบคุณยายคนดังกล่าว มีสุราแช่บรรจุถุงพลาสติกขนาดถุงละ 1 ลิตร จำนวน 11 ถุง รวม 11 ลิตร จึงจับกุมคุณยายพร้อมของกลางตามภาพ มิได้มีการจับกุมข้าวหมากดังที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และข้าวหมากมิใช่สินค้าในพิกัดสินค้าสรรพสามิต ไม่มีความผิด ไม่อาจจับกุมได้

• ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหามีไว้ครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรค 1 มีโทษตาม ม. 192 เป็นเงินค่าปรับจำนวน 1 หมื่นบาท

• ทั้งนี้ อธิบดีกรมสรรพสามิตได้มอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมาโดยตลอดว่า ให้เข้าไปให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาแก่ชาวบ้านเพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจถึงการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ดี ประเด็นข่าวดังกล่าวน่าจะมีเจตนาที่ไม่ดีเพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการและรัฐบาลได้รับความเสียหายในด้านลบ

ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อ นายนพรัตน์ จรรยาวรางกูร สรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองบุรีรัมย์ พร้อมนายทองเลื่อน เสาร์ทอง นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองบุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานเป็นสุราแช่ (สาโท) ใส่เป็นถุง จำนวน 11 ถุง พร้อมถังพลาสติกสี จำนวน 1 ใบ และใบเสร็จรับเงิน ค่าปรับในคดีของกรมสรรพสามิต ลงวันที่ 22 ก.ค. 2561 ซึ่งเป็นของกลางที่ได้จับกุมในวันเกิดเหตุมายืนยัน

โดย ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2561 สายตรวจสรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีการลักลอบนำสุราแช่ (สาโท) ใส่เป็นถุงมาวางขายที่ตลาดนัดคลองถม สี่แยกกระสัง ต.กระสัง อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงพบหญิง อายุประมาณ 60 ปี นั่งขายของอยู่ในตลาดนัด และข้างๆ ตัวมีถังพลาสติกสีวางอยู่ ที่ภายในถังมีสุราแช่(สาโท) มัดเป็นถุงใส่อยู่นับได้จำนวน 11 ถุง จึงแจ้งกับหญิงคนดังกล่าว ทราบชื่อ คือ นางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ อายุ 60 ปี ว่า มีสุราแช่(เหล้าโท) ที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืน มาตรา 153 วรรคหนึ่ง ไว้ในความครอบครอง เป็นความผิดตามกฎหมาย พร้อมกับนำของกลาง และนางเสน่ห์ มาเปรียบเทียบปรับ ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ สาขาเมืองบุรีรัมย์ โดยแจ้งข้อกล่าวหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืน มาตรา 153 วรรคหนึ่ง อัตราโทษ ของกลางตั้งแต่สิบลิตรขึ้นไป ปรับ 10,000 บาท

สรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองบุรีรัมย์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการจับกุมคนขายข้าวหมาก ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด แต่เป็นการจับกุมผู้ครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืน มาตรา 153 วรรคหนึ่ง และมีใบเสร็จรับเงินค่าในคดีของกรมสรรพสามิต ออกให้กับผู้ถูกกล่าวหาเก็บไว้ยืนยันความผิดตามจริง พร้อมฝากเตือนประชาชนที่ลักลอบผลิตสุราแช่(เหล้าโท) ขาย จะมีความผิดตามกฎหมาย

จากเหตุการณ์นี้ มีประเด็นที่เราต้อง ‘จับ’ ให้ชัดอยู่หลายๆ เรื่องคือ

1) สื่อ ต้องมีความรับผิดชอบต่อการนำเสนอให้มากกว่านี้ไหม

เมื่อมีการร้องทุกข์จากประชาชน ก่อนจะนำเสนอครึ่งๆ กลางๆ ให้คนเข้าใจผิด โดยเฉพาะการพาดหัวข่าว และการไม่เอาข้อมูลจากคลิปสัมภาษณ์มาลงในเนื้อข่าวให้ครบ แล้ว อันที่จริง สื่อสามารถตรวจสอบกับสรรพสามิตที่เข้าจับกุมได้ ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วค่อยนำเสนอเรื่องนี้สู่สังคมด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ได้ “ข้อเท็จจริง” ที่สมบูรณ์ที่สุด และจะได้เป็นความรู้แก่สังคมด้วย ว่าอะไรจำหน่ายได้ อะไรผิดกฎหมาย แต่สื่อแข่งกันเร็ว (นอกจากข่าวสด สำนักอื่นๆ ก็นำเสนอเช่นกัน) และล่อเป้าเอาคลิก เอายอดแชร์ ไม่สนใจ “จริยธรรม” คำถามคือ สังคมควรมีท่าทีอย่างไรต่อสื่อแบบนี้

2) “ผู้รู้” ต้องสร้างสังคมความรู้

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊ค เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ข้าวหมักหรือข้าวหมาก เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น มีส่วนผสมสำคัญจาก “ลูกแป้งข้าวหมาก” พบมากที่สุด จากหลายๆ ที่ ทำกันอย่างเปิดเผย ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ผิดกฎหมายแล้ว เพราะได้แยกลูกแป้งข้าวหมากออกจาก พ.ร.บ. สุราแล้ว และส่วนผสมก็มีไม่มาก

“ลูกแป้งข้าวหมักหรือข้าวหมาก” จะมีเชื้อราสกุล Mucor sp., Amylomyces rouxii , Rhizopus oryae ที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ ไม่ใช่เชื้อราที่เป็นโทษ เชื้อราทำหน้าที่สร้างเอนไซม์อมิเลสออกมาย่อยแป้งในข้าวเหนียวให้เป็นน้ำตาลในช่วงหนึ่ง คือ 2-3 วัน หลังจากนั้น ก็เป็นหน้าที่ของยีสต์ ในสกุล Sacchacomyces sp., saccharomycopsis fibuligera , hansenula anomala , Endomycopsis ที่หมักน้ำตาลในข้าวหมากกลายเป็นแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่มาก ลูกแป้งทำข้าวหมากจะให้ความหวานมากกว่าแอลกอฮอล์ไม่เหมือนกับลูกแป้งเหล้า จะให้ แอลกอฮอล์มากกว่าความหวาน จำได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมติ 8:6 ให้ถอดแป้งข้าวหมาก ออกจาก พ.ร.บ.สุราฯ ระบุละเมิดภูมิปัญญาชาวบ้าน และการประกอบอาชีพ เนื่องจากคำว่าเชื้อสุรา ตามนิยามของความหมายใน มาตรา ๔ ของ พ.ร.บ.สุรา ระบุให้หมายความว่า แป้งเชื้อสุรา แป้งหมัก หรือเชื้อใดๆ ซึ่งเมื่อหมักกับวัตถุ ของเหลวอื่นแล้ว สามารถทำให้เกิดแอลกอฮอล์ที่ใช้ทำสุราได้ก็ตาม แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า แป้งข้าวหมักมีลักษณะที่ไม่ใช่เชื้อสุราในตัวเอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น อาหาร ยา

ดังนั้น การที่มาตรา ๒๔ บัญญัติว่า ทำหรือขายเชื้อสุรา ที่มีความหมายรวมถึงแป้งข้าวหมัก จึงเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๐ รวมทั้งยังเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๖ ที่บัญญัติให้บุคคลซึ่งรวมตัวกันเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ย่อมมีสิทธิ์อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น และของชาติด้วย แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีบทกฎหมายบัญญัติรองรับมาตรา
ดังกล่าว จึงไม่สามารถอ้างได้ว่า มาตรา ๒๔ ขัดหรือแย้งกับ มาตรา ๔๖ (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๒๕/๒๕๔๗. (๒๔๔๗, ๔ ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ ๙๒๑ ตอนที่ ๖๓ ก)

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว การผลิตและจำหน่ายแป้งข้าวหมักก็สามารถจำหน่ายนอกพื้นที่ที่ยื่นขออนุญาตไว้ได้ เรื่องที่เกรงว่าจะนำไปผลิตสุราเถื่อนนั้น ไม่ต้องห่วงเนื่องจากการผลิตสุราเถื่อนไม่นิยมนำแป้งข้าวหมักมาใช้ในการผลิตเพราะดูแลยาก อีกทั้งตัวแป้งข้าวหมักจะต้องคอยควบคุม อุณหภูมิและไม่คุ้มต้นทุน และสุราที่ได้จะมีแรงแอลกอฮอล์เพียง ๕ ดีกรี จึงมักนิยมใช้ส่าเหล้ามาผลิตมากกว่า ในส่วนของการผลิตอาหารและยารักษาโรคที่ต้องใช้แป้งข้าวหมักเป็นส่วนผสมในการผลิตนั้น ก็สามารถใช้แป้งข้าวหมักได้อย่างเสรีโดย“แป้งข้าวหมัก” ไม่เป็น “เชื้อสุรา” ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.๒๔๙๓ แล้วครับ

3) “นักกฎหมาย” ทนายความ ควรลดความ “อยากดัง” ลงบ้าง

จะรีบออกมาให้ความเห็นทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงกันทำไม เวลาสื่อโทรไปถาม หรือเชิญมาออกรายการ ก็ควรบอกเขาว่า คุณไปหาข้อเท็จจริงมาก่อน แล้วเราค่อยคุยกัน สังคมจะได้ไม่แตกตื่น และได้ข้อมูลผิดๆ

4) “นักแชร์ข่าว + นักก่นด่า” ทั้งหลาย ควรเจริญสติให้มากขึ้น

เริ่มจากอ่านข่าวให้ละเอียด ตั้งตำถาม ใคร่ครวญ แล้วค่อยคิดว่าควรแชร์หรือไม่ควรแชร์ ควรด่า หรือทำแต่เพียงตั้งคำถามก็พอ

บัดนี้ เรื่องนี้มาหยุดอยู่ที่

1.ตกลงของเหลวในถุงที่ยายถูกจับนั้น จะเรียกมันว่า “น้ำข้าวหมาก” หรือ “สาโท”

2.สรุปยายทำผิดกฎหมายหรือไม่ผิด

3.ต้องพิสูจน์ระดับแอลกอฮอล์ หรือความเป็นสาโทก่อนจับกุมและเปรียบเทียบปรับหรือไม่

4.ควรตักเตือนก่อน หรือจับแล้วปรับเลยอย่างที่ทำอยู่

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า หากเราดำเนินการไปด้วยกันอย่างรอบคอบ ตั้งสติ ไม่ปั่นกระแส ไม่เอาความเป็นคนแก่คนจนมาบดบังประเด็นที่ต้องพิสูจน์ ในที่สุด “ความถูกต้อง-เป็นธรรม” ก็จะเกิดขึ้นได้

สุดท้าย คุยกันเรื่อง “เหล้าพื้นบ้าน” ถูกกฎหมาย กันได้แล้ว ว่าเอาไหม มีเงื่อนไขขอบเขตอย่างไร อย่าปล่อยให้บริษัทน้ำเมาเจ้าใหญ่ๆ รวยเอาๆ อยู่ฝ่ายเดียวเลย สาโทคือภูมิปัญญาพื้นบ้าน คือวิถีชีวิต คือวัฒนธรรมท้องถิ่น บริหารจัดการให้ดี มันก็มีทั้งความเป็นธรรม-เท่าเทียม และมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นได้!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:18 น. ก.เกษตรฯพร้อมรับมือสาธารณภัยช่วงฤดูฝน
13:13 น. MEA แนะเช็กสิทธิ์และขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านออนไลน์ MEA e-Service ตลอด 24 ชั่วโมง
13:10 น. ทลายเว็บพนันพบมีเงินหมุนกว่า120ล้านบาท
13:05 น. เลยเตรียมระวัง! ‘น้ำหลาก-น้ำท่วม’ เขตเมืองและพื้นที่เสี่ยง-หวั่นซ้ำรอยเดิม
13:04 น. บึงกุ่มจัดงานศาสนิกสัมพันธ์ ปลูกต้นไม้ ปลูกธรรม ปลูกอนาคต
ดูทั้งหมด
‘แพทย์ชนบท’เตือนผู้ชายสังเกตอาการ ย้ำ‘มะเร็งต่อมลูกหมาก’ตรวจพบเร็วรักษาหายได้
ผงาดแชมป์ยูโรป้า!ไก่ทำได้ทุบผี1-0ซิวถ้วยรอบ17ปี
ปรีวิว-ฟันธง!หงส์ยังปึ๊กบุกนกนางนวล
แชมป์แรกสโมสร! พาเลซโค่นเรือใบคว้าถ้วยเอฟเอคัพ
‘สมศักดิ์’ยกกฎหมายให้อำนาจ‘สภานายกพิเศษ’ยับยั้งมติ‘แพทยสภา’
ดูทั้งหมด
ฟ้าผ่าปราสาทนครวัดเป็นลางร้าย รัฐบาลที่จุ้นจ้านปราสาทตาเมือนธม
‘สวนกระแสลิซ่าสู่ต้นธารแห่งบรรพชน’ ตอนที่ 2
ก.ม.ใหม่ ธนาคารและค่ายมือถือ ร่วมรับผิดกรณีคอลเซ็นเตอร์
จอมพยาบาท (1)
บทเรียนนักการเมือง เช็คบิลค่าเสียหายจำนำข้าว
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สกัดจับกลางดึก! ยาบ้า5แสนเม็ดคาเก๋งที่เชียงราย 2หนุ่มสระแก้วโดนรวบ-4คนหนีหาย

'เจ๊แมว'กรี๊ดลั่นไม่ยอม!!! ชิงฟ้องหมิ่น'เสี่ยหนู' รับไม่ได้หาว่าเป็นคนกักขฬะ-ขี้โกหก

‘เหวง’อวย‘ยิ่งลักษณ์’คนเดียวทำชาวนาเงยหน้าอ้าปาก ทำไม่โดนปรับหมื่นล้าน

ทำงานถึงอายุ70! 'เดนมาร์ก'เพิ่มอายุเกษียณการทำงาน ขึ้นแท่นอายุงานสูงสุดในยุโรป

กาง 7 ข้อสังเกต ‘อิ๊งค์’ออกทริปไปอังกฤษ ทำงาน เที่ยว หรือแค่เยี่ยม‘ยิ่งลักษณ์’

'เชาว์ มีขวด' ตอกกลับ 'นรวิชญ์–ภูมิธรรม' สร้างวาทกรรมเบี่ยงประเด็น คดีจำนำข้าว

  • Breaking News
  • ก.เกษตรฯพร้อมรับมือสาธารณภัยช่วงฤดูฝน ก.เกษตรฯพร้อมรับมือสาธารณภัยช่วงฤดูฝน
  • MEA แนะเช็กสิทธิ์และขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านออนไลน์ MEA e-Service ตลอด 24 ชั่วโมง MEA แนะเช็กสิทธิ์และขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านออนไลน์ MEA e-Service ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ทลายเว็บพนันพบมีเงินหมุนกว่า120ล้านบาท ทลายเว็บพนันพบมีเงินหมุนกว่า120ล้านบาท
  • เลยเตรียมระวัง! ‘น้ำหลาก-น้ำท่วม’ เขตเมืองและพื้นที่เสี่ยง-หวั่นซ้ำรอยเดิม เลยเตรียมระวัง! ‘น้ำหลาก-น้ำท่วม’ เขตเมืองและพื้นที่เสี่ยง-หวั่นซ้ำรอยเดิม
  • บึงกุ่มจัดงานศาสนิกสัมพันธ์ ปลูกต้นไม้ ปลูกธรรม ปลูกอนาคต บึงกุ่มจัดงานศาสนิกสัมพันธ์ ปลูกต้นไม้ ปลูกธรรม ปลูกอนาคต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เข้าคุกเถอะ ‘ทักษิณ ชินวัตร’

เข้าคุกเถอะ ‘ทักษิณ ชินวัตร’

21 พ.ค. 2568

เงิน พระ สีกา และการพนันออนไลน์

เงิน พระ สีกา และการพนันออนไลน์

18 พ.ค. 2568

มีเรื่องให้ต้อง ‘เอ๊ะ’

มีเรื่องให้ต้อง ‘เอ๊ะ’

14 พ.ค. 2568

สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร

สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร

11 พ.ค. 2568

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

7 พ.ค. 2568

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

4 พ.ค. 2568

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

30 เม.ย. 2568

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

27 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved