นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์เชิงอุบาทว์ที่คนไทยบางชนิด ซึ่งอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่ปลูกสร้างอยู่ติดกับวัดไทร แต่กลับประกาศตัวว่ารำคาญเสียงระฆังจากวัด จนถึงขนาดไปร้องเรียนต่อสำนักงานเขตบางคอแหลม เพื่อขอให้สำนักงานเขตแห่งนี้แจ้งไปยังวัดว่าขอให้ยุติการตีระฆัง โดยอ้างว่าเสียงระฆังรบกวน

ข้อร้องเรียนดังกล่าวนี้ถือได้ว่าเป็นข้อร้องเรียนสุดประหลาดมหัศจรรย์ แต่ที่ประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งกว่า ก็คือการที่สำนักงานเขตบางคอแหลมส่งจดหมายไปถึงวัดไทร โดยขอให้พระสงฆ์ในวัด ไม่ตีระฆังให้ส่งเสียงรบกวน ผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียม

เมื่อเรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าวขึ้นมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นสังคมที่ผู้คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นอกจากนับถือศาสนาพุทธแล้ว คนไทยที่รู้ประสา และมีสติปัญญาก็ย่อมต้องรู้ด้วยว่า วัดย่อมต้องมีเสียงระฆังและเสียงกลอง รวมถึงเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์ และญาติโยมที่ไปไหว้พระสวดมนต์เป็นปกติ

ดังนั้นการที่คนซึ่งอยู่อาศัยใกล้กับวัดบอกว่ารำคาญเสียงระฆัง จึงเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ในสังคมไทยรับไม่ได้ แต่ที่มากกว่านั้นคือ วิญญูชนรู้ว่าวัดปลูกสร้างมาก่อนคอนโดมิเนียม แล้วคนซึ่งเข้าไปพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่กำลังเป็นข่าว ก็ต้องรู้อยู่แก่ใจด้วยว่าตนเองอาศัยอยู่ใกล้วัด เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรจะร้องแรกแหกกระเชอว่ารำคาญเสียงระฆังจากวัด

การร้องเรียนของคนผู้อ้างว่ารำคาญเสียงระฆัง โดยให้เหตุผลว่าระฆังส่งเสียงรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของตนเอง ถือได้ว่าเป็นข้อร้องเรียนที่ไร้เหตุผล อย่างที่สุดและเป็นเรื่องที่สังคมไทยไม่สามารถยอมรับได้

ข้อร้องเรียนเรื่องเสียงระฆังนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทยว่า ข้อร้องเรียนเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ

เรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ เกิดมาจากความเห็นแก่ตัวของคนบางคน ซึ่งมองเห็นความสบายและผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าความถูกต้องและกฎระเบียบของสังคม เพราะฉะนั้นคนจำพวกนี้จึงแยกแยะไม่ออกระหว่างสิ่งผิดกับสิ่งถูก