อุ๊งอิ๊งค์ไม่ยอมลาออก ไม่รับผิดชอบทางการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ความมั่นคงของประเทศชาติ แบบที่ไม่เคยมีนายกฯคนไหนทำพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน
1. ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยในคดีดังกล่าว
เรื่องนี้ ศาลรัฐธรรมนูญควรจะพิจารณาเรื่องนี้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องกระทบต่ออธิปไตยและความมั่นคงของประเทศชาติ
ทราบว่า 1 ก.ค. จะมีการประชุม สมควรชี้ขาดได้เลยว่า จะรับหรือไม่? และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่?
เพราะนายกฯ รับแล้วว่าเป็นคลิปเสียงจริง
2.นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ อ้างว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรเสียหาย และปัจจุบัน ก็ยังไม่มีความเสียหายอะไร ด่านก็ยังไม่ได้เปิด
เรื่องนี้ มีอดีตผู้พิพากษา อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง ให้ความเห็นว่า
“เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่ายังไม่เกิดความเสียหาย ประเทศเสียหาย มีผู้นำที่ทำท่ายอมเขาหมดขนาดเอาตัวเป็นพวกกับปรปักษ์ เอาทหารผู้ใหญ่เป็นฝ่ายตรงข้าม ทำตัวเป็นพวกเดียวกันกับผู้นำชาติที่เป็นปรปักษ์ และกำลังคุกคามประเทศไทย ถ้าบอกว่าเป็นการโกหกในการเจรจา ในภาษาการทูตเขาก็มีวิธีพูดที่ไม่ใช่โกหกตอแหล”
3.ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับ และมีโอกาสสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์สถานีข่าวท็อปนิวส์ ระบุว่า
ตามหลักการของกฎหมาย ถ้าผู้ที่ยื่นคำร้องผ่านศาลรัฐธรรมนูญมีกฎหมายรองรับให้มีสิทธิยื่นได้ หากศาลรัฐธรรมนูญมีเขตอำนาจเหนือเรื่องนั้น ก็ชอบที่จะรับคำร้องไว้พิจารณา
แต่หากรับมาแล้ว จะวินิจฉัยสั่งการอย่างไร ตรงนี้เป็นเรื่องของรายละเอียดของเนื้อหาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายในแต่ละคดี
กรณีดังกล่าวส่วนตัวมองว่า ผู้ร้องเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยใช้เข้าชื่อยื่นมาเกินกว่า 1 ใน 10 ดังนั้น จึงมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภาส่งคำร้องมาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ดังนั้น ถือว่าคำร้องถูกต้องตามรัฐธรรมนูญฯมาตรา 82 ประกอบมาตรา 70 (4) และมาตรา 160 (4) (5) ซึ่งเป็นคำร้องที่เหมือนกับตอนที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกร้อง เพราะฉะนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ศาลรัฐธรรมจะไม่รับคำร้องดังกล่าว ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่า ศาลจะรับคำร้องไว้พิจารณา หากดูตามครรลองที่ผู้ร้องเสนอมายังศาลรัฐธรรมนูญถือว่าถูกต้องทุกอย่าง
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา นายกฯมีสิทธิโดนหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่?
อาจารย์จรัญ กล่าวว่า การจะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่เป็นเรื่องดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ
โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะวิเคราะห์ตามหลักกฎหมาย โดยเฉพาะถ้ามีเหตุอันควรสงสัยว่า มีเหตุการณ์หรือการกระทำตามคำร้อง ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจที่จะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
แต่ในบางครั้ง อย่างเช่นในคดีของนายเศรษฐา ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ยังไม่มีเหตุอันควรสงสัยตามคำร้อง จึงไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในส่วนนี้คนที่จะตอบได้ก็คือคนที่เห็นข้อมูลรายละเอียดในคำร้องว่าได้แนบหลักฐาน หรืออ้างอิงกฎหมายอะไรบ้าง
“...เรื่องนี้โดยส่วนตัวมองว่า กรณีคลิปเสียงนายกฯมีเหตุ และมีมูลทำให้เห็นว่าผู้นำรัฐบาล หรือนายกฯอ่อนน้อมเกินกว่าที่ควรจะทำในฐานะที่เป็นผู้แทนของประเทศไทย โดยเฉพาะภาวะของความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชามีความขัดแย้งถึงขนาดแย่งดินแดนกัน อีกทั้ง ยังมีการปะทะจนเกิดเรื่องราวให้เห็น ซึ่งกรณีนี้ถือว่า เป็นไปได้หากศาลรัฐธรรมนูญได้เห็นหลักฐาน และรายละเอียดที่เกิดขึ้น จึงทำให้มีเหตุสงสัยและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน
เพราะในความขัดแย้งระหว่างประเทศ หัวหน้ารัฐบาลจะอ่อนแอถึงขนาดตกเป็นลูกไล่ของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ ซึ่งถือว่า อันตรายต่อความสูญเสียเกียรติภูมิศักดิ์ศรี รวมไปถึงภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลก และอำนาจอธิบไตยของแผ่นดินไทย ซึ่งในกรณีดังกล่าวคนส่วนใหญ่ รวมถึงตนด้วยเห็นว่า น่าจะมีเหตุควรสงสัยให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลพินิจในการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากวิจารณ์อะไรมาก แต่ขอรับสารภาพว่า เมื่อดูคลิปเสียงที่ฝ่ายตรงข้ามปล่อยออกมาประจานหัวหน้ารัฐบาลรู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก” - อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าว
4.ในความเป็นจริง ขณะนี้ ครม.ได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยงบ 1.15 แสนล้านบาทไปแล้ว
ส่วนกฎหมายงบประมาณแผ่นดินที่กำลังจะผ่านสภา รักษาการนายกฯ ก็ทำงานแทนนายกฯได้ (อาจดีกว่าด้วย)
ยิ่งประเด็นความมั่นคงของประเทศ ปัญหาภัยคุกคามความมั่นคงจากกัมพูชา ถ้าไม่มีนายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ยิ่งจะปราศจากข้อครหา ฝ่ายความมั่นคงและประชาชนคนไทย มั่นใจในกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ถ้าอุ๊งอิ๊งลาออก แล้วรีบเลือกนายกฯใหม่ในสภา จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ที่สำคัญ เป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง
เพราะกรณีคลิปเสียงอื้อฉาว ทำลายเกียรติภูมิของชาติไทยมากที่สุดตั้งแต่ราชอาณาจักรไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชามา
ผู้นำประเทศจะหน้าด้าน หน้ามึน ลอยหน้าลอยตาอยู่ไปวันๆ ต่อไป ไม่ได้
5. “สรสาสน์ สีเพ็ง” อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ โพสต์เฟซบุ๊ก “Sorasart Seepheng” เผยคำแปลของคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชา แบบอันเซ็นเซอร์
โดยที่เผยแพร่กันก่อนหน้านั้น ล่ามแปลคำพูดของฮุนเซนไม่ครบถ้วน คาดว่าคงอยากรักษาน้ำใจนายกฯ แพทองธาร
ระบุว่า #แปลคำต่อคำบทสนทนาของฮุนเซน (ส่วนของนายกฯอิ๊งค์ ไม่ยกมาทั้งหมด) ดังนี้
อ- สุขภาพเป็นอย่างไร
ฮ- ไม่มีอะไร สุขภาพดี ขอขอบคุณ วันนี้ตรงกับวันพ่อด้วย
อ- อยากได้อะไรให้บอกมา จะจัดการให้
ฮ- ตอนนี้ปัญหาที่ฝั่งนี้อยากได้ คือ ทำอย่างไรที่จะทำให้จุดผ่านแดนทั้งหมดกลับมาเปิดเป็นปกติ อันนี้ คือความต้องการของทางนี้มีเพียงเท่านี้ นี่เป็นขั้นแรก ปัญหาข้อนี้ทางกัมพูชาเป็นเพียงผู้เดินตามหลัง ทางไทยเป็นผู้เริ่มปิดด่านก่อน ทางกัมพูชาจึงต้องปิดตาม เรื่องนี้กัมพูชาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะกัมพูชาเคยเสียท่ามารอบหนึ่งแล้ว ตอนที่ยอมปรับกองกำลังที่ช่องบก ตกลงว่าถอยแล้วตามแนวชายแดนจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่สุดท้ายทางทหารไทยกลับยังให้ปิดจุดผ่านแดน
- ตอนนี้ทางกัมพูชามีข้อเสนอคือขอให้ไทยเปิดจุดผ่านแดนทั้งหมดให้ได้ก่อน จากนั้นทางกัมพูชาก็จะดำเนินการตามหลังอย่างช้า 5 ชั่วโมง จะถอนคำสั่งห้ามนำเข้าสิ่งของ ผักผลไม้ที่เคยห้ามไว้ จะยกเลิกทั้งหมด
อ- อยากให้กลับมาเป็นปกติ โดยมีการพูดคุยตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย
ฮ- ทางนี้ก็อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่ทางนั้นไม่พร้อมทำ ทางนี้ไม่ได้ทำอะไร ทางนั้นเป็นฝ่ายกระทำ เป็นผู้ปิดพรมแดน ถ้าทางนั้นยอมเปิด ก็ไม่จำเป็นต้องขอจากผม เมื่อไรที่ยอมเปิด ทางนายกฯฮุน มาเนต ก็พร้อมจะทำตามทันที
อ- พร้อมให้เปิด แต่ต้องเป็นการตกลงร่วมกัน ถ้าให้ยอมๆๆ อ๊ิงค์ก็จะโดน
ฮ- ไม่หรอก ทางนี้ไม่มีอะไรตกลง ทางนั้นเป็นผู้เริ่มต้น ทางนั้นเป็นผู้ก่อเหตุ แล้วอยากรักษาหน้าตาตัวเองกลับโยนมาให้ทางนี้ทำ ไม่ได้หรอก เรื่องนี้ไม่ต้องเจรจา มีแต่ทางนั้นต้องทำก่อนอย่างเดียว ทางนี้ไม่ต้องเจรจาอะไร แต่จะให้สัญญาว่าทางนั้นยกเลิกคำสั่งปิดด่านชายแดนแล้ว ทางนี้พร้อมทำตามอย่างช้า 5 ชั่วโมงให้หลัง ผมรับประกัน ให้ตัดหัวผมทิ้งได้
อ- ขอให้เห็นใจหลานด้วย
ฮ- ผมเข้าใจ ผมเห็นใจ แต่ไม่อาจเอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกเปลี่ยนกับความนับถือกันได้หรอก เพราะนี่คือหน้าตาของประเทศกัมพูชา เรื่องอะไรที่จะให้ประเทศกัมพูชาไปเจรจาเรื่องการขอให้เปิดด่าน เมื่อตัวเองปิดเอง ก็ต้องเปิดเองสิ
- และอาขอบอกให้หลานทราบชัดๆ อีกว่า ทางนี้ได้เตรียมไว้อีกขั้นหนึ่ง พรุ่งนี้ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น พรุ่งนี้ทางกัมพูชาจะทำอีกขั้นหนึ่ง คือปิดการนำเข้าผลไม้และผักตามแนวชายแดนกัมพูชาไทยทั้งหมด กำลังเตรียมดำเนินการในวันพรุ่งนี้
- ทางนี้ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ทั้งนี้เพราะทางนั้นก่อเรื่องก่อน พอก่อเรื่องแล้วจะมาชวนให้ไปเจรจา อยากจะถามว่า แล้วใครล่ะที่ปิดด่านผ่านแดน ก็คือทหารไทย มีแต่ทหารไทยต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่เห็นต้องเรียกให้กัมพูชาไปเจรจา กัมพูชาไม่เจรจาอย่างเด็ดขาด
อ- จะลองคุยกับกลาโหมดู แต่ที่ท่านโพสต์เฟซบุ๊ก ทำให้รัฐบาลสั่นคลอนที่สุด แต่ไม่อยากออกมาตอบโต้ อยากได้อะไรยกหูมาบอก
ฮ- ข้อนี้ กัมพูชาก็มีเรื่องหนึ่งคือการเผชิญหน้ากับประชาชนของตัวเอง และกัมพูชาจำเป็นต้องอธิบายไปยังส่วนอื่นๆ ด้วย กัมพูชาต้องสื่อสารไปยังประชาชน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือมีแต่ต้องใช้เฟซบุ๊กและเทเลแกรม เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น เดิมทีผมก็จะลดการสื่อสารลงแต่ถ้าทำแล้วทางนั้นก็ยังคงปิดด่านอยู่ดี มันติดอยู่ที่การปิดด่านนี่แหละ หากยังคงปิดด่านต่อไป ทางนี้ก็ยังคงโพสต์เผยแพร่ต่อไป
อ- จะกลับไปคุยกันก่อนจะแจ้งให้ทราบ
- ก่อนจะจบผมขอย้ำให้ชัดอีกครั้งว่า ทางนี้ต้องการเพียงอย่างเดียว คือ ต้องการให้ทางนั้นยกเลิกคำสั่งปิดด่านพรมแดนทั้งหมดให้กลับสู่ภาวะปกติดังเดิม ทางนี้จะตอบรับทำตาม และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเจรจาระหว่างกัมพูชากับไทยแต่อย่างใด เพราะว่าไทยเป็นผู้ปิด ดังนั้น ไทยต้องเป็นผู้เปิด ส่วนกัมพูชาก็จะเดินตามหลัง
อ- จะแจ้งกลับมา
ฮ- ผมจะรอ ผมจะรอ
(สรสาสน์ - ผู้แปล)
6. สุดท้าย ฝากให้คิดตาม ดร. ปิติ ศรีแสงนาม ถามถึงพ่อของคนบางคน
“คุณเป็นพ่อภาษาอะไร ทำไมอำมหิตขนาดนี้
ผมมีลูกสองคน ผมรักพวกเขาอย่างที่สุด สิ่งที่ผมจะไม่มีทางทำกับลูกของผมคือ
1. เพียงเพื่อรักษาอำนาจของตัวคุณเอง คุณพร้อมที่จะส่งลูกที่ยังไม่มีความพร้อม ทั้งความรู้ ทัั้งความสามารถ ทั้งประสบการณ์ เข้าสู่สถานที่ที่มีแต่พวกเขี้ยวลากดิน หน้าไหว้หลังหลอก พร้อมจะทรยศหักหลัง ฯลฯ
2. เพียงเพื่อที่จะทำให้คุณยังสามารถใช้อำนาจ คุณวางตำแหน่งให้ลูกของคุณเป็นเพียงแค่หุ่นเชิด คอยทำตามแผนการณ์ตามที่คุณวางเอาไว้ คอยรับออเดอร์ที่คุณสั่งเอาไว้ ไม่ได้เห็นเลยว่าลูกคุณจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีหรือไม่
3. และในเวลาที่คุณเจอปัญหาส่วนตัวคุณเอง คุณกลับเพิกเฉยที่จะเสือกเหมือนกับที่คุณเคยทำ เพราะคุณมัวแต่จิตตกกับปัญหาส่วนตัว จนคุณส่งลูกคุณไปดีลกับอสรกุ๊ยข้ามชาติ พูดจาพล่อยๆ แบบไม่เดียงสา เอาความจริงของคุณกับลูกไปโพนทะนากับศัตรู รับใช้ รายงาน รับออเดอร์จากศัตรู คุณหายหัวไปไหน ในวันที่ลูกคุณต้องการคุณมากที่สุด ในการทำเรื่องที่ยากที่สุดแทนคุณ โดยที่เขาไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ ไม่มีประสบการณ์
4. แล้วต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าลูกคุณต้องหนีคดีอาญา หมวด 3 มาตรา 119-120-121-122-123-124 ที่ไม่มีอายุความ และมีโทษอาจจะถึงประหารชีวิต แน่นอนคุณมีเงิน คุณก็อาจจะให้ลูกของคุณหนี ไปใช้ชีวิตหรูหราอยู่ต่างประเทศราวกับเจ้าหญิง มีเหลือกิน มีเหลือใช้ แต่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ลูกคุณพึ่ง 30 ปลายๆ เองนะ ทั้งชีวิตที่เหลือจะเป็นยังไง
5. แล้วหลานคุณล่ะ เขาจะต้องมารับกรรมอีก เพราะจากนี้ต่อไปเขาจะถูกพูดถึง ถูกล้อเลียน ถูกพูดจาลับหลังว่า คุณตาของเขาโกงชาติ คุณแม่ของเขาขายชาติ
คุณมันเป็นพ่อ เป็นตา ที่อำมหิตจริงๆ คุณอาจจะประสบความสำเร็จในการวิ่งเต้น ใช้เส้นสายจนคุณผูกขาดธุรกิจสร้างความร่ำรวยระดับหมื่นล้านแสนล้าน แต่คุณล้มเหลวในสิ่งที่แม้แต่ยากจกเข็ญใจก็ทำได้ นั้นคือ การเป็นพ่อที่ดี”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี