การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันที่ 28 มิถุนายนนี้น่าจะไปได้สวย เพราะคนไทยส่วนมากไม่เอานายกรัฐมนตรีชื่อแพทองธาร แต่แล้วก็มีช่องโหว่ให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีและบ่อนทำลายการชุมนุมจนได้
เริ่มตั้งแต่มีการปล่อยคลิปคุณสนธิ ลิ้มทองกุล วิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งมีข้อความปั่นกระแสว่า “ในการชุมนุมจะมีการวิจารณ์ลุงตู่” คนที่รักลุงตู่ก็ลมออกหู หลายคนประกาศไม่ไปร่วมชุมนุมด้วย ทั้งที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไป จนคุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ต้องออกมาแก้ข่าวว่าไม่จริง
เรื่องที่ 2 มีการเรียกร้องให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ถอนตัวจากการร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่คุณพีระพันธ์ุก็ร่วมจนได้ ประชาชนที่ผิดหวังก็ตั้งคำถาม แต่ไม่มีเหตุผลจากคุณพีระพันธ์ุ
มีข่าวว่าคุณพีระพันธ์ุขอพบพล.อ.ประยุทธ์ แต่ท่านปฏิเสธ เพราะถ้ายอมให้เข้าพบ ท่านก็เสียหาย เพราะผู้คนก็จะมองท่านว่าเป็นผู้บงการหรือมีส่วนรู้เห็นกับคุณพีระพันธ์ุ
คนที่รู้ข่าวนี้ก็เข้าใจได้ทันทีว่าคุณพีระพันธ์ุต้องการเอาพล.อ.ประยุทธ์เป็นเครื่องมือของตนแบบเนียนๆ
เมื่อเสียงประชาชนเรียกร้องมากขึ้นให้พรรครวมไทยสร้างชาติออกมาบอกเหตุผล อย่างน้อยก็เรื่อง “มติพรรคที่ให้คุณพีระพันธ์ุไปเสนอพรรคเพื่อไทย(ทักษิณ)เปลี่ยนตัวนายกฯถ้าไม่เปลี่ยน พรรครวมไทยสร้างชาติก็จะไม่ร่วมเป็นรัฐบาล” ว่าเป็นอย่างไรกันแน่
คุณพีระพันธ์ุตีฝีปากบอกนักข่าวว่า มติพรรคให้ไปบอกกับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ให้มาบอกกับสื่อมวลชน!
ต่อมาคุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคได้ออกมาให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวที่สรุปได้ว่า การตัดสินใจร่วมเป็นรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับเขา แต่เขาในฐานะเป็นกัปตันก็ต้องตัดสินใจเข้าร่วมเป็นรัฐบาล “เพื่อช่วยนายกฯแก้ปัญหาของประเทศชาติต่อไป”
คนที่ไม่พอใจก็ก่นด่ากันสนั่นโลกออนไลน์ คนที่เชียร์ก็ออกมาด่าและค้านพวกที่ก่นด่า ด้วยการยกเอาผลงานเก่าที่คุณพีระพันธ์ุเคยทำไว้และปัจจุบันก็กำลังออกกฎหมายเกี่ยวกับพลังงาน มาเป็นยันต์กันเหนียวให้คุณพีระพันธ์ุ
ส่วนผมก็เขียนในเฟซบุ๊กค้านคุณเอกนัฏว่า รัฐบาลก็เรื่องหนึ่ง ประเทศชาติก็เรื่องหนึ่ง
รัฐบาลไม่ใช่ประเทศชาติ ประเทศชาติก็ไม่ใช่รัฐบาล
แต่เหตุที่ประเทศชาติมีปัญหาก็เพราะนายกฯที่พรรคของคุณเข้าไปแบกนั่นแหละ จึงทำให้ตัวปัญหาของประเทศเป็นนายกฯ อยู่ต่อไปอีก แล้วโยนความผิดไปให้ประเทศชาติว่ามีปัญหา
เพื่อพรรคของคุณจะได้ใช้เป็นข้ออ้างเกาะเก้าอี้ต่อไป!
เหตุผลแบบของคุณมีมาเยอะแล้ว แต่สรุปได้ว่า “จำเป็นต้องเสียสละเพื่อประเทศชาติ” ซึ่งบอกตามตรงว่าผมไม่แปลกใจพวกคุณเลย
และก็มีคนอีกจำนวนมากก็เขียนในเฟซบุ๊กของตนที่ประกาศไม่เอาพรรครวมไทยรักษาชาติอีกต่อไป จึงเป็นความขัดแย้งที่กองเชียร์คุณพีระพันธ์ุส่วนหนึ่ง ประกาศว่าจะไม่ไปร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เมื่อวาน (24 มิย.) พรรครวมไทยสร้างชาติออกมาบอกว่าคณะรัฐมนตรีได้มติให้ผ่านเรื่องโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาแล้ว โดยจะมีส่วนลดภาษีสูงสุด 200,000 บาท กองเชียร์คุณพีระพันธ์ุสุดปลื้ม
ส่วนผมก็บอกว่าพลังงานทางเลือกนั้นดีแต่ไม่ได้ใช้กับทุกคนและทุกคนไม่ได้ใช้ ด้วยความจำเป็นและเหตุผลที่แตกต่างกันไป
ทุกคนใช้น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานหลัก คนไทยหวังจะให้ราคาเป็นธรรม คนที่เชียร์คุณพีระพันธ์ุยิ่งหวังสูงและเชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้ แต่ผมมั่นใจว่าถ้า “ทักษิณเจ้าพ่อพลังงาน” ไม่โอเค 18 เสียงของพีระพันธ์ุก็ทำอะไรไม่ได้
ต่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีแทนแพทองธารก็ทำไม่ได้
เมื่อทำไม่ได้ จำเลยก็มีอยู่แล้วคือนายทุนพลังงาน ว่าขัดขวาง กองเชียร์ก็ไปด่านายทุนกัน!
นายทุนพลังงานก็คือคนที่พีระพันธ์ุเข้าไปซูฮกนั่นแหละ
วนเป็นหมาไล่งับหางตัวเองไปเรื่อยๆ
และเขียนสรุปว่า...คนจำนวนมหาศาลกำลังสู้เพื่อประเทศชาติ “ในระดับประเทศชาติ” แต่กองเชียร์พีระพันธ์ุยังสู้เพื่อพีระพันธ์ุกับพลังงานราคาถูกอยู่ไม่เลิก “ในระดับตัวบุคคลและนโยบาย”
มองไม่เห็นว่าอะไรสำคัญกว่ากัน บางคนยังพาลไปโจมตีการชุมนุมที่จะมีขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอีก! จึงกลายเป็นแรงเสียดทานกันเองของฝ่ายอนุรักษนิยม
ใครที่เห็นประเทศชาติสำคัญกว่าตัวคุณพีระพันธ์ุและความฝันถึงพลังงานราคาถูกก็ขอให้ไปเป็นกำลังใจแก่กันในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ครับ
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี