หมู่นี้พายุต่างๆ ทยอยกันเข้าประเทศในเอเชียอาคเนย์ ซึ่งก็รวมทั้ง ประเทศไทย ลาว เมียนมา กัมพูชา สารขัณฑ์ และจีน
พายุ “มังคุด” ที่คนไทยตั้งชื่อไว้ ก็ถาโถมเข้ามาในเอเชียอาคเนย์ระหว่าง 7-17 กันยายน
ถัดมาก็มี พายุ “จ่ามี” ซึ่งเวียดนามตั้งไว้ ก็เข้ามาเมื่อ 20 กันยายน หลังจากพายุ “มังคุด” ไม่กี่วัน
อีกสัปดาห์หนึ่งก็มีพายุ “กองเร็ย” ซึ่งกัมพูชาตั้งชื่อไว้ เข้ามาทางชายฝั่งเวียดนาม จนถึงลาว ตั้งแต่ปลายกันยายน จนบัดนี้คงจะค่อยๆ จางหายไปแล้วตามธรรมชาติของพายุหมุนเขตร้อน
ทำให้นึกถึงร้อยเอก “กองแล” ของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นผู้นำก่อรัฐประหารขึ้นในเวียงจันทน์ เมื่อ 9 สิงหาคม 2503 เพื่อล้มรัฐบาลฝ่ายขวา และทำให้รัฐบาลฝ่ายซ้ายของเจ้าสุวรรณภูมา ได้เข้าเป็นนายกรัฐมนตรี ของขบวนการประเทศลาว ซึ่งในปี พ.ศ.2518 ก็ได้ล้มเลิกกษัตริย์ และจัดตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวขึ้น
การเลือกข้าง หรือเลือกกลุ่ม หรือเลือกวิธีการ ในโอกาสที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักปฏิวัติรัฐประหาร หากเลือกวิธีการที่ดี วิธีการที่ถูกต้อง และกลุ่มที่มีแต่ความดีงาม หัวหน้าคณะรัฐประหารก็จะไปรอด ได้รับความสนับสนุนจากประชาชนที่อยู่ในความดีงาม และจะจบชีวิตการเมือง หรือลงจากหลังเสือลงได้ อย่างสง่างาม เช่น พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา
แต่ถ้าหากเลือกทางที่ไม่ดีงาม เลือกวิธีการที่ไม่ดีงาม มีการดูดการหา สส. น้ำเน่า เข้ามาเป็นฐานสนับสนุนก็มักจะจบชีวิตของการเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหาร แบบที่ว่าไม่ได้กลับมาจบชีวิตลงในประเทศของตน
พันเอก “กองเลย” แห่งประเทศสารขัณฑ์ ก็คงจะได้ศึกษาชีวประวัติของจอมพลหลายคนในประเทศเพื่อนบ้าน ในอดีต ที่เลือกการเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อสืบต่ออำนาจ โดยใช้วิธีดูดเสียง ซื้อเสียง โดยใช้ตำแหน่งในคณะรัฐบาลเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน หรือที่เรียกว่าการเมืองน้ำเน่า หรือธุรกิจการเมือง โดยการเอานักธุรกิจการเมืองเก่าๆ เข้ามาเป็นพวก ซึ่งจะนำไปสู่ความหายนะในระยะยาว
พันเอก “กองเลย” แห่งประเทศสารขัณฑ์ จึงตัดสินใจพลิกกระดาน ไม่เอาระบบ Parliamentarian Democracy ซึ่งจะต้องใช้เงิน ใช้ตำแหน่ง เข้าล่อเอา สส. มาสนับสนุน เป็นการเอาระบบ Professional Democracy หรือ ประชาธิปไตยแบบมืออาชีพ เข้ามาใช้แทน
แล้วพันเอกกองเลย ก็เตรียม สมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร (นายกรัฐมนตรี) โดยไม่ต้องซื้อเสียง ดูดเสียง หรือหาเงินในทางที่มิชอบ มาสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของตน
การสืบทอดอำนาจของพันเอกกองเลย จึงเป็นการสืบทอดอำนาจด้วยวิธีการที่ดีงาม ถูกเลือกโดยคนดีมีความสามารถในระดับนักบริหารแขนงต่างๆ ของประเทศ
พันเอกกองเลยมาถึงทางสองแพร่ง แพร่งแห่งธุรกิจการเมือง (การเมืองน้ำเน่า) หรือแพร่งแห่งอำนาจการปฏิวัติ แต่พันเอกกองเลยเลือกทางแพร่งใหม่ เรียกว่า ประชาธิปไตยแบบมืออาชีพ (Professional Democracy) มาใช้ในประเทศสารขัณฑ์ จึงถือว่าเลือกทางที่ถูกต้อง ดีงาม
รัฐบาลก็จะเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ สามารถดำเนินต่อเนื่องแผน 10 ปี 20 ปี ที่ทำไว้ได้อย่างสวยงาม
ประชาชนชาวสารขัณฑ์ ก็จะอยู่เย็นเป็นสุข ไม่ต้องมีนักการเมืองน้ำเน่า หรือผู้หาประโยชน์จากรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ มาสูบเลือดเนื้ออีกต่อไป
ประเทศสารขัณฑ์ ก็แทบจะเป็นประเทศในยุคของพระศรีอาริย์ ตามที่ชาวสารขัณฑ์ใฝ่ฝันไว้
ศิริภูมิ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี