เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเร็วๆ นี้ ให้พรรคกิจสังคม สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง เนื่องจากนายทองพูล ดีไพร หัวหน้าพรรค มีหนังสือแจ้ง ยืนยันการเป็นสมาชิกต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง มีเพียง 8 คน ทำให้ต้องเลิกพรรคตามระเบียบของพรรคและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับ
พรรคกิจสังคม (Social Action Party) หรือขานเรียกว่าตามตัวย่อภาษาอังกฤษว่าพรรคแสบ (SAP)ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
ท่านได้ให้เหตุผลในการตั้งพรรคว่า บ้านเมืองของเราเริ่มจะเป็นประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่ทุกๆ คนปรารถนา ที่นี้ผมเองและพวกพ้อง ลูกศิษย์ ลูกหาที่เขาทำการงานไปแล้วหลายคน มาคิดกันว่า ประชาธิปไตย นี่ความจริงก็เป็นสิ่งที่เราต้องการกันทุกคนในเมืองไทย
แต่เมื่อมีประชาธิปไตยแล้ว มันก็ไม่ควรจะคิดว่า เราจะได้อะไรจากประชาธิปไตย เราควรจะคิดว่าเราจะให้อะไรแก่ประชาธิปไตย ซึ่งเราทุกคนปรารถนานั้นได้ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เราก็อยากให้เท่าที่เรามีจะให้ได้คือ ก็เรียกว่าประสบการณ์ของเรา ความสามารถของเรา ความเสียสละ และความจริงใจของเราที่จะทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว เรายังเห็นว่า บ้านเมืองนี้ ยังต้องการคนที่พร้อมจะเสียสละ ทำการงานอีกมาก โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทน ก็เลยตั้งพรรคกิจสังคม เพื่อที่จะมีส่วนเข้าส่งเสริม แล้วก็รักษาระบอบประชาธิปไตย แล้วก็ทำการงานให้บ้านเมืองตามระบอบประชาธิปไตยจะอำนวยให้
ครับ!!ข้อมูลเหล่านี้รวมทั้งภาพประกอบ ผมย่อมาจากคลังความรู้ต่างๆ รวมทั้งหนังสือ “สี่แผนดิน” กับ “หลายชีวิต” ของคึกฤทธิ์ ปราโมช และเว็บไซต์ sarakadee.com ต้องขอขอบคุณมานะโอกาสนี้ ที่ได้เป็นข้อมูลในการเล่าความหลังบางประเด็นให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้กัน
หลังการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมกราคม พ.ศ. 2518 พรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดคือพรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช วัย 70 ปี จึงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่แล้วสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จากพรรคเล็กต่างๆ กลับจับมือกันโหวตไม่อนุมัตินโยบายรัฐบาล ยังผลให้รัฐบาลของ “หม่อมพี่” ถึงกาลอวสานลงตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2517 จากนั้น ทุกสายตาจึงหันมาจับจ้อง “หม่อมน้อง” ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ หัวหน้าพรรคกิจสังคม ผู้สั่งสมบารมีมาหลายสิบปี
แต่ขณะนั้นพรรคกิจสังคมมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในสภาเพียง 18 เสียง จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม เพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส. 269 ที่นั่ง รัฐบาลชุดที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงมีพรรคร่วมรัฐบาลมากเป็นประวัติการณ์ถึง 12 พรรค และกลายเป็นตำนานของ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ไปตลอดกาล
นโยบายแนวประชานิยม เช่น รถเมล์ฟรี รักษาพยาบาลฟรี ค่าเล่าเรียนฟรี ประกันราคาพืชผล ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาแล้วตั้งแต่รัฐบาลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ทว่า สิ่งที่ทำให้นายกฯ คนนี้เป็นที่จดจำสืบมาอีกยาวนาน คือ “เงินผัน” นโยบายเร่งด่วนด้วยการจัดสรรงบประมาณ 2,500 ล้านบาท มอบให้สภาตำบลทั่วประเทศใช้จ้างแรงงานท้องถิ่น ทำโครงการที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ เช่น สร้างถนน สร้างโรงเรียน ขุดคูคลอง ทำฝายเก็บน้ำ
เงินผัน 2,500 ล้านบาทในปี พ.ศ.2518 เมื่อก๋วยเตี๋ยวราคาชามละ 3 บาท ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ มีเสียงคัดค้าน เสียงตำหนินโยบายนี้มากมาย บ้างล้อเลียนว่าเป็น “เงินผลาญ” หรือ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” รวมทั้งได้รับข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่าเต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่น คุณชายโต้ข้อกล่าวหานั้นว่า “ถ้าจะพูดถึงคอร์รัปชั่น ผมยอมรับ มันมี ไม่ได้มากมายอะไร...ก็โครงการเงินผันนั้น ราษฎรมีโอกาสครั้งแรกตั้งแต่ตั้งเมืองไทยมา ที่จะได้คอร์รัปชั่นกับเขาบ้าง (ฮา)...”
ในเพลงลูกทุ่ง บทเพลงของชาวบ้านไทยซึ่งบันทึกความเคลื่อนไหวในสังคมไว้เสมอ เพลิน พรหมแดน ยั่วล้อ “เงินผัน” ของท่านนายกฯ ในเพลง “คึกลิด คิดลึก” ว่า
คึกลิดเป็นคนคิดลึก
กลางคืนดื่นดึกนั่งนึกนอนคิด
คิดช่วยคนยากคนจน
ให้สภาตำบลสร้างถนนเชื่อมติด
พวกเราก็ไปรับจ้าง (ซ้ำ)
ขุดคลองสร้างทางเอาสตางค์คึกลิด
(ถาม) เอ...นี่พวกเราจะตั้งชื่อคลองนี่ว่าคลองอะไรดี
(ตอบ หมู่) คลองคึกลิด
(ถาม) แล้วก็ถนนนี่ล่ะ
(ตอบ หมู่) ถนนคึกลิด
(ถาม) อืม...แล้วก็สะพานนี่ล่ะ
(ตอบ หมู่) สะพานคึกลิด
(ถาม) เอ...เดี๋ยวๆ นี่อะไรๆ ก็ทำหมดแล้วเนี่ย ก็แล้วปีหน้าจะมีอะไรให้เราทำอีกบ้างล่ะครับ
(ตอบ) มันจะไปยากอะไรล่ะครับ ปีหน้าก็ขุดถนนให้มันเป็นคลอง แล้วก็ถมคลองให้เป็นถนน ทำกลับไปกลับมาได้ตั้งหลายครั้ง สบายมาก..
ต่อมา ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้รับพระราชทานยศเป็น “พลตรี” และถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ 9 ตุลาคม 2533 ถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทยช่วงหนึ่ง ให้คนรุ่นหลังได้รู้กัน
ฝากความระลึกถึง ครูนิยม คำแหง อดีต สส.พรรคกิจสังคม จ.นครศรีธรรมราช ท่านเป็นนักการเมืองในสภาคนแรก ที่ผมได้พูดคุยด้วยเมื่อปี 2518 ท่านเป็นคนดี ช่วยเหลือชาวบ้านยามตกทุกข์ได้ยากเสมอต้นเสมอปลาย มาจนถึงทุกวันนี้ ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี