“ข่าวสดออนไลน์” ขึ้นต้นข่าวว่า “เทือกโดนอีก” ก่อนจะรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 5 พ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ สมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินคารวะแผ่นดินบริเวณตลาดนัดคลองถม ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมกับชูป้าย คนธรรมดา สร้างชาติ พรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง มีอดีตแกนนำ กปปส.ระยองร่วมเดินคารวะดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นายสุเทพ เดินอยู่นั้น พ่อค้าคนหนึ่ง ตะโกนขึ้นว่า “เศรษฐกิจแย่ จะตายอยู่แล้ว ยังมาเดินหาเสียงอีก”
ผมอ่านข่าวนี้แล้ว รู้สึกแปลกๆ อยู่หลายประการ
1) การเดินคารวะแผ่นดินของพรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นสิทธิในการออกหาสมาชิกของพรรคการเมือง และได้ขออนุญาตคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว
2) เศรษฐกิจแย่ กับการออกทำกิจกรรมของพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ถ้าจะอ้างว่า นายสุเทพ เคยเป็นแกนนำ กปปส. นำมวลชนมาชุมนุม สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ ก็ต้องตอบให้ได้ว่า มันผ่านมากี่ปีแล้ว ราคาพืชผลทางการเกษตรมันเพิ่งจะมาตกต่ำเอาตอนนี้หรือเปล่า เศรษฐกิจย่ำแย่มาตลอดเลยไหม ตอบแบบใช้เหตุใช้ผล ใช้สติปัญญากันนะครับ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ ควรจะบ่น ว่านอกจากเข้ามาควบคุมสถานการณ์ที่จะฆ่ากันตายไปข้างหนึ่งแล้ว ยังต้องมาหาเงินจ่ายค่าโกดังข้าว ค่ารักษาสภาพข้าว และหนี้จำนำข้าวที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซุกไว้กับ ธ.ก.ส. เป็นจำนวนมหาศาล นั่นละ ตัวบ่อนทำลายสภาพคล่องและเศรษฐกิจอย่างหนึ่งเลยละ แต่ที่เหลือคือความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เอง พูดกันตรงๆ เถอะ
3) ส่วนพรรคการเมือง โดยเฉพาะที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ต้องหาสมาชิกให้ได้ตามที่กฎหมายกำหนดในแต่ละพื้นที่ เพื่อที่จะสามารถส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่นั้นๆ ได้เป็นพันธกิจที่กฎหมายบังคับไว้
4) กลายเป็นเทรนด์ของการนำเสนอข่าวไปแล้ว ว่าวันนี้ ใครจะตะโกน ชูป้าย หรือแสดงออกในทางคัดค้านอย่างไร ขณะที่ป้ายสนับสนุน บรรยากาศเชิงบวก ไม่ถูกรายงาน
5) เมื่อเป็นข่าว ก็มีคนอยากเป็นข่าวลัทธิเอาอย่างก็เกิดเป็นระลอก สมใจสื่อบางประเภท
6) บรรยากาศเช่นนี้ จะนำไปสู่อะไร เป็นเรื่องชวนคิด
5 พ.ย.2561 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว “Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์” ระบุว่า “ผมมีความวิตกกังวลว่าการเลือกตั้งจะเป็นปัญหา ผมเห็นว่าการเดินหาเสียงของพรรคการเมืองหนึ่งนั้น ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพ แต่การก่อตัวที่ไม่เป็นธรรมชาตินั้น จะก่อให้เกิดมีการจัดการ ส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองอื่นที่จะมีการเดินในเวลาต่อมา เมื่อมีประชาชนต่อต้าน ท้ายที่สุดจะนำไปสู่การตีความว่านี่คือการนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และเมื่อไม่สงบก็ไม่มีการเลือกตั้ง”
7) พรรครวมพลังประชาชาติไทยต้องหยุดหาสมาชิกไหม ไม่ต้อง ไม่ใช่ความผิดอะไรของเขา เป็นสิทธิของเขา แต่ใครจะหยุดบรรยากาศแบบนี้ และบรรยากาศแบบนี้จะหยุดแค่นี้หรือไม่ ในสังคมที่แต่ละคนยังมีความเป็นขั้วเป็นข้าง เป็นพวกมึง-พวกกู กันอยู่
6 พ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ออกมากล่าวถึงกรณีที่ถูกชายอ้างว่าเป็นชาวปราจีนบุรี คืนนกหวีดให้ระหว่างการปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2561 ที่ จ.ปราจีนบุรี ว่า ชายคนดังกล่าวได้เดินทางมาเพื่อจะยื่นนกหวีดให้ตนเป่า แต่ตนไม่ยอมเป่า เพราะกลัวชายคนดังกล่าวจะติดหวัด จากนั้นชายคนดังกล่าวก็บอกจะมอบนกหวีดให้ และตนก็เดินต่อไป แต่ไม่ทราบว่าที่ จริงชายคนดังกล่าวตั้งใจจะมาป่วน เพราะได้ยินเสียงเอะอะอยู่ที่อีกฝั่งถนน ซึ่งตนไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะต้องการเดินอย่างสันติ
อย่างไรก็ตาม ต่อมารับทราบจาก นายสุริยะใส กตะศิลา และทีมงานว่า เขาเตรียมการมาแล้ว เพราะมีรถปิกอัพมาจอดอยู่อีกฝั่งถนน ขณะที่ชายคนดังกล่าวยื่นนกหวีดให้ตน ก็มีกล้องถ่ายมา แล้วนำไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เหมือนว่า คนปราจีนบุรีเอานกหวีดมาคืน ซึ่งทีมงานไปตรวจสอบแล้วทั้งคนทั้งรถแล้ว ทราบว่าไม่ใช่คนปราจีนบุรี
“ผมไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรหรอกครับพี่น้อง เพราะผมมั่นใจว่าผมกำลังทำความดี ผมกำลังทำสิ่งดีๆให้กับบ้านเมือง คนอย่างผมไม่ได้มุ่งหวังที่จะมีตำแหน่งทั้งในทางการเมืองในพรรค หรือตำแหน่งการเมืองในสภา เพราะผมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และผมไม่หวังที่จะมีตำแหน่งในรัฐบาล เพราะผมประกาศแล้วว่าไม่รับตำแหน่งใดทั้งสิ้น เพียงแต่ทำหน้าที่พลเมืองไทยคนหนึ่งที่อยากจะเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย เห็นการเลือกตั้งเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม อยากเห็นการเมืองที่ดี การเมืองที่ทำงานการเมืองเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ ผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง จึงตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ขึ้น เพื่อเป็นของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของนายทุน” นายสุเทพ กล่าว
8) 31 ต.ค.2561 นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “Paisal Puechmongkol” ระบุว่า “น่าสงสารลุงกำนัน! คงเหนื่อยไม่น้อย ไปเดินคารวะแผ่นดินที่ไหน ในวันนี้ บรรยากาศต่างกับเมื่อครั้ง กปปส.ชุมนุมขับไล่ นักการเมืองขี้โกงดุจหนังคนละม้วน ประชาชนเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ไม่ได้เป็นสมบัติของพรรคหรือนักการเมืองคนไหน ประชาชนในพ.ศ. นี้ ตื่นรู้เป็นอย่างดี เพราะได้ผ่านวิกฤติ และต่อสู้ด้วยความยากลำบาก ต่อเนื่องมาถึง 15 ปีแล้ว เขารู้ดี ว่าใครทำอะไร!”
9) ผมโพสต์เฟซบุ๊ค ปู-จิตกร บุษบา เมื่อวันก่อนว่า...
ผมว่าคนที่ออกมามี “ปฏิกิริยา” กับการ “เดิน” 2 เดิน คือ “เดินหน้าต่อทางการเมือง” กับ “เดินคารวะแผ่นดิน” ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น มี 2 กรณี คือ
1.เป็น กปปส. ที่ไม่เข้าใจ ว่าท่านหวนคืนวงการเมืองทำไม ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดหรอกนะครับ ว่ามาเป็นโค้ช ไม่ได้มาเล่นเอง เพราะเท่าที่เห็น เล่นเองทุกวัน ดังนั้น สื่อสารในประเด็นสำคัญ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แน่ชัด สิ้นระแวงแคลงใจกันดีกว่า ว่ามาทำไม
2.คนกลุ่มนี้คงรักท่านมาก มากจนกระวนกระวาย หงุดหงิด ผิดคาด หรือผิดหวัง แล้วต้องการแสดงออก เพราะคนที่ไม่แสดงออก เขาก็อยู่เฉยๆ ของเขา คุณจะทำอะไรก็ทำเถอะ ชีวิตของคุณ สิทธิของคุณ เนอะ
3.คนที่ไม่ชอบท่านอยู่แล้ว พวกนี้ทั้งด่าทั้งป่วน ทั้งเย้ยหยันสารพัด และทำกันเป็นขบวนการ
4.ผมไม่รู้ว่า พลังของกำนัน จะต้านระบอบทักษิณได้แค่ไหน (เพราะเห็นกองเชียร์ท่าน บอกว่าท่านมาช่วยต้านระบอบทักษิณไม่ให้กลับมามีอำนาจ) เมื่อเทียบกับพลังของลุงตู่ กฎหมายที่ออกแบบไว้ และอำนาจที่ คสช. ยังคงมีอยู่ ผมว่ากำนันไม่เหลืออะไรที่จะไปต้านระบอบทักษิณแล้วนะครับ นอกจาก “อุดมการณ์” แต่ก็นั่นแหละ จะให้ชูจุดขายอะไรครับ ผมจะปฏิรูป อ้าว!! แปลว่าลุงตู่ไม่ปฏิรูปสินะ เฮ้ย ไม่ได้ว่ะ ผมก็ต้องต้านระบอบทักษิณนั่นละ มีทางเดียวที่จะใช้ได้
5.อันที่จริงมาถึงขนาดนี้แล้ว รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปเลยเถอะ เพราะอย่างไร คนที่เชียร์ ยังไงเขาก็เชียร์ คนไม่เชียร์ ยังไงเขาก็ไม่เชียร์ จะประดักประเดิดอยู่ทำไม
6.หรือไม่ก็ลดบทบาทลงหน่อย ดันคนอื่นให้ชัด เป็นโค้ชให้ถูก คือ หนุนนักกีฬา ไม่ใช่เล่นเอง
7.สโลแกน “คนธรรมดาสร้างชาติ” ดี๊ดีนะครับ คนรุ่นใหม่ในพรรคก็ดี๊ดีนะครับ ตรงนั้นคือ “จุดแข็ง” ที่สะอาด บริสุทธิ์ และไฟแรงดีด้วย ลองปรับโฟกัสใหม่ ถอยบทบาทลุงลงมาให้ “พอดีๆ” ไม่ “ตำตา” ใครมาก น่าจะไปได้สวย
แต่เอาเถอะ
• ให้ลุงกำนันแกใช้สิทธิของแกไปสิครับ หมดศรัทธา หรือไม่ร่วมด้วย ก็ไม่เป็นไร ทางใครทางมัน
• ไม่ต้องไปทะเลาะกับกองเชียร์ของแกหรอกครับ คนเชียร์ก็เพราะเขารัก เขาศรัทธา คนไม่มีศรัทธาหรือหมดศรัทธาแล้ว กับคนที่ศรัทธาล้นเหลือ คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ตีกันตาย ง่ายสุดคือ เชียร์ใครก็เชียร์ ไม่เชียร์ใครก็ไม่ยุ่ง
• ให้กาลเวลาพิสูจน์คนต่อไป แม้เวลานี้ หลายคนอาจคิดว่าเห็นเฉลยแล้ว แต่มันยังมีอีกหลายปม ที่ต้องรอคำตอบต่อไป ดูเพลินๆ ดูให้ผ่อนคลาย คิดเสียว่านี่คือ “เลือดข้นคนจาง” 555
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ควรออกมาเตือนคนที่ป่วน “กิจกรรมทางการเมือง” ที่ได้รับอนุญาตนี้บ้าง ก่อนที่ลัทธิเอาอย่างจะลุกลามไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความสนุกของสื่อบางสำนัก
เผลอๆ เราอาจได้เห็นการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ถ้าสื่อและประชาชนคนไทยทั้งร่วมกันผลิตบรรยากาศเช่นนี้เพิ่มเติม และนั่นจะช่วยให้ “เศรษฐกิจดีขึ้น” ไหม เออ...ตอบไม่ได้จริงๆ แต่อยากเห็นการคิดอะไรให้เป็นเหตุเป็นผลให้มากขึ้น ขัดแย้งกันมาพอหรือยัง? มีความสุขกับความต่างกันดีใช่ไหม?
ในพื้นที่ข่าวใกล้เคียงกันนั้น ข่าวสดออนไลน์ก็รายงานว่า...
“...เผยภาพเยาวราชแตก! เมื่อธนาธรลุยหาสมาชิก ‘อนาคตใหม่’ ไร้ป่วน จ่อลุยต่อสีลม!...”
เอ! แม่ธนาธร ถือหุ้นในข่าวสดด้วยไหมนะ?!?!?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี