คนไทยจำนวนไม่น้อยมีความฝันว่า ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562จะเกิดการเลือกตั้ง สส. ในประเทศไทย กลุ่มคนที่ฝันในเรื่องนี้มากที่สุดเห็นจะได้แก่กลุ่มที่ประกาศตัวว่า “อยากเลือกตั้ง”
แต่ก็มีผู้ออกมาเตือนสติกลุ่มคนอยากเลือกตั้งให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง เพราะไม่อยากเห็นคนกลุ่มดังกล่าวผิดหวัง เนื่องจากเกรงว่าหากคนกลุ่มที่ว่านั้นเกิดความผิดหวังแล้ว ก็อาจจะแสดงอาการพลุ่งพล่านดาลเดือด จนทำสังคมเกิดความโกลาหลตามมาได้ ซึ่งสถานการณ์ความโกลาหลจะไม่ก่อให้เกิดผลดีกับใครๆ เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นแต่คนที่ต้องการให้เกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคบนแผ่นดิน
ของเรา
แน่นอนว่า หลังจากวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ผู้ที่ต้องการจะลงชิงตำแหน่ง สส. ของไทยจะต้องเข้าสังกัดพรรคการเมืองโดยเรียบร้อยแล้ว เพราะมิฉะนั้นก็จะไม่มีสิทธิ์ลงชิงชัยในสนามการเลือกตั้ง สส. เป็นอันขาด และที่สำคัญคือจะต้องรักษาสถานะของสมาชิกภาพของพรรคการเมืองไว้อย่างน้อย 90 วัน จนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งตรงไว้ชัดเจนในมาตรา 97 (3) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับล่าสุด
แต่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนักในสายตาของแฟนพันธุ์แท้การเมืองไทย เพราะว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการประกาศกำหนดแบ่งเขตเลือกตั้งให้ชัดเจน แล้วก็ไม่มีใครกล้าฟันธงลงไปว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งจะออกมาในรูปแบบได้ แต่ที่เห็นพูดกันโครมๆ ก็คือ มีแค่ผลโพลล์ต่างๆ นานา ที่อ้างกันไปสารพัดสารเพว่าพรรคการเมืองนั้นจะชนะ แล้วคนคนนั้นจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ถามว่าจะไปเชื่อได้อย่างไรว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือพรรคไหนจะชนะเป็นอันดับหนึ่ง เพราะในเมื่อยังไม่มีใครรู้เลยว่า นักการเมืองหน้าไหนจะได้ลงแข่งขันในเขตเลือกตั้งใด
แน่นอนว่า คนไทยที่สนใจการเมืองจะต้องสามารถตอบคำถามที่ว่า ใครคือเจ้าของพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดมีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับคสช. และก็คงจะต้องตอบได้ด้วยว่า ในการชิงชัยการเมืองครั้งหน้านี้ นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินรายหนึ่งจะต้องทุ่มจนหมดหน้าตัก เพื่อให้พรรคของตนเองสามารถกวาดที่นั่ง สส. ให้ได้มากที่สุด เพราะนี่คือหนทางสุดท้ายที่จะช่วยกู้หน้า และช่วยทำให้สถานภาพของนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินได้รับการยอมรับจากสาธารณชนมากขึ้น
ขอบอกว่าการเลือกตั้ง สส. ครั้งหน้าซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นการเลือกตั้งที่ดูแล้วแปลกประหลาดพิสดารมากที่สุดในเมืองไทย เพราะนอกจากจะยังไม่มีใครรู้เรื่องเขตเลือกตั้งแล้ว ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนสามารถเดินสายหาเสียงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวได้ ยกเว้นจะมีเพียงพรรคเดียวที่มีสถานะการเมืองเหนือกว่าพรรคอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นพรรคอื่นๆ ที่มีสถานะทางการเมืองต่ำกว่าพรรคที่มีอำนาจรัฐหนุนหลังก็มีกลยุทธ์การหาเสียงที่ทำให้พรรคซึ่งมีอำนาจรัฐหนุนหลังเกิดอาการขวัญผวาอยู่เกือบทุกวัน
และต้องไม่ลืมว่าปัจจุบันยังมีอำนาจโดยคำสั่งคสช. เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมือง ดำรงอยู่ในสังคมไทย แม้บางคนอาจจะมองโลกในแง่ดีว่าคำสั่งนี้น่าจะถูกลบไปในวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าคำสั่งดังกล่าวจะถูกลบให้หายไป เพราะไม่มีใครรู้ว่าผลของการหารือในวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ระหว่างพรรคการเมือง กกต. คสช. และแม่น้ำทั้ง 5 สาย จะออกมาในรูปใด ขอย้ำว่าผลของการหารือจะมีผลต่อความฝันในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 อย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี