บ้านเมืองของเรานี้มีนักการเมืองจำพวกโกงสะบัดช่ออยู่จำนวนมิใช่น้อย นักการเมืองขี้โกงเหล่านั้น มีทั้งจำพวก โกงลำไย โกงข้าว โกงยางพารา โกงไม้ซุง โกงงบฯ สาธารณสุข โกงงบฯ การศึกษา โกงงบฯ ทำถนน โกงงบฯ ซื้อวัว โกงงบฯ จัดซื้อเครื่องตรวจระเบิด โกงงบฯ ก่อสร้างสนามบิน แถมยังมีข้าราชการทหารอีกกลุ่มหนึ่งที่โกงงบฯ จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ แล้วก็ยังมีข้าราชการพลเรือนอีกจำนวนหนึ่งให้ความร่วมมือกับนักการเมืองขี้ฉ้อเพื่อปล้นเงินตรา และทรัพยากรของประเทศ
เมื่อพูดถึงนักการเมืองจำพวกโกงบ้านกินเมืองแล้ว วิญญูชนต่างรู้ดีว่าคนกลุ่มนี้อาศัยช่องทางเข้ามาฉ้อฉลปล้นประเทศด้วยการอ้างชัยชนะจากการเลือกตั้ง ดังนั้นคนโกงเมืองจำพวกนี้ จึงเฝ้ารอให้ถึงวันเลือกตั้งโดยเร็ว และบัดนี้ก็มีความชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยจะมีวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ในการชิงชัยทางการเมืองในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า พรรคการเมืองที่สาธารณชนรู้แจ้งแทงตลอดว่าเป็นเจ้าของนโยบายโกงรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ก็ยังส่งนักการเมืองในสังกัดของพรรคลงสนามเลือกตั้งด้วย นับเป็นเรื่องประหลาดเชิงอุบาทว์ที่พรรคการเมืองซึ่งได้ก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติหลายแสนล้านบาท แต่ยังกล้าส่งพลพรรคของตนลงสนามการเมืองอีก
เท่านั้นยังไม่พอ สาธารณชนยังพบด้วยว่า นักการเมืองหญิงรายหนึ่งซึ่งถูกระบุว่าพัวพันกับการทุจริตงบฯ ลำไย และงบฯ สาธารณสุข ก็ยังคงประกาศตัวลงสนามเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย แต่ถึงแม้นักการเมืองที่เคยถูกจับได้ว่าทุจริตซื้อเสียงด้วยเงิน 120 บาท จะอ้างว่าไม่ลงแข่งขันในครั้งนี้ แต่วิญญูชนก็รู้ดีว่าเขาอยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ยังนับว่าพอจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเหตุใดนักการเมืองจำพวกขี้ฉ้อจึงกล้าลงรับสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งสส. เพราะสำหรับคนพรรค์อย่างนี้ เขามองแค่เพียงว่า เพราะการเลือกตั้งเป็นเสมือนผงฟอกขาวที่จะช่วยฟอกสี หรือเป็นเครื่องมือลบล้างความสกปรกโสโครกให้กับพวกตนเองได้ดี และง่ายที่สุด เนื่องจากคนเหล่านี้มีกลอุบายเพื่อทำให้ตนเองสามารถมีชัยชนะในการเลือกตั้งได้ด้วยเล่ห์เพทุบายสารพัดชนิด และถึงแม้ประชาชนผู้มีปัญญาจะรู้ว่าชัยชนะของคนพรรค์อย่างนี้ไม่ขาวสะอาด ไม่บริสุทธิ์ แต่คนกลุ่มดังกล่าวก็มิได้นำพา และไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด
แต่ที่นับว่าประหลาดและมหัศจรรย์ที่สุดก็คือ ถึงแม้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะรู้ทั้งรู้อยู่ว่านักการเมืองขี้ฉ้อก่อเหตุทุจริตและโกงการเลือกตั้ง แต่ประชาชนบางกลุ่มก็กลับสนับสนุนให้นักการเมืองโกงการเลือกตั้งต่อไป โดยอ้างเหตุผลที่แสนน่าสมเพชว่า ได้เงินจากการซื้อเสียงเพียงไม่กี่ร้อย ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เพราะนักการเมืองนั้นเมื่อผ่านพ้นวันเลือกตั้งไปแล้ว (มัน) ก็ไม่เคยมองเห็นหัวของประชาชนอีกต่อไป
เมื่อประชาชนส่วนหนึ่งซึ่งมีจำนวนมิใช่น้อยคิดได้เท่านี้ ก็จึงเท่ากับเปิดโอกาสให้นักการเมืองขี้ฉ้อเข้ามาปล้นประเทศได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อนักการเมืองขี้ฉ้อรู้ดีว่าสามารถใช้เศษเงินซื้อเสียงจากประชาชนได้ โดยที่ประชาชนเองก็มิได้แสดงอาการรังเกียจหรือต่อต้าน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว สถานการณ์จึงไม่ต่างไปจากการจงใจจุดไฟเผาบ้านของตนเอง และเมื่อตนเองได้จุดเผาบ้านตัวเองเสียแล้ว คนไทยจะโทษใครได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี