การเลือกตั้ง สส.เขตบางบอน กทม. นับเป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่น่าจับตามองในครั้งนี้
1. เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้สมัคร สส.กทม. เขต 26 บางบอน หนองแขม พรรค พปชร. หมายเลข 14 ลงพื้นที่พบปะประชาชนและผู้ค้า ตลาดวัดหนองแขม
นายสนธิรัตน์กล่าวบางตอนว่า ถึงเวลาที่พี่น้องจะต้องเปลี่ยนบางบอน บางบอนมีศักยภาพมากมาย คนมีคุณภาพมากมาย ถ้าไม่อยากให้บางบอนเป็นเมืองนักเลง หรือเมืองอิทธิพลของใคร ก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผมเป็นคนริเริ่ม แต่พรรคอื่นเคยรุมโจมตี จะให้ยกเลิก
น่าสังเกตว่า ป้ายหาเสียงที่ทีมงานของผู้สมัครใช้ในการเดินเท้าเพื่อพบปะประชาชน และขอคะแนนเสียง ปรากฏข้อความ เช่น “เปลี่ยนคนเก่า”, “ไม่เอาคนเกเร”, “เลือกคนใหม่”
2. ในวันเดียวกัน นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร สส.เขตหนองแขม บางบอน เบอร์ 13 พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ตอบโต้ทันควัน ระบุว่า
“พรรคมีเส้น มาหาเสียงแถวหนองแขม ขึ้นป้าย “ไม่เลือกคนเก่า” “ไม่เอาคนเกเร” อยากจะบอกว่าคนหนองแขมบางบอนก็ไม่เอา #หมาหลง เช่นกัน”
นอกจากนี้ นายวัน อยู่บำรุง ยังได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ค บางตอนกล่าวว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ต่อหน้าพูดอย่าง ลับหลังพูดอีกอย่าง เมื่อเช้า พรรคมีเส้น เดินหาเสียงแถวตลาดหนองแขม แล้วขึ้นป้าย “ไม่เลือกคนเก่า ไม่เอาคนเกเร” “…ใช่ คนเก่าเขาไม่เลือกหรอก คนเกเรผมก็ไม่เอา ผมไม่ชอบเกเรคน และไม่ชอบเห็นคนถูกรังแก แต่คนบางบอนหนองแขมฝากมาบอก เขาก็ไม่เอาหมาหลงเหมือนกัน มึงไม่ใช่คนที่นี่ เขาเรียกหมาหลง มาแจ้งเกิด หิ้วกระเป๋า ใส่สตางค์มา ผมไม่ชอบคนเกเรนะ เพราะใจถึงพึ่งได้ชอบช่วยเหลือคนตลอด คนบางบอนหนองแขมไม่เอาหมาหลง ชัดเจนนะ”
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวด้วยว่า “พี่น้องครับ คุณพ่อผม เฉลิม อยู่บำรุง ท่านเล่นตรงไปตรงมา ท่านวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น คนอื่นก็วิพากษ์วิจารณ์ท่าน ถึงทำให้ท่านมีศัตรูทางการเมือง บังเอิญมันจะเล่นงานคุณพ่อเรื่องอื่น แต่เล่นงานไม่ได้ เพราะคุณพ่อผมไม่มีแผลทางการเมือง บทหนักจึงตกที่ผม อย่างเลือกตั้งปี’54 พรรคการเมืองเก่าแก่เป็นรัฐบาลรักษาการ ต่อล้อต่อเถียงกับพ่อผม จนสุดท้ายมันบอกว่า “เขตลูกไอ้เหลิมทำยังไงก็ได้ ให้ลูกไอ้เหลิมแพ้ ไอ้เหลิมจะได้อับอาย” ผมไม่ได้แข่งกับพรรคการเมืองอื่น แต่ผมถูกอำนาจรัฐมารุมผม คราวนี้ก็ทำท่าจะเป็นอย่างนั้นอีกแล้ว คุณพ่อผมวิพากษ์วิจารณ์พรรคมีเส้น มันก็แค้นคุณพ่อผม ก็ระดมมารุมผม ทำยังไงก็ได้ให้เขตนี้ ให้ไอ้วัน อยู่บำรุง ไม่ได้เกิดเป็น สส. ใครชนะก็ได้ แต่ไอ้วันต้องไม่ได้”
นายวันถึงขนาดยกมือไหว้ และกล่าวอีกด้วยว่า “ฝากพี่น้องชาวบางบอนหนองแขม ผมแข่งกับผู้สมัครก็หนักแล้ว ยังถูกผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทะเลาะกัน ทำพ่อไม่ได้ก็จะมาลงที่ลูก ถ้าผมแพ้ พ่อผมเจ็บปวดหัวใจ”
3. น่าคิดว่า อะไรกันแน่ที่ทำให้นายวัน อยู่บำรุง อัดอั้นตันใจถึงขนาดนั้น?
เฉพาะการแข่งขันกับคนนอกพรรค จะขนาดนั้นหรือ?
เพราะเลือกตั้งหนนี้ น่าจะมีโอกาสกว่าทุกครั้ง เมื่อพรรคไทยรักษาชาติไม่ส่งใครมาตัดคะแนนเสียง ส่วนคู่แข่งก็กระจายไปหลายพรรค
หรือว่าโดนแทงข้างหลังจากคนในพรรคกันเองด้วย? ดังที่กล่าวประโยคว่า “ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน” – “ต่อหน้าพูดอย่าง ลับหลังพูดอีกอย่าง”
น่าสนใจว่า ลึกๆ แล้ว มีความร้าวฉานอะไรในการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย หรือไม่?
มีใคร กลุ่มไหน ในพรรคเพื่อไทยเอง ต้องการให้นายวันพ่ายแพ้ เพื่อหักหน้า ร.ต.อ.เฉลิม หรือลดบารมีของ ร.ต.อ.เฉลิม ในพรรค ในฐานะหัวหน้าที่ปราศรัยของพรรคเพื่อไทย หรือไม่?
4. ในสนามเลือกตั้ง สส.เขตบางบอนนั้น เมื่อครั้งเลือกตั้ง 2554 เขตบางบอนและหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) ผู้ชนะเลือกตั้ง คือ พรรคประชาธิปัตย์ พ.ต.อ.สามารถ ม่วงศิริ ได้คะแนน 41,806 เสียง
อันดับสอง คือ พรรคเพื่อไทย นายวัน อยู่บำรุง ได้คะแนน 40,588
เรียกว่า แพ้ไปเฉียดฉิว เพียงพันกว่าคะแนน
มาครั้งนี้ นายวันและ ร.ต.อ.เฉลิม จึงหมายมั่นปั้นมือ ตั้งความหวังสูงมาก ว่าจะต้องดันนายวันเข้าไปนั่งในสภาผู้ทรงเกียรติให้จงได้ เพื่อเป็นเกียรติยศและศักดิ์ศรีและตระกูล “อยู่บำรุง” โดยเฉพาะในช่วงปลายชีวิตทางการเมืองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
พรรคแตกแบงก์พัน ก็ไม่มีมาแบ่งคะแนนจากฐานของเพื่อไทยเดิม
ในขณะที่พรรคคู่แข่ง ฐานเสียงบางส่วนก็อาจถูกแบ่งออกไปที่พรรคต่างๆ
ร.ต.อ.เฉลิมมั่นใจมาก ถึงขนาดเคยประกาศในวันเกิดลูกชาย ว่านายวันชนะแน่นอน และอยู่บำรุงจะต้องได้เป็นรัฐมนตรี ได้เก้าอี้เสนาบดีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งแน่ๆ
เรียกว่า ถ้าไม่สะดุดขาตัวเอง หรือขาคนในพรรคกันเอง มีโอกาสจะสมหวังคราวนี้
5. ในสนามเลือกตั้งปีนี้ มีพรรคการเมืองมากหลายเสนอตัวแข่งขัน
เขตการเลือกตั้งบางบอนและเขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) รายชื่อผู้สมัคร สส. ประกอบด้วย
รวมพลังประชาชาติไทย วีรญา อังศุธรถาวริน (เบอร์ 1)
พลังท้องถิ่นไท สมยศ ลักษณะสมบูรณ์ (เบอร์ 2) ประชานิยม หนึ่ง ช่วยชู (เบอร์ 3)
เพื่อชาติ เศษฐวิชช์ ศิริโภคานุสรณ์ (เบอร์ 4)
เสรีรวมไทย ว่าที่ร้อยตรี ธนกร เจียโหงว (เบอร์ 5)
ไทยศรีวิไลย์ อนุรักษ์ อมรเมตตาจิต (เบอร์ 6)
ภราดรภาพ สมชาย พวงมาลัย (เบอร์ 7)
ประชาธิปัตย์ พันตำรวจเอก สามารถ ม่วงศิริ (เบอร์ 8)
อนาคตใหม่ กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ (เบอร์ 9)
ชาติพัฒนา ชัยนันท์ ขันทะชา (เบอร์ 10)
ประชาชนปฏิรูป ศศิยา บุตรเนียร (เบอร์ 11)
ภูมิใจไทย ศิลปชัย บุญราย (เบอร์ 12)
เพื่อไทย วัน อยู่บำรุง (เบอร์ 13)
พลังประชารัฐ วัชระ กรรณิการ์ (เบอร์ 14)
ชาติไทยพัฒนา ก่อเกียรติ ขันทอง (เบอร์ 15)
ประชาภิวัฒน์ สิครินทร์ ดามพ์วิจิตร (เบอร์ 16) รักษ์ผืนป่าประเทศไทย วรพล เตรียมเวชวุฒิไกร (เบอร์ 17)
ประชาชาติ ชวิกา ไตรศิวะกุล (เบอร์ 18)
แต่แน่นอน ตัวเต็งหาม คือ นายวัน อยู่บำรุง
เว้นเสียแต่ว่า คนที่เบื่อความขัดแย้ง เบื่อการเมืองแบบเก่าๆ ไม่นิยมวิธีเล่นการเมืองแบบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปราศรัยแต่ละเวที ไม่มีพูดเรื่องนโยบาย แต่เน้นโจมตี คสช. โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีพรรคพลังประชารัฐ โจมตี กปปส. ซึ่งสร้างความแตกแยก ประชาชนไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรเลย ตอกย้ำภาพการเมืองแบบ “เหลิม ดาวเทียม” ที่คนจำนวนไม่น้อยเอือมระอา
น่าคิดว่า ถ้าสุดท้ายแล้ว นายวัน แพ้ในเขตบางบอน จะเป็นปิดฝาโลงตระกูลอยู่บำรุง ไปโดยปริยายหรือไม่?
เพราะแม้ ร.ต.อ.เฉลิม จะได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ แต่หากว่าลูกชายพลิกล็อกแพ้ในสนามเลือกตั้งที่ตนเองเป็นเจ้าถิ่น แล้วจะไปเรียกร้องเอาความนับถือจากใครในพรรคได้เล่า
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี