โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแต่ละพรรคการเมืองต่างประกาศนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง หวังช่วงชิงคะแนนเสียงจากเกษตรกรซึ่งถือเป็นฐานคะแนนใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศ ยกตัวอย่างเกษตรกรชาวนา ที่หลายพรรคต่างชูนโยบายพักหนี้เกษตรกร แก้ปัญหาหนี้ชาวนา ดูแลราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำ ให้เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ลดต้นทุนสารเคมี และหาตลาดข้าวใหม่ในทวีปอื่นๆ รวมถึงตลาดออนไลน์
ด้านชาวไร่อ้อยดูจะมีความหวังจากหลายพรรคการเมืองที่จะเข้ามาแก้ปัญหาราคาตกต่ำ โดยเตรียมหาตลาดเพิ่มมูลค่าโดยการนำไปทำไบโอพลาสติก กำหนดสัดส่วนการแบ่งผลผลิตระหว่างชาวไร่กับผู้ประกอบการอย่างเป็นธรรม ความเดือดร้อนชาวสวนปาล์มที่มักจะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำก็ถึงหูของพรรคการเมืองที่ออกมาขานรับด้วยนโยบายประกันราคายางพารา เปิดตลาดใหม่ในประเทศจีน พร้อมสร้างความมั่นคงในอาชีพการทำสวนยาง
ขาดก็แต่ชาวไร่ยาสูบที่กำลังเดือดร้อนเพราะขาดรายได้จากการทำไร่ยาสูบจนต้องออกเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงการคลังช่วยเหลือ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนมองเห็นโอกาสและรีบคว้าเอาไว้ เกษตรกรยาสูบกลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 5 หมื่นครอบครัว ถ้านับเป็นคนก็คงร่วมแสนคน ที่พึ่งพารายได้จากการทำไร่ยาสูบ พวกเขาได้มีการรวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการขึ้นภาษียาสูบ วันที่ 1 ต.ค. นี้ออกไปก่อน เพราะกำลังเดือดร้อนจากการโดนตัดโควตาใบยาสูบที่ทำให้รายได้หายไปแล้วร้อยละ 50 และยังไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ จากรัฐบาล แต่การเรียกร้องก็ดูจะยังไม่เป็นผล รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ยังคงนิ่งเฉยไม่สามารถให้หลักประกันใดๆกับชาวไร่ได้บ้างเลย
ก่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2560 โรงงานยาสูบ (หรือปัจจุบันคือการยาสูบแห่งประเทศไทย) เคยซื้อใบยาสูบมูลค่าร่วม 2 พันล้านบาทต่อปี จากชาวไร่ยาสูบไทย สร้างเงินหมุนเวียนสะพัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน รายได้ดีกว่าขายข้าวหลายเท่า ยาสูบไร่หนึ่งทำกำไรให้ชาวไร่ราว 1 หมื่นบาท เทียบกับปลูกข้าวไร่หนึ่งจะได้กำไรไม่น่าเกิน 3 พันบาทเท่านั้น แต่ตอนนี้โควตายาสูบโดนตัดไปครึ่งหนึ่งแล้ว และมีท่าทีว่าการยาสูบฯ จะงดรับซื้อเลยปีนีหน้า เพราะรัฐบาลกำลังจะขึ้นภาษีบุหรี่อีกรอบ วันที่ 1 ต.ค.นี้ที่จะทำให้บุหรี่ของการยาสูบฯ ต้องเสียภาษีสูงขึ้นเท่าตัว ราคาบุหรี่หลักของการยาสูบฯ ก็จะเพิ่มขึ้นจาก 60 บาทเป็น 93 บาท ซึ่งจะไปแข่งกับบุหรี่นอกนำเข้าทันที ทำให้การยาสูบฯ เองถึงกับคาดการณ์ว่าจะขายได้น้อยลงมากจนต้องงดรับซื้อใบยาไปถึงปี 2566
ชาวไร่ยาสูบได้รับความเดือดร้อนขนาดนี้ เพราะมาจากการรีดภาษีบุหรี่ติดๆ กันมาโดยตลอด แถมคราวนี้รัฐบาลนี้กลับดึงดันจะขึ้นภาษีบุหรี่ไปอีกเท่าตัวจากอัตราร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 40 ถือว่าเกินสมควรไปมากหลังจากที่เพิ่งขึ้นไปเมื่อ ก.ย. 2560 ที่เป็นที่มาของความเดือดร้อนวุ่นวายของชาวไร่ยาสูบทุกวันนี้
พรรคการเมืองต่างๆ น่าจะลองพิจารณาโอกาสนี้ดูหากขานรับประกาศนโยบายสนับสนุนให้เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ ก็เหมือนจับเสือมือเปล่า ไม่ได้ต้องลงทุนอะไรเลย แต่จะได้คะแนนเสียงจากชาวไร่ยาสูบในกว่า 20 จังหวัด 31 เขตเลือกตั้ง ในภาคเหนือ ภาคอีสานไปเลย เพราะตอนนี้ยังไม่มีพรรคไหนเปิดนโยบายเรื่องนี้ เริ่มก่อนมีสิทธิก่อน เหลือเวลาหาเสียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี