เมื่อจีวรเปื้อนโคลน และศรัทธาเริ่มสั่นคลอน สังคมไทยจะรับมือกับวิกฤตศรัทธาในวงการพุทธศาสนาได้อย่างไร? เหตุการณ์ “สีกากอล์ฟ” ที่โยงใยถึงพระผู้ใหญ่ระดับสูงหลายรูป ไม่ใช่เพียงเรื่องอื้อฉาวชั่วคราว แต่คือแผลฉกรรจ์ที่กัดเซาะรากฐานแห่งศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
เหตุการณ์คดี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์กับพระผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งสูงสุดระดับพระราชาคณะชั้นเทพ ระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส บางรูปมีตำแหน่งถึงระดับเจ้าคณะจังหวัด ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้ ไม่ได้เป็นเพียงข่าวซุบซิบประจำวัน แต่ได้กลายเป็น รอยร้าวลึกในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
จากข้อมูลล่าสุดที่มีการลาสิกขาของพระผู้ใหญ่ไปแล้วหลายรูปและการพบหลักฐานมากมายในโทรศัพท์มือถือของ “สีกากอล์ฟ” รวมถึงจีวรพระที่บ้านของเธอ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่หยั่งรากลึกในวงการสงฆ์ และถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหันมามองอย่างจริงจังเพื่อหาทางเยียวยาบาดแผลนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์บางรูป คือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด การขาดการยึดมั่นในพระธรรมวินัย กิเลสตัณหา และการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ได้บดบังความบริสุทธิ์ของผ้ากาสาวพัสตร์ แต่การมองว่านี่เป็นเพียงปัญหาของปัจเจกบุคคลนั้นไม่เพียงพอ เพราะความจริงที่ปรากฏคือมีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปเข้ามาเกี่ยวข้อง บ่งชี้ว่ามีความหละหลวมในการปกครองคณะสงฆ์อย่างเห็นได้ชัด การขาดการตรวจสอบที่เข้มงวด การปล่อยปละละเลย และการลงโทษที่ไม่เด็ดขาดพอ ได้สร้างช่องว่างให้บุคคลที่ฉวยโอกาสเข้ามาหาผลประโยชน์ หรือแม้แต่บุคคลในผ้าเหลืองเองก็ตกอยู่ในวังวนของกิเลส
อีกด้านหนึ่ง ปัจจัยทางสังคมก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยการถวายปัจจัยที่ฟุ่มเฟือย การยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่าคำสอน รวมถึงการขาดความเข้าใจในแก่นแท้ของพระธรรมวินัยของพุทธศาสนิกชนบางส่วน อาจเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย
ผลลัพธ์จากเรื่องอื้อฉาวนี้คือความศรัทธาในพุทธศาสนาที่กำลังถูกกัดกร่อน ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงความบริสุทธิ์ของพระสงฆ์ ความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา และบทบาทของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ภาพลักษณ์ของพุทธศาสนาที่เคยเป็นที่พึ่งทางใจ กลับกลายเป็นแหล่งรวมปัญหาและความเสื่อม สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ในวงแคบๆ แต่กระทบต่อจิตใจของผู้คนในวงกว้าง และอาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคม หากปราศจากการแก้ไขปัญหาอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม และหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง อาจนำไปสู่ภาวะ “ศรัทธาอ่อนแอ” ที่ไม่เพียงบั่นทอนกำลังใจของพุทธศาสนิกชน แต่ยังส่งผลกระทบต่อ บทบาทของพุทธศาสนาในการเป็นเสาหลักทางศีลธรรม ของสังคมไทยในระยะยาว
การแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ซึ่งแนวทางที่ควรแก้ไขที่เร่งด่วนในขณะนี้คือ
“ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์” จำเป็นต้องมีกลไกการตรวจสอบที่โปร่งใสและเด็ดขาด ซึ่งอาจรวมถึงการพิจารณา การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนหรือผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก ในคณะกรรมการตรวจสอบบางชุด หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อบันทึกและตรวจสอบข้อมูลทางการเงินและทรัพย์สินของวัดและพระสงฆ์เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และลงโทษผู้กระทำผิดตามพระธรรมวินัยอย่างรวดเร็วและจริงจัง เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ชัดเจนและไม่ให้ใครก็ตามใช้ผ้าเหลืองเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน
“ทบทวนกฎหมายและระเบียบ” พิจารณาช่องว่างทางกฎหมายที่อาจเอื้อให้เกิดพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ส่งเสริมการศึกษาและปฏิบัติธรรม” ทั้งสำหรับพระสงฆ์และฆราวาส การทำความเข้าใจในพระธรรมวินัยอย่างถ่องแท้จะช่วยให้พระสงฆ์ตระหนักในบทบาทหน้าที่และช่วยให้ฆราวาสมีวิจารณญาณในการทำบุญและแยกแยะสิ่งผิดชอบชั่วดี
“บทบาทของพุทธศาสนิกชน” ถึงเวลาแล้วที่พุทธศาสนิกชนจะต้องทำบุญอย่างมีสติ สังเกตพฤติกรรมของพระสงฆ์ และกล้าที่จะตั้งคำถามเมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการรวมตัวกันเป็นพลัง ในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปอย่างจริงจังในวงการสงฆ์ การไม่เพิกเฉยต่อปัญหาคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
บทเรียนจากคดี “สีกากอล์ฟ” คือสัญญาณเตือนภัยครั้งสำคัญว่าพุทธศาสนาในสังคมไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ การละเลยหรือปกปิดปัญหาจะยิ่งทำให้ศรัทธาถดถอยลงไปอีก เราจะยอมให้ “รอยร้าว” นี้กลายเป็น “รอยแยก” ที่ยากจะประสาน หรือจะร่วมกันเผชิญหน้ากับความจริง ลงมือแก้ไขอย่างกล้าหาญ และสร้างสรรค์พุทธศาสนาให้กลับมาเป็นที่พึ่งทางใจที่บริสุทธิ์และมั่นคงอีกครั้ง? คำตอบอยู่ที่การลงมือทำของทุกคน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี