“ถ้าการเมืองยังไม่มีศีลธรรม เราจะไม่ลาสิกขา” หัวข้อนี้เป็นคำยืนยัน ของ พระสุธรรม ฐิตธัมฺโม หรือ สุธรรม นทีทอง อดีตแกนนำ กปปส. เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งพระสุธรรม ที่อุปสมบท ที่วัดสวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และเดินทางแสวงบุญไปค่อนโลก นับเป็นแกนนำ กปปส. คนสุดท้ายที่ยังไม่ลาสิกขา
ล่าสุดก่อนสงกรานต์ ผมได้มีโอกาสสนทนากับพระสุธรรม ซึ่งท่านได้แสดงความเห็นว่า
ตอนนี้เมืองไทยอยู่ในช่วงหลังเลือกตั้ง สาละวนอยู่กับการรับรองผลการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล แต่อาตมาอยู่ในช่วงการเดินรณรงค์สันติภาพการเดินเผยแผ่พระศาสนา การเดินทำความเพียรข้ามทวีปอเมริกา
คนอเมริกันสนใจการเดินรณรงค์สันติภาพกันมาก มีการลงข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ Daily Sun และมีการแชร์ข้อมูลข่าวสารไปในกลุ่มต่างๆ ในระบบโซเชียล คนอเมริกันกล่าวว่าขอบคุณพระธุดงค์ที่มาทำเพื่อสันติภาพ และทำเพื่อทุกคน ฉันชื่นชมและให้กำลังใจนะ
อาตมาเดินธุดงค์จิตใจก็สงบดี มุ่งหน้าปฏิบัติธรรม แต่อีกส่วนหนึ่งก็อดเป็นห่วงเมืองไทยไม่ได้
ปัญหาของเมืองไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาๆ ก็คือปัญหาของความไม่สามัคคีกัน แตกเป็นก๊กเป็นเหล่าเป็นกลุ่มเป็นสีต่างๆ ส่งผลต่อระบบสังคม ทำให้พี่น้องทะเลาะกัน ทำให้เพื่อนฝูงบาดหมางกัน
อาตมาก็คาดหวังว่าเมื่อพรรคการเมืองหาเสียง ก็จะช่วยกันนำได้นโยบายในการที่จะแก้ปัญหาหลักของประเทศชาติ คือเรื่องความสามัคคี
แต่ผลที่เราได้เห็นกันก็คือ ในทางตรงกันข้าม ไม่เพียงแต่จะทำให้สามัคคีกันมากขึ้น แต่กลับทำให้แตกความสามัคคีกันมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการสาดคนใส่กันไปมาใส่ร้ายป้ายสีกัน มีแต่วาทกรรมทะเลาะเบาะแว้งกันผลของการเลือกตั้งอาตมาไม่ได้คาดหวังว่าพรรคไหนจะได้เท่าไหร่ เพราะไม่ได้สนใจเรื่องจำนวนของผู้แทนของแต่ละพรรค แต่สิ่งที่อยากเห็นก็คือเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วเราจะมีความสามัคคีกัน
แต่ผลที่เราเห็นหนักกว่าเดิมก็คือ มีการแบ่งแยกกันออกไปเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ แต่มีเป้าหมายเดียวคือ ต้องการมีอำนาจ ต้องการที่จะเป็นรัฐบาลปกครองประเทศ จริงๆ แล้วพรรคการเมืองไทยไม่มีฝ่ายไหนหรอก แต่ถ้าจะให้แบ่งกันจริงๆ ก็มีเฉพาะแบบฝ่ายที่โกงมาก กับฝ่ายที่โกงมากที่สุดเท่านั้นเอง
ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของพรรคการเมืองไทยก็คือการขาดศีลธรรมพระอาจารย์หลวงพ่อพุทธทาสกล่าวว่า ถ้าการเมืองไร้ซึ่งศีลธรรม ระบบนั่นแหละเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งที่อาตมาจะเรียกร้องในตอนนี้ก็คือ ให้พรรคการเมืองกลับมาทบทวนตัวเองดูแลเรื่องศีลธรรมภายในพรรค จุดยืนและการนำเสนอนโยบาย รวมทั้งท่าทีในการที่จะจัดตั้งรัฐบาล ละทิ้งซึ่งผลประโยชน์ส่วนตัวผลประโยชน์ของแต่ละพรรค แล้วหันหน้ามาสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ด้วยการแก้ปัญหาเรื่องความสามัคคีเป็นเป้าหมายหลัก
และเมื่อจัดตั้งรัฐบาลกันได้แล้ว ให้เน้นในเรื่องการสร้างความสามัคคี ความปรองดองภายในชาติ และการนำศีลธรรมกลับมาใช้ในสังคมไทย
เลือกตั้งเสร็จแล้ว ก็ขออวยพรให้ประเทศชาติมีความสามัคคี ประเทศมีความเจริญรุดหน้าในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และ ขออวยพรให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี มีความสุขโดยทั่วหน้ากัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี