เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย. เวลา 17.19 น.ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดพิธีเสกน้ำอภิเษกและน้ำสรงมุรธาภิเษกโดยได้มีการอัญเชิญน้ำทั้งหมดจากศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย มาทำพิธีที่พระวิหารหลวงในวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฝ่ายฆราวาส หลังจากนั้นรุ่งขึ้นในวันที่ 19 เม.ย. เวลา 07.30 น. ได้มีริ้วขบวนแห่อัญเชิญ “คนโทน้ำอภิเษก” จำนวน 86 ใบ จากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวังเพื่อเก็บรักษาไว้รอถวายในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในวันที่ 4 พ.ค.นี้
สำหรับน้ำที่นำมาใช้ในพิธีครั้งนี้ได้จาก “พิธีพลีกรรมตักน้ำ” เพื่อทำ “น้ำอภิเษก” งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามฤกษ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 76 จังหวัดทั่วประเทศ 107 แหล่งน้ำ ไม่รวมกทม. จากข้อมูลระบุว่านครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด 6 แห่ง คือ ในเขตอ.เมือง 5 จุด คือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดหน้าพระลาน, บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดเสมาเมือง, บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดเสมาไชย, บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดประตูขาว อ.เมือง และแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ห้วยเขามหาชัย ต.ท่างิ้ว อ.เมือง กับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ห้วยปากนาคราช อ.ลานสกา
จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 4 แหล่ง คือ ปัตตานี ที่สระวังพลายบัว หมู่ 5 ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี, บ่อทองหรือบ่อช่างขุด อ.ปะนาเระ, บ่อไชย อ.ปะนาเระ, บ่อฤาษี อ.มายอ สุพรรณบุรี ที่สระแก้ว สระคา สระยมนา และสระเกษ ที่ ต.สระแก้ว อ.เมืองสุพรรณบุรี และแพร่ ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ลำน้ำแม่คำมี อ.เมือง, บ่อน้ำวัดบ้านนันทาราม อ.เมือง, บ่อน้ำพระฤาษี อ.วังชิ้น และบ่อน้ำวัดพระหลวง อ.สูงเม่น
จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 แหล่ง 5 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ที่ขุนน้ำแม่ปิง อ.เชียงดาว, อ่างกาหลวงอ.จอมทอง, บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดบุพพาราม อ.เมือง สุโขทัย ที่บ่อแก้ว อ.ศรีสัชนาลัย, บ่อทอง อ.ศรีสัชนาลัย และตระพังทอง อ.เมือง จันทบุรี ได้แก่ ที่ธารนารายณ์ อ.เมือง, บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดพลับ อ.เมือง, สระแก้ว อ.ท่าใหม่ พัทลุงได้แก่ บ่อน้ำวัดดอนศาลา อ.ควนขนุน, บ่อน้ำวนอุทยานชัยบุรี อ.เมือง, บ่อน้ำวัดบรมธาตุเจดีย์บางแก้ว อ.เขาชัยสน จ.นครนายก ได้แก่ ที่บ่อน้ำทิพย์ดงละคร อ.เมืองนครนายก, บึงพระอาจารย์ อ.องครักษ์ และเขื่อนขุนด่านปราการชล อ.เมือง
จังหวัดที่มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จังหวัดละ 2 แหล่ง ได้แก่ พะเยาขุมน้ำแม่ปิง อ.เมือง และน้ำตกน้ำคะอ.ปง ชัยภูมิ ที่วัดไพรีพินาศ อ.เมือง กับบ่อน้ำต้นกำเนิดพญาแล อ.เมือง นราธิวาส ที่น้ำตกสิรินธร อ.แว้ง และลำน้ำคลองน้ำแบ่ง อ.สุไหงปาดี บึงกาฬที่น้ำตกถ้ำพระ อ.เซกา และน้ำจากอ.บึงโขงหลง ปราจีนบุรี ที่วัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ และโบราณสถานสระแก้ว อ.ศรีมโหสถ เพชรบูรณ์ มี 2 จุด ที่สระแก้วกับสระขวัญ เมืองโบราณ อ.ศรีเทพ อุทัยธานี 2 จุด ที่ปากคลองวัดขุมทรัพย์แม่น้ำสะแกกรัง อ.เมือง และสระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม อ.เมือง
ที่เหลือ 60 จังหวัดมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จังหวัดละ 1 แหล่ง เช่น ชลบุรี ที่สระน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดเขาบางทราย ต.บ้านสวน อ.เมือง พระนครศรีอยุธยา ที่วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ที่วัดโพธิ์เก้าต้น อ.ค่ายบางระจัน เพชรบุรี ที่ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ อ.บ้านลาด ชัยนาท ที่แม่น้ำเจ้าพระยาท่าน้ำวัดธรรมามูลวรวิหาร อ.เมือง กาญจนบุรี ที่แม่น้ำสามประสบ วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี พิษณุโลก ที่สระสองห้องพระราชวังจันทน์ อ.เมือง กำแพงเพชร ที่บ่อสามแสนอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรา อ.เมือง ขอนแก่น ที่บ่อน้ำวัดกู่ประภาชัย อ.น้ำพอง มหาสารคามที่บ่อน้ำบ้านหนองโง้ง อ.นาดูน สกลนคร ที่บ่อน้ำภูน้ำลอดวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมือง
อุบลราชธานี ที่บ่อน้ำโจ้ก อ.วารินชำราบ อุดรธานี ที่บ่อน้ำผุดคำชะโนด อ.บ้านดุง นครราชสีมา ที่ต้นน้ำลำตะคองอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สุราษฎร์ธานี ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อ.ไชยา ภูเก็ต ที่บ่อวัดไชยธาราราม อ.เมือง ยะลา ที่บ่อน้ำวัดคูหาภิมุข อ.เมือง ฯลฯ
นอกจากนี้คณะกรรมการยังตักน้ำจากแม่น้ำ 5 สาย ที่เรียกว่า “เบญจสุทธคงคา” ได้แก่ แม่น้ำบางปะกง, แม่น้ำป่าสัก, แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำราชบุรี และแม่น้ำเพชรบุรี เพื่อทำเป็นน้ำสรงมุรธาภิเษกเวลา 46 นาที เจ้าหน้าที่ปิดฝาขันน้ำสาคร ห่อด้วยผ้าขาว ผูกริบบิ้นสีขาว จากนั้นขบวนรถจะเคลื่อนไปยังสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกของจังหวัดในวันที่ 8 เมษายน แต่ละจังหวัด
จะจัดพิธีทำน้ำอภิเษก และน้ำสรงมุรธาภิเษก ที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัด พิธีดังกล่าวจะทำพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 17.00 น. เริ่มจากประธานสงฆ์ในพิธีประกาศชุมนุมเทวดา เจิมเทียนชัย เทียนมหามงคล และเทียนพุทธาภิเษก และเวลา 17.10 น. ในวันเดียวกันทุกจังหวัดจัดพิธีตักน้ำอภิเษก และน้ำสรงมุรธาภิเษกใน “ขันน้ำสาคร” บรรจุในคนโทเซรามิกตกแต่งลวดลายสีทองขนาดความจุ 4.5 ลิตร น้ำหนัก 2.5 กก.
ด้านหน้าประทับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ด้านหลังประทับตราประจำจังหวัด วันที่ 10 เม.ย. ในเวลาฤกษ์ 10.00 น. ดับเทียนชัย จบแล้วเวลา 12.00 น.เวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษกพร้อมทั่วประเทศผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดจะอัญเชิญน้ำอภิเษก และน้ำสรงมุรธาภิเษก ด้วยรถประจำตำแหน่งมาเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย ในขณะที่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของ กทม.ได้ทำพิธีพลีกรรมตักน้ำจากหอศาสตราคมในพระบรมมหาราชวัง กทม.ในวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นได้เชิญมาเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทยเหมือนน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทุกๆ จังหวัดเพื่อเข้าพิธีในวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี