วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันอังคาร ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562, 02.00 น.
เหลียวหลังแลหน้า ‘ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.5 หมื่นล้าน’

ดูทั้งหมด

  •  

หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษา กรณีโครงการโฮปเวลล์ ให้บังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ ที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จ่ายค่าเสียหายแก่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) กรณีถูกยกเลิกสัญญา เป็นเงินมูลค่า 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% พร้อมคืนหนังสือคํ้าประกันจากธนาคารกรุงเทพให้กับโฮปเวลล์ 500 ล้านบาทนั้น

1. รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. นายเอก สิทธิเวคิน เปิดเผยว่า จากการพิจารณาค่าชดเชยที่ร.ฟ.ท.ต้องจ่ายให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ คาดว่าเป็นวงเงินรวม 25,000 ล้านบาท


แบ่งเป็นเงินต้น 12,000 ล้านบาท และดอกเบี้ย 13,000 ล้านบาท

โดยร.ฟ.ท.จะเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 เมษายนนี้

ยืนยันว่า จะขอให้รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมช่วยรับภาระหนี้ดังกล่าว เพราะปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีหนี้สินสะสมประมาณ 120,000 ล้านบาท

ต่อมา นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เปิดเผยหลังเข้ารายงานต่อ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เรื่องที่ ร.ฟ.ท.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อหาแนวทางปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ว่าขณะนี้ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่ต้องส่งตัวแทนเข้าร่วมคณะทำงานดังกล่าวแล้ว เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง ฯลฯ

เบื้องต้น คาดหวังว่าจะสามารถตั้งคณะทำงานเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเร่งเดินหน้าเจรจากับบริษัทโฮปเวลล์ ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ ภายในกรอบเวลา 180 วันตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

2. วันที่ 30 เม.ย. 2562 คงจะมีการนำเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม.

เข้าใจว่า ครม.ชุดนี้ ซึ่งเคยมีประสบการณ์ในการดำเนินการกระทั่งเพิกถอนค่าโง่คลองด่าน ที่มีการบอกเลิกสัญญาในยุครัฐบาลทักษิณ แล้วถูกฟ้องเรียกค่าโง่ จนคดีไปถึงศาลปกครองสูงสุดแล้วเช่นเดียวกับกรณีโฮปเวลล์ แต่รัฐบาล คสช.ก็ยังอุตส่าห์ดำเนินการขุดคุ้ย ค้นหา ประมวลข้อมูลการทุจริตประพฤติมิชอบ แบ่งงานกันทำในการเอื้อประโยชน์ระหว่างข้าราชการ นักการเมือง และเอกชนในกรณีค่าโง่คลองด่าน กระทั่งสามารถเพิกถอนค่าโง่คลองด่าน และติดตามยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก

ขอให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาต่อไป

ขอฝากว่า อย่าได้เกรงใจใครเลย ผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวมต้องมาก่อน

3. ที่มาที่ไปของกรณีโฮปเวลล์ จัดได้ว่าเป็นมหากาพย์อีกหนึ่งเรื่อง

โดยที่ศาลปกครองสูงสุดไม่อาจไปก้าวล่วงรายละเอียดการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการว่าใครทำผิดสัญญาอย่างไรหรือไม่ คงได้แต่พิจารณาว่า คำวินิจฉัยอนุญาโตฯ เข้าข่ายที่จะต้องเพิกถอนตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น

ในแฟนเพจ ชมรมนักกฎหมายก่อสร้าง ได้รวบรวมข้อมูลที่มาที่ไปของคดีโฮปเวลล์ไว้อย่างน่าสนใจ

เนื้อหาค่อนข้างยาว จึงขออนุญาตสรุปใจความสำคัญบางช่วงบางตอนมาแบ่งปันเป็นข้อมูลสาธารณะไว้ ณ ที่นี้ เพื่อว่าคนไทยที่มีใจรักชาติรักแผ่นดิน ต้องการจะช่วยปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม จะได้ช่วยกันเสาะหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตีแผ่ และดำเนินการเพิกถอนค่าโง่ในโอกาสต่อไป ดังนี้

3.1 เมื่อปี 2532 กระทรวงคมนาคมได้เสนอ ครม. เพื่อเห็นชอบโครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับ

ต่อมา เมื่อ ครม. เห็นชอบ กระทรวง จึงประกาศเชิญชวนผู้สนใจเสนอโครงการลงทุนก่อสร้างทางรถไฟและทางรถยนต์ยกระดับโดยให้ได้รับสัมปทานดำเนินการระบบรถไฟชุมชนและสัมปทานทางรถยนต์ในเขตของทางรถไฟ นอกจากนี้ ผู้รับสัมปทานจะได้รับสิทธิในการจัดหาผลประโยชน์จากที่ดินของการรถไฟฯ

โดยผู้สนใจจะต้องเสนอโครงการลงทุนก่อสร้างทางรถไฟและทางรถยนต์ยกระดับพร้อมอาคารสถานี เครื่องอุปกรณ์อาณัติสัญญาณ โทรคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และสาธารณูปโภคอย่างครบถ้วน กำหนดระยะเวลาดำเนินการตามโครงการ 30 ปี ไม่นับรวมระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3-5 ปี โดยต้องเสนอโครงการต่อ กระทรวง ตามเงื่อนไขที่กำหนดรวม 7 ข้อ เช่น ต้องเสนอรายละเอียดโครงการพร้อมแผนงาน ผลปประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสม ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนวน 1,500 ล้านบาท ต้องชดเชยอาคารที่มีการรื้อถอน 

โครงการนี้ มีผู้สนใจซื้อซอง 4 ราย แต่มีผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียว คือ โฮปเวลล์

กระทรวง รับข้อเสนอของโฮปเวลล์ เสนอ ครม. เพื่อพิจารณา

3.2 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2533 กระทรวง และการรถไฟฯ ได้ทำสัญญาสัมปทานระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับใน กทม. และประโยชน์จากที่ดินกับ โฮปเวลล์

ต่อมา มีการแก้ไขสัญญา มีสาระสำคัญสรุปได้ว่า การก่อสร้างส่งมอบเฉพาะระบบรถไฟ และถนนยกระดับ

ส่วนโครงสร้างทาง อาคาร สิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่สัมปทานตกเป็นของการรถไฟฯทันทีที่ก่อสร้าง โดยโฮปเวลล์มีสิทธิใช้ประโยชน์สิ่งปลูกสร้างตลอดอายุสัมปทาน โฮปเวลล์มีสิทธิเก็บรายได้จากระบบทางด่วนยกระดับและทางรถไฟและทรัพย์สินเชิงพาณิชย์อื่นๆ โดยโฮปเวลล์ มีหน้าที่ออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการออกแบบก่อสร้าง ประกอบการ ดูแลบำรุงรักษาทั้งหมดตลอดระยะเวลาสัมปทาน และระยะเวลาสัมปทานมีกำหนด 30 ปี นับแต่วันที่สัญญาใช้บังคับ สำหรับเวลาก่อสร้างมีกำหนด 8 ปี นับแต่วันที่สัญญาใช้บังคับ

3.3 หลังจากทำสัญญาแล้ว การรถไฟฯ เห็นว่า โฮปเวลล์ทำงานการก่อสร้างจริงได้เพียงในระยะที่ 1 เท่านั้น ซึ่งตามแผนงานวางไว้ต้องเริ่มก่อสร้างระยะที่ 1 ถึงระยะที่ 5 ตามลำดับ และมีปัญหาเกี่ยวกับจุดตัดถนน แต่ก็ยังเห็นว่าแก้ไขและทำให้เสร็จได้ตามระยะเวลาสัญญา  กระทรวงและการรถไฟฯจึงรายงานต่อ ครม.

ต่อมา เดือน เม.ย.2539 การรถไฟฯ รายงาน ครม. ว่า ผลการดำเนินการได้ประมาณ ร้อยละ 5 ซึ่งตามแผนควรมีความก้าวหน้าร้อยละ 67 การก่อสร้างจึงอยู่ในเกณฑ์ล่าช้ามากกระทรวง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัด ติดตาม ควบคุมดำเนินงานตามสัมปทาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าของงาน แต่โฮปเวลล์ก็ยังไม่สามารถก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 เสร็จได้ ต่อมากระทรวง มีหนังสือแจ้งเตือนกรณีงานล่าช้า แต่โฮปเวลล์ก็ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ โดยอ้างอุปสรรคของพื้นที่ก่อสร้างต่างๆ แต่กระทรวงเห็นว่าไม่ตรงข้อเท็จจริง 

ต่อมา กระทรวง เสนอ ครม.ว่าควร บอกเลิกสัญญาสัมปทาน เนื่องจากโครงการนี้ได้ใช้เวลาดำเนินการมา 6 ปี แต่ผลการดำเนินการก่อสร้างต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดในแผนมาก คาดหมายได้ว่าโฮปเวลล์ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญาได้ ซึ่งจะมีผลจะกระทบกับแผนงานโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรของ กทม. รวมทั้งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อแผนพัฒนากิจการการรถไฟฯในอนาคต เมื่อ 23 ธ.ค.2540 ครม. จึงเห็นชอบการบอกเลิกสัญญา 

3.4 ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2541 กระทรวง ได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญา และห้ามมิให้โฮปเวลล์เข้าไปเกี่ยวข้องกับพื้นที่โครงการ โฮปเวลล์จึงมีหนังสือวันที่ 30 ม.ค.2541 และ 2 ก.พ. 2541 แจ้งกระทรวง ว่าการบอกเลิกสัญญาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของสัญญา กระทรวงจึงผิดสัญญาและต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โฮปเวลล์

25 ก.พ.2541 กระทรวง มีหนังสือแจ้งยืนยันการบอกเลิกสัญญาและแจ้งว่า การบอกเลิกตามกระบวนการของกฎหมายแล้ว สัญญาเป็นอันสิ้นสุดลง จึงไม่ต้องดำเนินการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการและโฮปเวลล์ไม่มีสิทธิครอบครองพื้นที่สัมปทานและห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องหรือดำเนินการใดๆ และให้ขนย้ายเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ออกจากพื้นที่ก่อสร้างภายใน 15 วันนับจากได้หนังสือฉบับนี้ 

ต่อมาโฮปเวลล์ก็มีหนังสือโต้แย้งว่าการบอกเลิกสัญญาต้องเป็นไปตามสัญญา และยืนยันสิทธิเรียกค่าเสียหาย กระทรวง จึงมีหนังสือยืนยันว่า การบอกเลิกสัญญานี้เป็นการบอกเลิกตาม ปพพ. มาตรา 388 มิใช่กรณีการเวนคืนระบบหรือพื้นที่สัมปทาน ตามสัญญา แต่กระทรวง เห็นว่าโฮปเวลล์ ไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามสัญญาได้ จึงเป็นการบอกเลิกที่ชอบแล้ว

23 มิ.ย.2543 โฮปเวลล์มีหนังสือแจ้งว่าการบอกเลิกสัญญาไม่เป็นไปตามขั้นตอนในสัญญา ทำให้ได้รับความเสียหาย ให้กระทรวง ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนกว่า 20,000 ล้านบาทภายใน 30 วัน

ต่อมา โฮปเวลล์มีหนังสือขอให้เปิดการเจรจาเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว หากกระทรวง ไม่ตกลง ภายใน 60 วัน โฮปเวลล์จะเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการ

กระทรวง และการรถไฟฯ ไม่ได้เจรจาภายใน 60 วัน

โฮปเวลล์จึงเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ โดยอ้างว่าการบอกเลิกสัญญาของ กระทรวง และการรถไฟฯ ทำให้โฮปเวลล์ได้รับความเสียหาย เรียกค่าเสียหาย เป็นทุนทรัพย์จำนวนประมาณ สองหมื่นแปดพันกว่าล้านบาท ต่อมากระทรวงและการรถไฟฯก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องแย้งต่ออนุญาโตตุลาการ

3.5 อนุญาโตตุลาการกำหนดประเด็นพิพาทแยกสำนวนโดย 

1. ข้อพิพาทที่โฮปเวลล์ยื่น กำหนดประเด็นวินิจฉัยชี้ขาดเป็น 4 ประเด็น คือ 

1.1 โฮปเวลล์เสนอให้ระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการได้หรือไม่

1.2 สิทธิเสนอข้อเรียกร้องให้ระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการของโฮปเวลล์พ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายหรือไม่

1.3 สัมปทานเลิกกันโดยปริยายหรือโดยข้อกฎหมาย

1.4 คู่สัญญาจะกลับคืนสู่ฐานะเดิมตาม ปพพ. ม. 391 หรือไม่

2. ข้อเรียกร้องแย้งที่กระทรวง และการรถไฟฯยื่นกำหนดประเด็นวินิจฉัยชี้ขาดเป็น 3 ประเด็น คือ 

2.1 โฮปเวลล์ผิดสัญญาหรือไม่

2.2 กระทรวงและการรถไฟฯ บอกเลิกสัญญาชอบหรือไม่

2.3 กระทรวงและการรถไฟฯ เสียหายหรือไม่ เพียงใด

อนุญาโตตุลาการได้วินิจฉัยชี้ขาดให้กระทรวง และการรถไฟฯ ร่วมกันหรือแทนกันคืนค่าธรรมเนียมการออกหนังสือค้ำประกัน และใช้เงินค่าก่อสร้างโครงการ กระทรวง และการรถไฟฯจึงยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ส่วนโฮปเวลล์ก็ยื่นคำร้องขอบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ 

ศาลชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ

โฮปเวลล์ไม่เห็นด้วย จึงอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

พรุ่งนี้ มาดูกันถึงรายละเอียดที่ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. อย่ามั่วโจมตีนายกฯลงพื้นที่ เลขา‘อนุทิน’โต้ ช่วยปชช./ไม่ใช่เกมการเมือง
06:00 น. ชาวบ้านมึน‘MOU’ เปิดผลโพลส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ แต่หนุนทำ‘ประชามติยกเลิก’
06:00 น. กมธ.มั่นคงฯสอบ ติดสินบน‘ดีอี’40ล้านบาท เรียก‘ไชยชนก’ชี้แจง9ต.ค.
06:00 น. ‘พิ้งค์พลอย’ ขอบคุณแฟนละคร ‘เมืองแก้ว’ กระแสชื่นชมแรงจนถึงอีพีสุดท้าย
06:00 น. ‘ดีเจแบงค์ กรมิษฐ์’ ชวนดูหนังยกก๊วนส่งท้ายปี กับกิจกรรม ‘Goodtime Radio Movie Gang’
ดูทั้งหมด
ภรรยาสุดปลื้ม! 'เสธเบิร์ด'ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น'พลโท' แฟนคลับแห่ยินดีเพียบ
‘กรุงไทย’ประกาศปิดฉากแอป‘เป๋าตุง’ ย้ายบริการสแกนจ่ายไป‘ถุงเงิน’
เปิดภาพตอกหน้าเขมรแสร้งเล่นบทเหยื่อ ทั้งที่ไทยคือผู้นำ'สันติภาพ'เข้าสู่กัมพูชาที่แท้จริง
ส่งกำลังใจ! 'วิว วรรณรท'โพสต์คำเดียวทำแฟนคลับห่วงหนัก
วีรกรรมเขมรถ่อย!! เทน้ำราดหัวเจ้าหน้าที่สนามบินมาเลเซีย หลังก่อกวนบนเครื่องบิน
ดูทั้งหมด
การพัฒนาตนเอง กายใจสุขภาพ ใช้หลักคิดที่ได้ผลดี จากการนำมาใช้ในชีวิตจริง 2
ฝ่ากับระเบิด
อย่าบังอาจ เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น
บุคคลแนวหน้า : 6 ตุลาคม 2568
ทางเลือกคนไทย‘สีส้ม-สีน้ำเงิน-สีฟ้า’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อ่วมหนัก! ไต้ฝุ่น'แมตโม'พัดถล่มจีนรับวันหยุดยาววันชาติ

'เอมมี่ มรกต'เสิร์ฟลุคแซ่บไฟลุก แม่ลูกหนึ่งแต่หุ่นเป๊ะเกินต้าน!

จบภารกิจ'หัวใจติดปีก' 'นายกฯ'บินกลับ กทม.พร้อม'หัวใจ-ไต 2 ข้าง'

เปิดร่าง พ.ร.ฎ.พัฒนาสิทธิประโยชน์ ประกันสังคม ม.40 รัฐบาลเร่งเดินหน้าผลักดัน

'ดีเจต้นหอม'เดือดจัด! ปมครูใช้ฟุตเหล็กฟาดหน้าเด็ก 7 ขวบ

3 คำถามคาใจ หลังผ่าน 1 สัปดาห์‘รัฐบาลอนุทิน’

  • Breaking News
  • อย่ามั่วโจมตีนายกฯลงพื้นที่  เลขา‘อนุทิน’โต้  ช่วยปชช./ไม่ใช่เกมการเมือง อย่ามั่วโจมตีนายกฯลงพื้นที่ เลขา‘อนุทิน’โต้ ช่วยปชช./ไม่ใช่เกมการเมือง
  • ชาวบ้านมึน‘MOU’  เปิดผลโพลส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ  แต่หนุนทำ‘ประชามติยกเลิก’ ชาวบ้านมึน‘MOU’ เปิดผลโพลส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ แต่หนุนทำ‘ประชามติยกเลิก’
  • กมธ.มั่นคงฯสอบ  ติดสินบน‘ดีอี’40ล้านบาท  เรียก‘ไชยชนก’ชี้แจง9ต.ค. กมธ.มั่นคงฯสอบ ติดสินบน‘ดีอี’40ล้านบาท เรียก‘ไชยชนก’ชี้แจง9ต.ค.
  • ‘พิ้งค์พลอย’ ขอบคุณแฟนละคร ‘เมืองแก้ว’ กระแสชื่นชมแรงจนถึงอีพีสุดท้าย ‘พิ้งค์พลอย’ ขอบคุณแฟนละคร ‘เมืองแก้ว’ กระแสชื่นชมแรงจนถึงอีพีสุดท้าย
  • ‘ดีเจแบงค์ กรมิษฐ์’ ชวนดูหนังยกก๊วนส่งท้ายปี กับกิจกรรม ‘Goodtime Radio Movie Gang’ ‘ดีเจแบงค์ กรมิษฐ์’ ชวนดูหนังยกก๊วนส่งท้ายปี กับกิจกรรม ‘Goodtime Radio Movie Gang’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่าบังอาจ  เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น

อย่าบังอาจ เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น

6 ต.ค. 2568

ทักษิณจะขอเบิ้ลอภัยโทษ ?!?!

ทักษิณจะขอเบิ้ลอภัยโทษ ?!?!

3 ต.ค. 2568

เพิ่มทางเลือกในการออมให้ประชาชน

เพิ่มทางเลือกในการออมให้ประชาชน

2 ต.ค. 2568

ทองคำทะลุ 6 หมื่นบาท  แล้วไงต่อ?

ทองคำทะลุ 6 หมื่นบาท แล้วไงต่อ?

1 ต.ค. 2568

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย  ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

30 ก.ย. 2568

พรรคส้มไม่สำเหนียก ไม่สำนึก  ยังจะดันทุรังเดินหน้าแก้ ม.112

พรรคส้มไม่สำเหนียก ไม่สำนึก ยังจะดันทุรังเดินหน้าแก้ ม.112

29 ก.ย. 2568

ไม่แก้รัฐธรรมนูญ  ไม่สิ้นเปลือง ไม่เสียเวลา ไม่เอื้อนักการเมืองโกง

ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่สิ้นเปลือง ไม่เสียเวลา ไม่เอื้อนักการเมืองโกง

26 ก.ย. 2568

ทองคำจะไปถึง 60,000 บาท !?!

ทองคำจะไปถึง 60,000 บาท !?!

25 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved