รัฐบาลประยุทธ์ 2 ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณเฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามรัฐธรรมนูญ และเข้ารับตำแหน่งหน้าที่แล้วตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เวลา 18.00 น. และนับแต่บัดนั้น คสช. พร้อมอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 รวมทั้งกองกำลังรักษาความสงบที่ คสช. ตั้งขึ้น และแม่น้ำห้าสายก็เป็นอันสิ้นสุดลง
เมื่อรัฐบาลประยุทธ์ 2 เข้ารับหน้าที่แล้วก็จะต้องแถลงนโยบายต่อสภา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน และกำลังเป็นที่จับตามองการอภิปรายนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อสภาว่าเป็นประการใด
เพราะจะเป็นครั้งแรกที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี จะได้ยืนขึ้นเบื้องหน้าสถาบันนิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง แม้ว่าจะยังมีข้อครหานินทาและยังมีปัญหาตามมาอีกมากมายก็ตาม
ในขณะที่กำลังเตรียมการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศก็เข้าสู่ขั้นใหม่ คือไม่มี คสช.แล้ว มาตรา 44 ก็ไม่มีแล้วกองกำลังรักษาความสงบก็ไม่มีแล้ว กองทัพต้องกลับคืนสู่ที่ตั้งเพื่อปฏิบัติภารกิจของกองทัพตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติต่อไป ในขณะที่รัฐบาลก็มีเสียงปริ่มน้ำ และฝ่ายค้านก็มีเอกภาพที่แน่นแฟ้น
ที่สำคัญคือสถานการณ์การทำมาค้าขาย การทำมาหากิน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่พยายามใช้การโฆษณาชวนเชื่อทางการตลาดต่อเนื่องมาหลายปีกำลังสิ้นมนต์ขลังลง เพราะในความเป็นจริงนั้นเงินได้เหือดแห้งหายไปจากท้องตลาด การหากินฝืดเคืองตลาดต่างๆ ได้โพนทะนาป่าวร้องว่าเงียบเป็นป่าช้า ราคาพืชผลซึ่งเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ก็ตกต่ำทุกรายการ
ในทางสังคมก็มีความแตกแยกแตกสามัคคีกันอย่างรุนแรง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย กระทั่งบังอาจบิดเบือนแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายกันในทางการเมือง โดยไม่คำนึงว่าสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง และประชาชนทั้งผองล้วนเคารพสักการะและได้พึ่งพาพระบารมี พระเมตตาคุณพระมหากรุณาธิคุณโดยเสมอหน้ากัน
แม้ผู้กระทำความผิดก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษตามกฎเกณฑ์เดียวกัน แม้กระทั่งผู้ต้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็พระราชทานอภัยโทษ มิได้ขึ้งเกลียดราษฎรของพระองค์เลย ดังนั้นผู้ที่มีความจงรักภักดีแท้จึงต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศชาติโดยเด็ดขาด
การผลักไสไล่ส่งประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองบางพรรคจำนวน 8 ล้านคน แบบเหมาเข่งว่าเป็นพวกล้มเจ้า เป็นการก่อความเสียหายที่ใหญ่หลวงมาก และไม่มีฐานะความเป็นจริงรองรับ เนื่องจากประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งก็เป็นเรื่องของความนิยมชมชอบให้มาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่ใช่เพื่อการล้มเจ้าตามที่ยัดเยียดใส่ความกัน
ในท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ประมาณการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ขับเคลื่อนไป และคาดว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ใส่ตู้เย็นแช่ไว้ให้บริหารจัดการกันโดยไม่ต้องเลือกตั้งนับ 5 ปีแล้ว จะได้เข้าสู่ระบบการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง
และการที่การบริหารท้องถิ่นทั่วประเทศได้ทำหน้าที่ทั้งที่พ้นวาระและตรวจสอบไม่ได้ก็ปรากฏผลชัดเจนแล้วว่ามีการทุจริตโกงกินทุกหย่อมหญ้า จน ป.ป.ช. วินิจฉัยคดีกันไม่หวาดไม่ไหว นั่นล้วนแสดงว่าการใดก็ตามที่ประชาชนตรวจสอบไม่ได้ หรือที่มีอภิสิทธิ์อยู่ในอำนาจโดยไม่เชื่อมโยงกับการเลือกตั้งของประชาชน การนั้นย่อมเป็นที่ตั้งและที่มาแห่งการทุจริตฉ้อฉล ซึ่งไม่เคยขยายตัวมากมายเหมือนครั้งนี้เลย
การเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้จะแตกต่างกับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะพื้นที่หรือเฉพาะท้องถิ่นโดยทั่วไป แต่มาครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้แข่งขันกันของพรรคการเมืองที่ต่างก็มุ่งมั่นจะส่งผู้แทนของตนเข้าไปบริหารท้องถิ่น
ขณะนี้ก็พอเห็นเค้าโครงได้แล้วว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นในขอบเขตทั่วประเทศจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างพันธมิตร 7 พรรค และพรรคพลังประชารัฐเป็นหลัก โดยจะมีพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยเข้าแทรกในบางพื้นที่
พื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยจะเป็นสมรภูมิใหญ่ที่มีการขับเคี่ยวกันในทางการเมืองท้องถิ่นอย่างถึงพริกถึงขิง และย่อมพาดพิงเกี่ยวข้องเป็นประเด็นการเมืองระดับชาติด้วย
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการทรยศต่อสัจวาจาที่พรรคการเมืองต่างๆ เคยสัญญากับประชาชนก่อนเลือกตั้งแล้วมาตระบัดสัตย์นั้นเสีย รวมทั้งประเด็นการทุจริตและความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารท้องถิ่น ตลอดจนประเด็นเรื่องประชาธิปไตยและการสืบทอดอำนาจ จะถูกยกขึ้นเป็นประเด็นหลักที่นำเสนอต่อประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้
แม้ในท้องถิ่นในทุกจังหวัดสถานการณ์ปัจจุบันก็เปลี่ยนแปลงไปแทบจะสิ้นเชิงแล้ว ข้อมูลที่ประชาชนติดตามผลการเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งรัฐสภาได้จัดทำ Facebook Live ถ่ายทอดสดตลอดเวลานั้นปรากฏว่ามีผู้เข้าชมถึง 30 ล้านคน และสื่อทุกสำนักก็ได้ทำโพลล์อิเล็กทรอนิกส์โดยมีผู้เข้าโหวตระดับ 440,000 คน และต่ำสุดระดับ 30,000 คน ล้วนเป็นสัญญาณหมายของความตื่นตัวของประชาชาติไทยครั้งใหญ่ที่สุด
การซื้อเสียงแบบบ้าๆ บอๆ การโกหกตลบตะแลง และการใช้อิทธิพลอำนาจมืดล้วนถูกจับจ้องมองจากประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้น การเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้จึงเป็นสถานการณ์ใหม่ที่อาจก่อผลสะเทือนอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ และแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี