การที่กล่าวเรื่องการเมืองที่ว่า การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์นั้นอาจมองได้สองทางกล่าวคือ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยประธานาธิบดีลินคอล์นแห่งสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครอง “ของประชาชนโดยประชาชนและเพื่อประชาชน”หมายความว่า อำนาจในการปกครองของระบอบนี้ประชาชนมีอำนาจในการปกครองประเทศตามหลักประชาธิปไตยทางอ้อม กล่าวคือ ประชาชนเลือกตัวแทนไปทำหน้าที่ปกครองประเทศเพื่อทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้มอบอำนาจให้
สำหรับประเทศไทยนั้นเนื่องจากการปกครองในปัจจุบันตามรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดให้การปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ หมายความว่า ประชาชนมีสิทธิเลือกผู้แทนส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งผู้ปกครองเกิดจากตัวแทนผู้เผด็จการ หมายความว่า ประชาชนโดยพรรคการเมืองเลือกผู้แทนส่วนหนึ่งรวมตัวเป็นสภาผู้แทนราษฎร และอีกส่วนหนึ่งได้รับการเลือกจากคณะของผู้เผด็จการเป็นสมาชิกวุฒิสภา ส่วนการตั้งรัฐบาลพรรคที่ร่วมรัฐบาลก็มิได้มีอุดมการณ์เดียวกัน การร่วมกันทำให้การจัดสรรรัฐมนตรีเป็นไปโดยระบบโควตาที่สำคัญคือในกระทรวงหนึ่งๆ นั้นจะประกอบด้วยรัฐมนตรีที่มาจากหลายพรรค ซึ่งเป็นจุดอ่อนในการบริหารงานรวมทั้งตัวข้าราชการประจำก็อาจมีปัญหากับรัฐมนตรี ประกอบกับการเมืองของประเทศไทยยังหนีไม่พ้นระบบอุปถัมภ์ ซึ่งระบบอุปถัมภ์เป็นอุปสรรคสำคัญในการทำงานของรัฐบาลเพราะผลประโยชน์อาจไม่ลงตัวทั้งกับฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำ
การจัดทำงบประมาณก็มีปัญหาทั้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและภายในระดับกระทรวงรวมถึงการประสานงานระหว่างรัฐมนตรีต่างพรรคโดยเฉพาะในเรื่องผลประโยชน์รวมกับตัวบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีด้วย นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องตัวรัฐมนตรีที่เป็นแกนหลักจากพรรคที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือปัญหาเรื่องระบบอุปถัมภ์ซึ่งจะเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด เพราะถ้าเกิดความไม่ลงรอบระหว่างรัฐมนตรีที่มาจากต่างพรรคจะก่อให้เกิดปัญหา “ผลประโยชน์ขัดกัน” ถ้าประนีประนอมได้ก็ดีไปแต่ถ้าเป็นไปตามสุภาษิตที่ว่า “ผลประโยชน์ขัดกันต้องบรรลัย” ก็จะเกิดปัญหาถึงจุดแตกหัก
สรุปรวมความว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีจุดยืนยาวหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ความสามารถและบารมีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสำคัญ เพราะปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากภายในพรรคที่สนับสนุนมากกว่าเกิดจากพรรคฝ่ายค้านดังสุภาษิตที่ว่า “สนิมเหล็กเกิดจากเนื้อในตน” ทั้งนี้เพราะพลังและอำนาจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่เหมือนเมื่อห้าปีที่ผ่านมาเพราะการเป็นรัฐบาลประยุทธ์ 2 ไม่มีดาบอาญาสิทธิ์ คือ มาตรา 44 อีกต่อไป รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งนี้ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวเป็นสำคัญเพราะประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 เป็นต้นมา รัฐบาลเผด็จการที่จะผันตัวเป็นประชาธิปไตยในที่สุดก็ไม่สามารถฝ่ามรสุมได้เพราะเกิดจากอำนาจ และผลประโยชน์ ที่ไม่สามารถก้าวข้ามได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี