วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บ้านเกิดเมืองนอน
บ้านเกิดเมืองนอน

บ้านเกิดเมืองนอน

สิริอัญญา
วันพุธ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562, 02.00 น.
จับตาการอภิปรายปมถวายสัตย์ฯ

ดูทั้งหมด

  •  

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านได้เข้าชื่อกันเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติในกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเข้ารับตำแหน่งที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 18 กันยายนนี้

จากนั้นก็ถึงวาระปิดสมัยประชุมสามัญของรัฐสภา ผลการอภิปรายเป็นอย่างไรจึงอยู่ในความสนใจของผู้คนจำนวนมาก


เพราะเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น เนื่องจากในอดีตตลอดมานั้นไม่เคยมีกรณีปรากฏว่านายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรีกล่าวปฏิญาณเพื่อการเข้ารับตำแหน่งว่าไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ เรื่องที่เกิดขึ้นตลอดจนผลที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นที่จับตามองกันอย่างกว้างขวาง

แม้ว่าจะมีความพยายามมากหลายที่จะทำให้เรื่องนี้จบลงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในที่สุดความพยายามเหล่านั้นก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะในที่สุดแล้วสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่อาจจบเรื่องนี้ลงได้ จึงต้องมีการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ และยังมีกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าชื่อกันและมีการส่งเรื่องเดียวกันนี้ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่อีกด้วย

เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไปจึงเป็นเรื่องที่น่าวิเคราะห์ แต่ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอันยุติแล้วว่าที่นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น เป็นการกล่าวโดยมิได้ใช้ข้อความตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ คือมีการตัดข้อความที่รัฐธรรมนูญบัญญัติออก โดยเฉพาะคือข้อความที่ว่าจะปฏิบัติตามและรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และได้เพิ่มข้อความอื่นนอกเหนือจากที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้

ดังนั้นข้อเท็จจริงในเรื่องนี้จึงเป็นอันยุติแล้วว่าการนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณในครั้งนี้ไม่ได้ใช้ข้อความตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

เฉพาะข้อความที่ตัดออกคือการปฏิญาณว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และจะรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเนื้อหาสำคัญของการถวายสัตย์ปฏิญาณ เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในการถวายสัตย์ปฏิญาณก็คือการให้คำมั่นสัญญาเป็นสัจวาจาว่าจะมีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญประการหนึ่ง และจะต้องรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ให้มีผู้ใดละเมิดหรือฝ่าฝืนหรือล้มล้างอีกประการหนึ่ง

ส่วนข้อความที่เติมขึ้นมิได้มีนัยสำคัญ อาจถือได้ว่าเป็นแค่อดิเรกคือข้อความประกอบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ที่จะต้องดำรงไว้ซึ่งความสัตย์สุจริต แต่ก็เป็นคนละเรื่องกับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรือรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้การถวายสัตย์ปฏิญาณดังกล่าวนั้นจะมีผลอย่างไร

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบัญญัติให้รัฐบาลและคสช. อยู่ในตำแหน่งจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่เข้ารับตำแหน่งหลังการเลือกตั้งทั่วไปได้เข้ารับตำแหน่งแล้ว นั่นหมายความว่าไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตามที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่ง ก็ย่อมมีผลว่าคณะรัฐมนตรีชุดเดิมและ คสช. จะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป

ดังนั้นถ้ามีกรณีใดๆ ก็ตามที่ทำให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับตำแหน่งไม่ได้หรือยังไม่เข้ารับตำแหน่งก็จะมีผลตามรัฐธรรมนูญที่มีมาแต่เดิมว่ารัฐบาลเดิมและ คสช. จะยังคงดำรงอยู่ต่อไป

แต่ทว่ากรณีนี้ยังไม่มีองค์กรใดชี้ขาดว่าได้มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่ เพราะต่างคนต่างก็ออกความเห็นกันไป แม้จะเป็นความเห็นอย่างไรก็เป็นแค่ความเห็นของคนที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ จึงต้องอาศัยอำนาจองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ชี้ขาด หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียอมรับเสียเองว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณนั้นมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีผลเป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญ

ถ้าเป็นเช่นนั้นรัฐบาลปัจจุบันก็ยังเข้ารับตำแหน่งไม่ได้ และการทั้งหลายที่ได้ทำมาก็จะมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายที่อาจถูกยกเลิกเพิกถอนก็ได้ แต่ใช่ว่าจะไร้ทางออกเสียทีเดียว

นั่นคือถ้าหากเกิดกรณีว่ารัฐบาลยังมิได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ รัฐบาลเก่าก็ยังอยู่ คสช.ก็ยังอยู่ อำนาจตามมาตรา 44 ก็ยังอยู่ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือการกระทำทั้งหลายนับตั้งแต่วันถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นต้นมาถึงวันนี้ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้ทำหน้าที่มากหลายก็จะเป็นโมฆะ

หากเป็นเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาและความเสียหายจำนวนมากเกิดขึ้น

ดังนั้นถ้าหากมีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ายังไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติก็ดี หรือคณะรัฐมนตรียอมรับเสียเองว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณยังมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังทำหน้าที่ไม่ได้

ถ้ายอมรับกันเช่นนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช. ก็สามารถแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องดังกล่าวต่างๆ ได้ในประการดังต่อไปนี้

ประการแรก คือการแถลงยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเมื่อสภาผู้แทนราษฎรยังมีข้อติดใจว่ายังไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีก็เห็นชอบด้วย เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าวจึงยอมรับว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังปฏิบัติหน้าที่มิได้

ประการที่สอง เมื่อยอมรับในประการแรกแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ก็สามารถเรียกประชุม คสช. เพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องทั้งหลาย โดยเฉพาะการใช้อำนาจตามมาตรา 44 มีคำสั่งให้การปฏิบัติทั้งหลายตั้งแต่การถวายสัตย์ปฏิญาณและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีตลอดเวลาที่ผ่านมาให้ถือว่าเป็นการชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะทำให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

และถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรขอพระบรมราชานุญาตเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ในทำนองกระทำสัตยาบันอีกครั้งหนึ่งก็จะเป็นสิริมงคลแก่รัฐบาล

ประการที่สาม เนื่องจากปัญหาบางอย่างยังหมักหมมอยู่มาก โดยเฉพาะกฎหมายงบประมาณที่ล่าช้ากว่าปฏิทินงบประมาณมากว่า 3 เดือนแล้ว และมีข่าวว่ากว่าจะได้นำเสนอต่อรัฐสภาก็อาจล่วงเข้าเดือนตุลาคม 2562 ซึ่งกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จก็จะเป็นช่วงปีใหม่

จะทำให้การบริหารงบประมาณล่าช้ากว่ากำหนด 3-4 เดือน ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง เพราะการใช้จ่ายเงินงบประมาณนั้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 ใน 4 ประการ โดยเฉพาะคือเป็นกิจที่ต้องโหมกระหน่ำให้มีการใช้จ่ายงบประมาณในช่วง 3-4 เดือนแรกให้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

แต่ถ้าหากปล่อยให้ล่าช้าต่อไปจนถึงต้นปี 2563 ก็จะซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศให้หนักหน่วงสาหัสยิ่งขึ้น อาณาประชาราษฎรและทุกภาคส่วนก็จะได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น

ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวก่อนที่จะมีคำสั่งตามมาตรา 44 ให้การกระทำทั้งหลายที่ผ่านมาชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว ก็จะต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 เสียก่อนอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือออกคำสั่งให้มีการใช้กฎหมายงบประมาณ 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป

และหลังจากนั้นถ้าหากมีกรณีที่จะต้องปรับปรุงเพิ่มเติมแก้ไขกฎหมายงบประมาณ ก็สามารถทำเป็นร่างกฎหมายงบประมาณเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะไม่กระทบต่อการบริหารงบประมาณประจำปี 2563 และยังสามารถปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมโดยร่างกฎหมายงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลจะเสนอต่อสภาเมื่อไหร่ก็ได้ตามความเหมาะสมและสมควร

และไหนๆ จะทำเรื่องที่แก้ไขปัญหาอันเป็นผลมาจากอภินิหารทางกฎหมายที่มีการแฝงฝังไว้ในรัฐธรรมนูญดังที่พรรณนามาแล้ว ก็พึงทำบุญคุณให้กับบ้านเมืองสักเรื่องหนึ่งที่จะบังเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศให้ได้แซ่ซ้องสาธุการ

นั่นคือการใช้มาตรา 44 แก้ไขกฎหมายยาเสพติด โดยมีบทบัญญัติสรุปว่าการปลูก การแปรรูป การครอบครอง การใช้ การจำหน่าย การนำเข้าการส่งออก ซึ่งกัญชา กัญชง และกระท่อม เพื่อการรักษาความเจ็บป่วย ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด แต่ให้ผู้ปลูก ผู้ครอบครอง ผู้ใช้ ผู้จำหน่าย ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก รายงานให้เจ้าพนักงานทราบ

และออกคำสั่งตามมาตรา 44 เฉพาะอีกเรื่องหนึ่ง ให้กรมการแพทย์แผนไทยเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจในการอนุมัติและรับขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณหรือยาแผนไทย รวมทั้งอาหารหรือเครื่องสำอางที่มีกัญชา กัญชง หรือกระท่อมเป็นส่วนประกอบ และไม่อยู่ในอำนาจหรือการบังคับของ อย. อีกต่อไป

เท่านั้นแหละบ้านเมืองก็จะถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ประเทศไทยจะหายจน ประชาชนจะหายป่วยอย่างแน่นอน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:33 น. เปิดผล‘ดัชนีสร้างชาติ’2025-26 ‘ไทย’พุ่งอันดับ 3 อาเซียน ติดท็อป 46 โลก สะท้อนรากฐานมั่นคง
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • เปิดผล‘ดัชนีสร้างชาติ’2025-26 ‘ไทย’พุ่งอันดับ 3 อาเซียน ติดท็อป 46 โลก สะท้อนรากฐานมั่นคง เปิดผล‘ดัชนีสร้างชาติ’2025-26 ‘ไทย’พุ่งอันดับ 3 อาเซียน ติดท็อป 46 โลก สะท้อนรากฐานมั่นคง
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

บ้านเกิดเมืองนอน : 30 พฤศจิกายน 2567

30 พ.ย. 2567

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้าหรือไม่

26 พ.ย. 2567

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

ทรัมป์อาจชวดนั่งทำเนียบขาว

23 พ.ย. 2567

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

อย่าหวังความเปลี่ยนแปลงจากชัยชนะของทรัมป์

19 พ.ย. 2567

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

ที่ดินอัลไพน์-เขากระโดง...ชนวนระเบิดสองพรรค

16 พ.ย. 2567

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

ต้องร่วมกันพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของความยุติธรรม

12 พ.ย. 2567

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

โลกหลังทรัมป์คืนทำเนียบขาว

9 พ.ย. 2567

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

ชัยชนะของจีนในเวทีต่างประเทศ

5 พ.ย. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved