ในยุคปลายราชวงศ์ฮั่นช่วงที่แผ่นดินจีนแตกออกเป็นสามก๊ก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดสงครามเซ็กเพ็กที่โจโฉเคลื่อนทัพใหญ่ร้อยหมื่นลงใต้เพื่อปราบปรามเล่าปี่และซุนกวน หวังจะรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นเอกภาพได้มีเรื่องราวเกิดขึ้นเกี่ยวกับระบบความคิดเรื่องมรรควิถีแห่งยอดขุนพล
ซึ่งเป็นเรื่องที่นักการทหารและนักยุทธศาสตร์ทั้งหลายล้วนต้องศึกษาทำความเข้าใจ และเมื่อได้ศึกษาทำความเข้าใจแล้ว การจะไปถึงหรือไม่เพียงใดก็เป็นเรื่องของสติปัญญาความสามารถของแต่ละคน
เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ขงเบ้งอาสาเล่าปี่เป็นทูตและไปช่วยรบที่เมืองกังตั๋ง ซึ่งสามารถดำเนินวิเทโศบายทางการทูตจนทำให้ซุนกวนแห่งกังตั๋ง ซึ่งมีกำลังทหารราวสามสิบหมื่น ประกาศสงครามใหญ่ต่อต้านการรุกรานของโจโฉ ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จขั้นต้นของขงเบ้งในการทำหน้าที่ทูตของเล่าปี่แห่งเมืองกังแฮ
ครั้นสองกุนซือร่วมงานกันไปพักหนึ่ง จิวยี่ก็รู้สึกว่าขงเบ้งมีสติปัญญาความสามารถมาก หากละไว้จะเป็นภัยต่อเมืองกังตั๋งในวันข้างหน้า
จึงวางแผนหมายสังหารขงเบ้งหลายประการ แต่ขงเบ้งก็สามารถแก้เกมแก้กลรอดพ้นมาได้โดยสวัสดี
และมาถึงเรื่องอันเป็นเหตุของเรื่องนี้ จิวยี่วางแผนให้ขงเบ้งสร้างเกาทัณฑ์ 100,000 ดอก ภายในสิบวัน อ้างว่าเพื่อใช้ในการรบของพันธมิตร
เล่าซุนกับกองทัพโจโฉ ขงเบ้งได้ฟังจิวยี่ก็รู้แจ้งในกลอุบายว่าเป็นแผนสังหารที่ต้องการให้ขงเบ้งเข้าสู่ลานประหารด้วยตัวขงเบ้งเอง
แต่เดชะบุญที่ขงเบ้งได้เรียนรู้การในฟ้าอากาศว่าจะมีเหตุที่จะใช้ประโยชน์ในการได้มาซึ่งเกาทัณฑ์ 100,000 ดอกนั้น จึงอาสาจิวยี่ว่าจะเอาเกาทัณฑ์มาให้ 100,000 ดอก ภายในสามวัน และได้ทำทัณฑ์บนกันไว้ หากไม่สำเร็จขงเบ้งจะต้องถูกประหารชีวิต
จิวยี่ด้านหนึ่งดีใจที่ขงเบ้งหลงกล แต่ด้านหนึ่งก็ระแวงว่าขงเบ้งมีแผนอันใดที่จะหาเกาทัณฑ์ 100,000 ดอก ได้ตามกำหนด จึงให้โลซกเสนาธิการใหญ่ของกองทัพไปเลียบเคียงดูว่าขงเบ้งคิดอ่านประการใด
โลซกไปหาขงเบ้งที่เรือน้อยซึ่งจอดอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซี เห็นขงเบ้งนอนดูแผนผังคำนวณดาวเดือนในอากาศซึ่งโลซกไม่รู้ว่าเป็นอะไรก็สอบถามขงเบ้ง ขงเบ้งก็อธิบายว่าเป็นแผนภูมิการคำนวณดาวเดือนดินฟ้าอากาศ แล้วก็ต่อว่าโลซกที่ได้นำความที่เคยพูดจากันไปบอกจิวยี่ เป็นเหตุให้จิวยี่วางแผนสังหาร โลซกก็ได้แต่หน้าตาหม่นหมองลงเพราะเป็นความจริงตามที่ถูกขงเบ้งต่อว่านั้น
เมื่อโลซกนิ่งงงงันอยู่ ขงเบ้งจึงถามโลซกว่า หน้าที่ของผู้นำทัพมีอะไรบ้าง โลซกก็ตอบว่ามีหน้าที่ป้องกันรักษาเมือง รุกรบโจมตีข้าศึก ขงเบ้งก็ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่น่าแปลกประหลาดอันใด ขงเบ้งจึงว่าผู้เป็นขุนพลนั้นต้องรู้และเข้าถึงมรรควิถีแห่งยอดขุนพลจึงจะสามารถทำการในหน้าที่ให้สำเร็จได้ดังปรารถนา
โลซกจึงถามว่าอะไรคือมรรควิถีแห่งยอดขุนพล ขงเบ้งจึงกล่าวว่า“คนถ่อยคิดแต่จะใช้มากเอาชนะน้อย คิดแต่จะใช้แข็งเอาชนะอ่อน คนพวกนี้ไม่มีสติปัญญา ไม่เข้าถึงมรรควิถีแห่งยอดขุนพล แต่อีกพวกหนึ่งดีขึ้นมาหน่อยคือรู้จักใช้กลอุบายในการทำลายข้าศึก เช่น คนจำพวกโจโฉ จิวยี่เป็นต้น แต่แม้กระนั้นก็ยังไม่เข้าถึงมรรควิถีแห่งยอดขุนพล”
โลซกจึงถามว่าอย่างไรจึงเรียกว่าเข้าถึงมรรควิถีแห่งยอดขุนพล ขงเบ้งจึงว่าต้องเป็นผู้ที่สามารถใช้พลังจักรวาลได้ โลซกถามว่าอะไรคือพลังจักรวาล
ขงเบ้งจึงว่า “เมื่อครั้งสงครามทุ่งพกบ๋อง เราใช้ไฟเผาทหารโจโฉเสียสิบหมื่น ไฟมียุทธานุภาพมากกว่าทหารสิบหมื่นของโจโฉอีก เมื่อครั้ง
สงครามที่แม่น้ำแปะโห เราใช้น้ำไขท่วมกองทัพโจโฉเสียอีกสิบหมื่นน้ำจึงมียุทธานุภาพมากกว่าทหารสิบหมื่นของโจโฉอีก”
โลซกได้ฟังแล้วก็ตกตะลึง ขงเบ้งจึงอธิบายต่อไปว่าสิ่งที่มองเห็นไม่ว่ากำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ ภูมิประเทศราบรื่น ทุรกันดารระยะทางใกล้ ไกล และเหตุการณ์ต่างๆ ก็เป็นพลังชนิดหนึ่ง ส่วนสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น ความร้อน ความหนาว ลม ความรัก ความแค้นความศรัทธา ความเกลียดชัง ความกลัว เป็นพลังที่มองไม่เห็น แต่สามารถใช้เป็นพลังจักรวาลที่มีอานุภาพเท่ากับทหารร้อยหมื่นที่รบที่ไหนก็ชนะที่นั่น
สิ่งที่ขงเบ้งน่าจะคิดแต่ยังไม่อยากพูดในขณะนั้นก็คือ ครั้งนี้จิวยี่จิตใจคับแคบ การศึกเหนือใต้เพิ่งเริ่มต้น ก็มีความคิดริษยาหมายจะสังหารเราเสีย จึงวางแผนให้เราสร้างเกาทัณฑ์ 100,000 ดอก ในสิบวัน ซึ่งไม่มีทางทำได้สำเร็จ แต่เดชะบุญเราได้เรียนรู้การในฟ้าอากาศ
และผลจากสิ่งที่ขงเบ้งไม่ได้พูดนั้นก็คือการใช้พลังจักรวาล คือหมอกบังตาทหารร้อยหมื่นของโจโฉ นำขบวนเรือฟางเข้าไปใกล้กองทัพของโจโฉแล้วลั่นกลองศึกเป็นสัญญาณหมายเข้าโจมตี
โจโฉทราบเหตุการณ์ ตอนแรกก็สั่งทหารให้นำกองเรือออกรบ แต่ไม่ทันที่ทหารถือคำสั่งออกไป โจโฉก็เฉลียวใจเรียกทหารนั้นกลับมา แล้วสั่งว่าหมอกลงจัดอย่างนี้ จิวยี่และขงเบ้งคงวางแผนลวงให้ยกทัพเรือออกไปรบ แล้วคงมีแผนทำลายกองเรือรบของเรา ดังนั้นจึงห้ามทุกหน่วยไม่ให้ออกรบ แต่ให้ทหารทั้งบกเรือระดมยิงเกาทัณฑ์ไปที่ข้าศึก
กองทหารโจโฉทั้งค่ายน้ำค่ายบกจึงระดมยิงเกาทัณฑ์ไปที่ขบวนเรือฟางของขงเบ้งตั้งแต่เที่ยงคืนยันใกล้รุ่ง จนเรือด้านหนึ่งถูกเกาทัณฑ์ยิงติดอยู่มีน้ำหนักมาก จึงทำให้เรือเอียงลง ต้องกลับลำเรือเอาอีกด้านหนึ่งเข้ารับเกาทัณฑ์ จนเรือทรงตัวเป็นปกติอีกครั้งหนึ่งก็เป็นเวลาสาง ขงเบ้งจึงสั่งให้เคลื่อนกองเรือกลับไปยังฐานทัพเรือเมืองกังตั๋ง
สิ่งที่เรียกว่ามรรควิถีแห่งยอดขุนพลและพลังจักรวาลนั้นเป็นเรื่องที่นักการทหารและนักยุทธศาสตร์ทั้งหลายต่างก็ค้นคว้ากันอย่างลึกซึ้งกว้างขวาง แต่น่าเสียดายที่โลกตะวันตกจะศึกษาอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ยังคงยึดหลักดั้งเดิมคือใช้มากเอาชนะน้อย ใช้แข็งเอาชนะอ่อน ซึ่งก็คือลักษณะของคนถ่อยดังที่ขงเบ้งเคยกล่าวไว้นั่นเอง
จะมีก็แต่ประเทศจีนที่ได้ศึกษาค้นคว้าพัฒนามรรควิถีแห่งยอดขุนพลและพลังจักรวาลอย่างลึกซึ้ง จึงเป็นที่มาของหลักปรัชญาทางการทหารยุคใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นในยุคสงครามปลดแอกที่นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ซึ่งมีประธานเหมา เจ๋อ ตุง เป็นผู้นำ หลักยุทธศาสตร์ใหม่อันสำแดงถึงการเข้าถึงมรรควิถีแห่งยอดขุนพลและการใช้พลังจักรวาลได้สำแดงอานุภาพให้ประจักษ์ทั่วโลก
ทำให้กองทัพแดงสามารถระดมความคับแค้นชิงชัง การทรยศชาติ การขายชาติ และระดมความรักชาติของประชาชาติจีนทั้งประเทศเข้าสู่สมรภูมิได้สำเร็จ จึงสามารถได้ชัยชนะในสงครามปฏิวัติ ในสงครามยืดเยื้อต่อต้านสงครามรุกรานของญี่ปุ่น และในสงครามปลดแอกประเทศจีนจากระบอบเผด็จการทรราชของสี่ตระกูล “เจียง ซุง คุง เฉิน” ได้สำเร็จ
มหาตมะ คานธี ได้ใช้พลังจักรวาลโดยบังเอิญ โดยสามารถระดมความรักชาติที่ต้องการเอกราชอธิปไตยของอินเดีย โดยในขั้นสุดท้ายได้นำคนสนิทเพียงสี่คนเดินเท้าโฉมหน้าไปยังชายทะเลเพื่อประท้วงอังกฤษที่ผูกขาดเกลือและขึ้นราคาค่าเกลือสูงมาก จนรายได้ชาวอินเดีย 1 เดือนไม่พอที่จะซื้อเกลือสำหรับใช้ครึ่งเดือน
พลังจักรวาลก่อเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วแผ่นดินอินเดีย ชาวอินเดียได้พากันเดินเท้าเข้าสมทบกับมหาตมะ คานธี จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยล้านคน และในที่สุดก็สามารถประกาศเอกราชของอินเดียได้สำเร็จ
อยาตุล เลาะห์โคไมนี่ ผู้นำทางศาสนาสูงสุดของอิหร่าน ก็สามารถใช้พลังจักรวาลได้สำเร็จโดยบังเอิญ ระดมพลังความเกลียดแค้นชิงชังต่อรัฐบาลขายชาติที่เป็นทรราช และระดมพลังศรัทธาของชาวมุสลิมทั่วทั้งประเทศ เดินทางจากการลี้ภัยในฝรั่งเศสเข้ามายังประเทศอิหร่าน ซึ่งกองทัพอิหร่านโดยการสนับสนุนของสหรัฐเตรียมกำลังพร้อมรบและพร้อมกำจัดขบวนการปฏิวัติของท่านโคไมนี่
แต่ปรากฏว่าเมื่ออยาตุลเลาะห์ โคไมนี่ เดินทางโดยเครื่องบินถึงแผ่นดินอิหร่าน ทั้งประชาชนและทหารของอิหร่านก็ได้แปรเข้ากับโคไมนี่
ทั้งหมด การปฏิวัติอิสลามจึงสำเร็จลงโดยไม่ต้องสูญเสียกระสุนปืนเลยแม้แต่นัดเดียว
ผู้เข้าถึงมรรควิถีแห่งยอดขุนพลที่เข้าถึงและใช้พลังจักรวาลได้จึงมีพลานุภาพเหนือกว่าคนจำพวกที่รู้จักแค่ใช้มากชนะน้อย ใช้แข็งชนะอ่อนหรือใช้เล่ห์อุบายหลอกลวงโลกอย่างชะงัดให้ปรากฏชัดมาแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี