“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ที่ยืนหยัดมุ่งมั่นใน “จรรยาบรรณ-อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ยังช็อกกับปี่กลองการเมืองที่เชิดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพราะที่สุด “ฝ่ายค้านก็มีมติยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” แต่ยังอุบไต๋จะอภิปรายพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีรายใด หรือพุ่งเป้าถล่มนายกฯลุงตู่ ขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองหลายฝ่ายปรามาสว่า ฝ่ายค้านยุคนี้แค่สมันอ่อนหัด ไร้หัวหมู่ทะลวงฟัน และยังไม่เห็นว่า พรรคฝ่ายค้านจะมีข้อมูลเด็ดที่จะล้มรัฐบาลได้ เพราะ “เรือแป๊ะ” เพิ่งลอยลำนาวาได้ยังไม่ครบปีด้วยซ้ำ...
nn คงเป็นการใช้สิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจไปตามวาระเพราะ 1 สามารถยื่นอภิปรายได้ 1 ครั้ง “สุทิน คลังแสง” ประธานวิปฝ่ายค้านโวฟุ้งว่ามีหมัดเด็ด และจะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ในศึกซักฟอกครั้งนี้ รัฐบาลอย่าได้ประมาท ส่วนจะเป็นประเด็นอะไรยังไม่ขอเปิดเผย ในขณะที่ “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีอะไรหนักใจ เชื่อว่ารัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีความพร้อมที่จะชี้แจงฝ่ายค้านได้ทุกเรื่อง เพราะที่ผ่านมาทุกคนทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่สามารถตอบคำถามสังคมได้อยู่แล้ว และ ไม่กังวลกรณีเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ มั่นใจว่าสส.ซีกรัฐบาลรู้หน้าที่ดี ปัญหาเสียงปริ่มน้ำไม่ได้จำกัดอยู่แค่รัฐบาล ฝ่ายค้านก็มีปัญหานี้เช่นกัน “ไม้หน้าสาม” แว่วมาว่า ฝ่ายค้านกำลังรวบรวมประเด็นล็อกเป้าถล่ม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม(หูกวาง) ซึ่งกำลังถูกสื่อสำนักใหญ่ตั้งป้อมถล่มรายวัน ขณะที่เจ้ากระทรวงเองชักธงรบสั่งสส.และอดีตผู้สมัคร สส.ของพรรคทุกจังหวัดเแจ้งความร้องทุกข์ทั่วประเทศ เมื่อเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยเจอจับขึงพืดเช่นนี้ มีหรือ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” ในฐานะหัวหน้าพรรคจะทนนิ่งเฉยได้ ออกมาแอ่นอกรับทันควัน นัยว่า “เอ็งก็หมา ข้าก็หมา มาด้วยกัน...ไปด้วยกัน” ถ้าเลขาฯพรรคถูกเขี่ยพ้นคณะรัฐมนตรี ก็ต้องปลด “เสี่ยหนู” พ้นรัฐบาลด้วย ก็ต้องดูกันไปว่าศึกภายในรัฐบาลจะเป็นแค่การบลัฟกันพอหอมปากหอมคอ หรือว่าจ้องทำลายล้างกัน “ไม้หน้าสาม” เอาใจช่วย “เสี่ยหนู” ไม่ใช่ เพราะบ้านปลูกกัญชา ไว้หวังรวยอย่างที่หาเสียงก่อนการเลือกตั้ง แต่ด้วยศรัทธา “รัฐมนตรีขวัญใจประชาชน-กล้าคิด กล้าทำยึดความถูกต้อง” แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้กับ “ไอเดีย” บรรเจิดของเจ้ากระทรวงหูกวางที่เสนอโปรเจกท์มาแต่ละโครงการก็ถูกถล่มจนยับเยิน “เสียงชื่นชมกลบเสียงด่าขรมไม่มิดเลย” จับตาดูกันว่า เสียงปริ่มน้ำรัฐบาลจะมีปาหี่บทโหดแทงกันเองหรือไม่??? การเมืองยุคนี้ “ไม้หน้าสาม”เห็นแต่เรื่องแก้แค้น-สาดโคลน-เอาชนะคะคาน ไม่มีค่าไม่มีราคาไร้ประโยชน์ของประชาชน ไม่คุ้มเงินภาษีราษฎรที่เสียให้ไปเป็นค่าใช้จ่ายพวก “ผู้เฒ่ากะโหลกกะลา” ล่าสุดประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานกมธ.ก็ร้อนฉ่าด่ากันสนั่นโซเชียล กรณีเฒ่ากะโหลกกะลาคิดว่าตัวเองเป็น“ทัพช้างศึก” ประกาศ “เล่นไม่เลิก” แล้วประชาชนจะโห่ร้องเชียร์กึกก้องจึงยังดึงดันเชิญ “นายกฯลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”มาสอบสวนกรณี “กล่าวคำถวายสัตย์ฯไม่ครบไม่ถูกต้องตามมาตรา 161 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560” กระทั่งหันมา “แว้งกัด”!! กันเองเสียวุ่นวายเป็นข่าวใหญ่โตจนประชาชนสับสน ไม่รู้ว่ากมธ. ชุดนี้มีหน้าที่อะไรกันแน่ คงจดจำและทึ่งคำอภิปรายเรื่อง “กระดุม 5 เม็ดของเกษตรกร ที่ "ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคส้มหวาน อนาคตใหม่ หลานชายป๋าดุง-ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์เลขานุการส่วนตัวนายทักษิณ ชินวัตร โจรหน้าเหลี่ยมที่หลบหนีคำพิพากษาศาลไปอยู่ต่างประเทศ” อภิปรายเมื่อครั้งรัฐบาลลุงตู่แถลงนโยบาย แต่ครั้งนี้ “ผู้เฒ่ากะโหลกกะลา อย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” จะรู้ไหมว่าครั้งนี้พฤติกรรมที่แสดงอยู่ไม่ได้โชว์ภูมิปัญญาเรื่องกระดุม 5 เม็ดครับ ทว่า “ไม้หน้าสาม” จะบอกว่านี่คือกรณีติดกระดุมผิดเม็ดจะใส่เสื้อสวยหรูราคาแพงอย่างไรมันก็ไร้ค่าราคา...
nn ล่าสุด “ไม้หน้าสาม” ได้รับรายงานว่าสำนักนายกฯ ร่อนหนังสือบิ๊กตู่ และบิ๊กป้อมชี้แจงเป็น “ลายลักษณ์อักษร”ไปยังกมธ. พร้อมแจงปมถวายสัตย์ฯ ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง องค์กรอื่นไร้อำนาจตรวจสอบ-เคยแจงในสภาแล้วเมื่อ 18 ก.ย.2562 ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณผ่านสภาฯ วาระแรกไปแล้ว ไม่มีประเด็นใดเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่อยู่ในอำนาจตรวจสอบของ กมธ. แต่หากมีประเด็นสงสัยให้แจ้งรายละเอียดมาพร้อมตอบทุกประเด็น...
nn “เสธ.โหน่ง-พล.ท.พงศกร รอดชมพู” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ พร้อมส.ส.พรรคส้มหวาน-อนาคตใหม่ รวบรวมรายชื่อ เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร (ฉบับที่...) มีหลักการเพื่อยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่ทำมากกว่า 100 ปี ตามแนวทางการปฏิรูปกองทัพของพรรคอนาคตใหม่ โดยให้มีการเกณฑ์ทหารเฉพาะช่วงเวลาเกิดสงครามเท่านั้นและสามารถเกณฑ์ได้เพียง 1 ปี โดยฝึกขั้นต้น 3 เดือน ฝึกขั้นสูง 3 เดือน และรอดูสถานการณ์อีก 6 เดือน ลดอายุทหารจาก 21 ปี เป็น 18 ปี แต่ถ้าเป็นสภาวะปกติโดยไม่มีสงคราม ให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เปิดรับสมัครเฉพาะสมัครใจเท่านั้น กำหนดช่วงอายุระหว่าง 18 ถึง 40 ปีใช้เวลาฝึกจาก 2 ปี เป็น 5 ปี จำกัดจำนวนทหารให้น้อยลง เพื่อเน้นการฝึกฝนและความชำนาญให้มากขึ้น เพื่อนำงบประมาณที่เหลือมาเพิ่มเงินเดือน สวัสดิการ กองทุนการศึกษา โดยจะมีการวางระบบให้สอบเลื่อนขั้นทุก 5 ปี โดยให้เกษียณอายุ 46 ปีบริบูรณ์สิ้นสุดที่ยศพันโท เพราะนายทหารที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ลำบาก น่าสนใจสำหรับความคิดนี้ แต่กว่าจะถึงวันนั้น ไฟใต้ที่ยังคุกรุ่น และยังไม่มีท่าทีจะทุเลาเบาลงได้ ซ้ำยังมีพวกแก๊งชังชาติยุให้แบ่งแยกดินแดนปกครองตนเองอย่างนี้ เสธ.โหน่งเห็นดีงามกับสิ่งเหล่านี้ด้วยหรือไม่ เพราะหัวหน้าพรรค เสธ.โหน่งก็ไปร่วมวงเสวนาชูคอหน้าแหลมในเวทีสัญจรแยกดินแดนกับเขา จนถูกกองทัพฟ้องร้องเป็นคดีความอยู่ เรื่องนี้อนาคตใหม่มีทางออกให้กับแผ่นดินสยามอย่างไรที่ไม่ใช่การยกแผ่นดินแม่ประเคนให้กับคนกลุ่มน้อยที่จมปรักอยู่กับประวัติศาสตร์ หากจะนำประวัติศาสตร์มากำหนดอนาคตคงจะปั่นป่วนไปทั่วโลก ประเทศไทยเสียดินแดนไปมากมายจากนักล่าอาณานิคมจะทวงคืนจากกัมพูชาประเทศเพื่อนบ้านได้” หรือไม่ ช่วยตอบทีเถิด เพราะเหรียญมีสองด้านเสมอมิใช่หรือ???...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี